ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 ออกหมายจับ แกนนำผู้ชุมนุมที่ปิดถนนสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้สัญจรไปมา ย้ำไม่ได้จับโชว์ฝากกลุ่มเสื้อแดง แต่จะจับทุกกลุ่มที่ปิดถนน และมีการเจรจาแล้วแต่ไม่ยอม
วันนี้ (23 ก.ย.) เมื่อเวลา 13.30 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 (ผบก.น.1) พ.ต.อ.วีรวิทย์ จันทร์จำเริญ รอง ผบก.น.1 แถลงการออกหมายจับแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมที่ก่อเหตุปิดถนนทำให้ประชาชนเดือดร้อน
พล.ต.ต.วิชัย กล่าวว่า เมื่อวันที่ 22 กันยายน เวลา 16.10 น.นายเวียง ภักมี อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 44 หมู่ 11 ต.ผาน้อย อ.วังสะพุง จ.เลย แกนนำกลุ่มสหกรณ์ผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาล จ.เลย จำนวนประมาณ 100 คน ได้มารวมตัวกันที่หน้ากระทรวงการคลัง ถนนพระรามหก เพื่อเรียกร้องขอโควตาสลากเพิ่มเติมให้กลุ่มสหกรณ์ จาก 4,000 ฉบับ เป็น 6,000 ฉบับ ซึ่งกระทรวงการคลัง ยังไม่ได้จัดสรรเพิ่มให้ และยังไม่ได้รับคำตอบที่น่าพอใจ ซึ่งแกนนำได้สั่งการให้กลุ่มผู้ชุมนุมออกมายืนจับกลุ่มปิดกั้นถนนอารีย์สัมพันธ์และถนนพระรามหกต่อเนื่องกันเป็นเหตุให้จราจรตดขัด ประชาชนไม่สามารถใช้รถผ่านไปได้
พล.ต.ต.วิชัย กล่าวอีกว่า ตนและ พ.ต.อ.วีรวิทย์ ได้ไปเจรจาแต่ก็ไม่เป็นผล ซึ่งถือว่าผิดกฎหมาย พนักงานสอบสวนจึงขออำนาจศาลอาญาออกหมายจับนายเวียง ในข้อหาร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่สิบคนขึ้นไปกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง โดยเป็นหัวหน้าหรือเป็นผู้มีหน้าที่สั่งการ ซึ่งศาลได้ออกหมายจับที่ 2752/2552 ลงวันที่ 23 กันยายน 2552 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
“นอกจากนี้ ผมได้เรียกฝ่ายสืบสวนใน บก.น.1 มาชี้แจงนโยบายและสิทธิในการปิดถนนและจราจรทำให้ประชาชนเดือดร้อน เมื่อไปเจรจาแล้วไม่ยอมจึงขอหมายศาลจับกุมซึ่งจะติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป เพราะการชุมนุมเรียกร้องต่างๆถือว่าทำได้แต่ต้องไม่กระทบสิทธิของผู้อื่น และบก.น.1 มีนโยบายว่า หากปิดถนนและจราจรเดือดร้อน ซึ่งเดือนที่ผ่านมา บก.น.1 ก็ออกหมายจับ 3 แกนนำบริษัทไทรอัมส์ที่ออกมาปิดรัฐสภา หน้าทำเนียบรัฐบาลและถนนอู่ทองในมาแล้ว” ผบก.น.1 กล่าว
เมื่อถามว่า เป็นการฝากถึงกลุ่มเสื้อแดงที่จะมีการนัดชุมนุมในเดือนตุลาคมนี้ใช่หรือไม่ พล.ต.ต.วิชัย กล่าวว่า ฝากถึงทุกกลุ่มว่าอย่าทำให้ประชาชนเดือดร้อน ส่วนที่ลานพระรูปที่ผ่านมาก็ต้องดูว่าเป็นไปตามสิทธิตามกฎหมายหรือไม่ เพราะครั้งนั้นมีการชุมนุมจำนวนมากจึงต้องมีการปิดถนนกีดขวางจราจรไปตามปริยาย ส่วนครั้งนี้คนไม่มาก แต่กลับมีการสั่งการให้ปิดถนน ซึ่งครั้งนี้ไม่จำเป็นต้องให้ประชาชนแจ้งความ แต่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรเป็นผู้ร้องทุกข์เองเลย
วันนี้ (23 ก.ย.) เมื่อเวลา 13.30 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 (ผบก.น.1) พ.ต.อ.วีรวิทย์ จันทร์จำเริญ รอง ผบก.น.1 แถลงการออกหมายจับแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมที่ก่อเหตุปิดถนนทำให้ประชาชนเดือดร้อน
พล.ต.ต.วิชัย กล่าวว่า เมื่อวันที่ 22 กันยายน เวลา 16.10 น.นายเวียง ภักมี อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 44 หมู่ 11 ต.ผาน้อย อ.วังสะพุง จ.เลย แกนนำกลุ่มสหกรณ์ผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาล จ.เลย จำนวนประมาณ 100 คน ได้มารวมตัวกันที่หน้ากระทรวงการคลัง ถนนพระรามหก เพื่อเรียกร้องขอโควตาสลากเพิ่มเติมให้กลุ่มสหกรณ์ จาก 4,000 ฉบับ เป็น 6,000 ฉบับ ซึ่งกระทรวงการคลัง ยังไม่ได้จัดสรรเพิ่มให้ และยังไม่ได้รับคำตอบที่น่าพอใจ ซึ่งแกนนำได้สั่งการให้กลุ่มผู้ชุมนุมออกมายืนจับกลุ่มปิดกั้นถนนอารีย์สัมพันธ์และถนนพระรามหกต่อเนื่องกันเป็นเหตุให้จราจรตดขัด ประชาชนไม่สามารถใช้รถผ่านไปได้
พล.ต.ต.วิชัย กล่าวอีกว่า ตนและ พ.ต.อ.วีรวิทย์ ได้ไปเจรจาแต่ก็ไม่เป็นผล ซึ่งถือว่าผิดกฎหมาย พนักงานสอบสวนจึงขออำนาจศาลอาญาออกหมายจับนายเวียง ในข้อหาร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่สิบคนขึ้นไปกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง โดยเป็นหัวหน้าหรือเป็นผู้มีหน้าที่สั่งการ ซึ่งศาลได้ออกหมายจับที่ 2752/2552 ลงวันที่ 23 กันยายน 2552 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
“นอกจากนี้ ผมได้เรียกฝ่ายสืบสวนใน บก.น.1 มาชี้แจงนโยบายและสิทธิในการปิดถนนและจราจรทำให้ประชาชนเดือดร้อน เมื่อไปเจรจาแล้วไม่ยอมจึงขอหมายศาลจับกุมซึ่งจะติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป เพราะการชุมนุมเรียกร้องต่างๆถือว่าทำได้แต่ต้องไม่กระทบสิทธิของผู้อื่น และบก.น.1 มีนโยบายว่า หากปิดถนนและจราจรเดือดร้อน ซึ่งเดือนที่ผ่านมา บก.น.1 ก็ออกหมายจับ 3 แกนนำบริษัทไทรอัมส์ที่ออกมาปิดรัฐสภา หน้าทำเนียบรัฐบาลและถนนอู่ทองในมาแล้ว” ผบก.น.1 กล่าว
เมื่อถามว่า เป็นการฝากถึงกลุ่มเสื้อแดงที่จะมีการนัดชุมนุมในเดือนตุลาคมนี้ใช่หรือไม่ พล.ต.ต.วิชัย กล่าวว่า ฝากถึงทุกกลุ่มว่าอย่าทำให้ประชาชนเดือดร้อน ส่วนที่ลานพระรูปที่ผ่านมาก็ต้องดูว่าเป็นไปตามสิทธิตามกฎหมายหรือไม่ เพราะครั้งนั้นมีการชุมนุมจำนวนมากจึงต้องมีการปิดถนนกีดขวางจราจรไปตามปริยาย ส่วนครั้งนี้คนไม่มาก แต่กลับมีการสั่งการให้ปิดถนน ซึ่งครั้งนี้ไม่จำเป็นต้องให้ประชาชนแจ้งความ แต่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรเป็นผู้ร้องทุกข์เองเลย
