“สุขุมพันธุ์” ยันสถานการณ์น้ำใน กทม.ไม่น่าห่วง เผยพร้อมลงพื้นที่น้ำท่วมช่วยเหลือประชาชนทันทีที่มีภัย และเตรียมให้ความช่วยเหลือทุกด้านไว้หมดแล้ว
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะผู้บริหาร กทม.ถึงการเตรียมความพร้อมรับมือฝนตก น้ำท่วม จากอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่นกิสนา ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้คาดการณ์ลักษณะอากาศในช่วงเย็นของวันนี้ ว่า พายุไต้ฝุ่นกิสนาจะเข้าประเทศไทยทางจังหวัดมุกดาหาร มีความเร็วลมประมาณ 130 กม./ชั่วโมง ซึ่งจะส่งผลให้กทม.มีฝนตกร้อยละ 70 ของพื้นที่ไปจนถึงวันพฤหัสบดี ตนจึงได้สั่งการตั้งศูนย์ปฏิบัติการติดตามสถานการณ์ 24 ชั่วโมงที่สำนักการระบายน้ำ (สนน.) กทม.2 ดินแดง พร้อมจัดหน่วยปฏิบัติการเร่งด่วน หรือหน่วย Best เพื่อช่วยเหลือประชาชน โดยจัดเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ช่วยลดระดับน้ำ และจัดเจ้าหน้าที่พร้อมอุปกรณ์ประจำจุดน้ำท่วม ในทุกพื้นที่เขตโดยจะให้เตรียมพร้อมยังจุดเสี่ยงก่อนที่ฝนจะตกลงมา
พร้อมทั้งให้ผู้อำนวยการเขตทุกเขตลงพื้นที่สำรวจจุดน้ำท่วมซ้ำซาก เพื่อเตรียมพร้อมกรณีต้องขนย้ายสิ่งของ ให้เตรียมสะพานไม้ทางเดิน และเตรียมสถานที่ทั้งโรงเรียน วัด มัสยิด เพื่อใช้เป็นที่พักชั่วคราวได้ ซึ่งได้ประสานกองทัพภาคที่ 1 ในการให้ความช่วยเหลือ ส่วนเส้นทางถนนสายหลักที่มีปัญหาน้ำท่วมขังให้เจ้าหน้าที่เตรียมพร้อมการช่วยเหลือกรณีรถยนต์ขัดข้อง ให้จัดรถยก รถลาก เตรียมพร้อมเคลื่อนย้ายรถที่กีดขวางจราจร
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวอีกว่า ในด้านการเตรียมการลดระดับน้ำในคลองสำคัญ ทั้งคลองแสนแสบ พระโขนง ปริมาณน้ำในคลองอยู่ในระดับสูง ทาง สนน.กำลังเร่งระบายเพื่อลดระดับน้ำในคลอง ให้พร้อมรับน้ำฝน ส่วนปริมาณการระบายน้ำจากภาคเหนือมาที่เขื่อนเจ้าพระยา ระดับน้ำอยู่ที่ 1,000 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ซึ่งยังอยู่ในระดับที่ กทม.รับได้ คือ ไม่เกิน 2,500 ลูกบาศก์เมตร/วินาที และในช่วงนี้ยังไม่มีปัญหาเรื่องน้ำทะเลหนุนสูงซึ่งน้ำทะเลจะหนุนสูงสุดในช่วงกลางเดือนตุลาคม และพฤศจิกายน ในช่วงที่ผ่านมาจะมีปัญหามาจากน้ำฝนเท่านั้นซึ่งปีนี้ตั้งแต่เดือนมกราคม - สิ้นเดือนกันยายน ปริมาณฝนร่วมอยู่ที่ 1,600 มิลลิเมตร เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วอยู่ที่ 1,400 มิลลิเมตร ประชาชนที่ได้รับความเดือนร้อนจากปัญหาน้ำท่วมสามารถขอความช่วยเหลือได้ที่สายด่วน กทม.1555
ทั้งนี้ ขอยืนยันว่า กทม.ยังอยู่ในสถานการณ์ที่ปลอดภัยแต่ก็จะไม่ประมาท ซึ่งหากมีฝนตกหนักตนจะไปประจำยังศูนย์ปฏิบัติการเพื่อสามารถลงพื้นที่เพื่อช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะผู้บริหาร กทม.ถึงการเตรียมความพร้อมรับมือฝนตก น้ำท่วม จากอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่นกิสนา ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้คาดการณ์ลักษณะอากาศในช่วงเย็นของวันนี้ ว่า พายุไต้ฝุ่นกิสนาจะเข้าประเทศไทยทางจังหวัดมุกดาหาร มีความเร็วลมประมาณ 130 กม./ชั่วโมง ซึ่งจะส่งผลให้กทม.มีฝนตกร้อยละ 70 ของพื้นที่ไปจนถึงวันพฤหัสบดี ตนจึงได้สั่งการตั้งศูนย์ปฏิบัติการติดตามสถานการณ์ 24 ชั่วโมงที่สำนักการระบายน้ำ (สนน.) กทม.2 ดินแดง พร้อมจัดหน่วยปฏิบัติการเร่งด่วน หรือหน่วย Best เพื่อช่วยเหลือประชาชน โดยจัดเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ช่วยลดระดับน้ำ และจัดเจ้าหน้าที่พร้อมอุปกรณ์ประจำจุดน้ำท่วม ในทุกพื้นที่เขตโดยจะให้เตรียมพร้อมยังจุดเสี่ยงก่อนที่ฝนจะตกลงมา
พร้อมทั้งให้ผู้อำนวยการเขตทุกเขตลงพื้นที่สำรวจจุดน้ำท่วมซ้ำซาก เพื่อเตรียมพร้อมกรณีต้องขนย้ายสิ่งของ ให้เตรียมสะพานไม้ทางเดิน และเตรียมสถานที่ทั้งโรงเรียน วัด มัสยิด เพื่อใช้เป็นที่พักชั่วคราวได้ ซึ่งได้ประสานกองทัพภาคที่ 1 ในการให้ความช่วยเหลือ ส่วนเส้นทางถนนสายหลักที่มีปัญหาน้ำท่วมขังให้เจ้าหน้าที่เตรียมพร้อมการช่วยเหลือกรณีรถยนต์ขัดข้อง ให้จัดรถยก รถลาก เตรียมพร้อมเคลื่อนย้ายรถที่กีดขวางจราจร
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวอีกว่า ในด้านการเตรียมการลดระดับน้ำในคลองสำคัญ ทั้งคลองแสนแสบ พระโขนง ปริมาณน้ำในคลองอยู่ในระดับสูง ทาง สนน.กำลังเร่งระบายเพื่อลดระดับน้ำในคลอง ให้พร้อมรับน้ำฝน ส่วนปริมาณการระบายน้ำจากภาคเหนือมาที่เขื่อนเจ้าพระยา ระดับน้ำอยู่ที่ 1,000 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ซึ่งยังอยู่ในระดับที่ กทม.รับได้ คือ ไม่เกิน 2,500 ลูกบาศก์เมตร/วินาที และในช่วงนี้ยังไม่มีปัญหาเรื่องน้ำทะเลหนุนสูงซึ่งน้ำทะเลจะหนุนสูงสุดในช่วงกลางเดือนตุลาคม และพฤศจิกายน ในช่วงที่ผ่านมาจะมีปัญหามาจากน้ำฝนเท่านั้นซึ่งปีนี้ตั้งแต่เดือนมกราคม - สิ้นเดือนกันยายน ปริมาณฝนร่วมอยู่ที่ 1,600 มิลลิเมตร เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วอยู่ที่ 1,400 มิลลิเมตร ประชาชนที่ได้รับความเดือนร้อนจากปัญหาน้ำท่วมสามารถขอความช่วยเหลือได้ที่สายด่วน กทม.1555
ทั้งนี้ ขอยืนยันว่า กทม.ยังอยู่ในสถานการณ์ที่ปลอดภัยแต่ก็จะไม่ประมาท ซึ่งหากมีฝนตกหนักตนจะไปประจำยังศูนย์ปฏิบัติการเพื่อสามารถลงพื้นที่เพื่อช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที
