"ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์" หวังสถานีสูบน้ำพระโขนงและอุโมงค์สูบน้ำเร่งระบายน้ำท่วมขังได้เร็ว ช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วมขังพื้นที่บางกะปิ ลาดพร้าว วังทองหลางและห้วยขวางได้ แต่ยังห่วงถนนรัชดา-ลาดพร้าวระบายน้ำไม่ทัน เร่งสร้างอุโมงค์สูบน้ำลอดคลองบางซื่อในเสร็จใน 3 ปี
วันที่ 5 กันยายน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวภายหลังเดินทางไปตรวจเยี่ยมการทำงานของสถานีสูบน้ำพระโขนง ซอยสุขุมวิท 50 ซึ่งเป็นสถานีสูบน้ำใหญ่ที่สุดของ กทม.มีกำลังเครื่องสูบน้ำ 51 เครื่อง สูบได้ 173 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที (ลบ.ม.ต่อวินาที) ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างอุโมงค์สูบน้ำในบริเวณใกล้เคียงกัน โดยการก่อสร้างคืบหน้าเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ ได้ทำการเปิดดำเนินการในระหว่างก่อสร้างมาประมาณ 1 ปีแล้ว อุโมงค์นี้จะมีเครื่องสูบน้ำ 4 เครื่องมีกำลังดึงน้ำรวม 60 ลบ.ม.ต่อวินาที เมื่อรวมพลังสูบน้ำของสถานีสูบน้ำพระโขนงและอุโมงค์สูบน้ำ รวมปริมาณ 233 ลบ.ม.ต่อวินาที ซึ่งครอบคลุมการดึงน้ำจากคลองพระโขนง คลองประเวศ คลองแสนแสบ และคลองลาดพร้าว ทำให้ปริมาณน้ำท่วมขังลดลงในพื้นที่บางกะปิ ลาดพร้าว วังทองหลาง และห้วงขวาง
"ช่วงนี้มีฝนตกต่อเนื่องแต่ไม่ห่วงเรื่องการระบายน้ำท่วมขัง เนื่องจาก กทม.มีทั้งสถานีสูบน้ำและอุโมงค์ช่วยระบายน้ำอยู่ แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นยังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้าน กรณีระบายน้ำไม่ทันในช่วงที่ฝนตกปริมาณมาก ๆ ทำให้ชุมชนรอบบริเวณสถานีสูบน้ำประสบความเดือดร้อนมีน้ำท่วมขัง มีปัญหาไฟฟ้าดับบ่อยมาก ซึ่งจุดนี้จะดูแลให้ ส่วนพื้นที่น่าห่วงคือบริเวณถนนถนนรัชดา ถนนลาดพร้าว พบมีปัญหาน้ำท่วมขัง แม้ฝนจะตกเพียงเล้กน้อย ดังนั้นจะเร่งให้เกิดการสร้างอุโมงค์ดึงน้ำลอดใต้คลองบางซื่อ เพื่อช่วยดึงน้ำย่านรัชดา ลาดพร้าวลงได้ ใช้งบก่อสร้าง 2,500 ล้านบาท ระยะยาว 6.6 กิโลเมตร คาดว่าจะสร้างเสร็จใน 3 ปี"ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าว
ด้านนายชาญชัย วิทูรปัญญากิจ ผู้อำนวยการสำนักงานระบายน้ำ กล่าวถึงปริมาณฝนที่ตกทั่วพื้นที่ กทม.ตั้งแต่ต้นปีถึงขณะนี้ 1,345 มิลลิเมตร (มม.) ถือว่าทำลายสถิติในรอบ 30 ปี ที่ผ่านมาเมื่อถึงเดือนกันยายนฝนตกไม่ถึงขนาดนี้ ปีนี้ปริมาณฝนมากกว่าปีอื่นร้อยละ 50 ถ้ารวมทั้งปีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 1,500 มม.ไม่น่ามีปัญหาน้ำท่วม
วันที่ 5 กันยายน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวภายหลังเดินทางไปตรวจเยี่ยมการทำงานของสถานีสูบน้ำพระโขนง ซอยสุขุมวิท 50 ซึ่งเป็นสถานีสูบน้ำใหญ่ที่สุดของ กทม.มีกำลังเครื่องสูบน้ำ 51 เครื่อง สูบได้ 173 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที (ลบ.ม.ต่อวินาที) ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างอุโมงค์สูบน้ำในบริเวณใกล้เคียงกัน โดยการก่อสร้างคืบหน้าเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ ได้ทำการเปิดดำเนินการในระหว่างก่อสร้างมาประมาณ 1 ปีแล้ว อุโมงค์นี้จะมีเครื่องสูบน้ำ 4 เครื่องมีกำลังดึงน้ำรวม 60 ลบ.ม.ต่อวินาที เมื่อรวมพลังสูบน้ำของสถานีสูบน้ำพระโขนงและอุโมงค์สูบน้ำ รวมปริมาณ 233 ลบ.ม.ต่อวินาที ซึ่งครอบคลุมการดึงน้ำจากคลองพระโขนง คลองประเวศ คลองแสนแสบ และคลองลาดพร้าว ทำให้ปริมาณน้ำท่วมขังลดลงในพื้นที่บางกะปิ ลาดพร้าว วังทองหลาง และห้วงขวาง
"ช่วงนี้มีฝนตกต่อเนื่องแต่ไม่ห่วงเรื่องการระบายน้ำท่วมขัง เนื่องจาก กทม.มีทั้งสถานีสูบน้ำและอุโมงค์ช่วยระบายน้ำอยู่ แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นยังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้าน กรณีระบายน้ำไม่ทันในช่วงที่ฝนตกปริมาณมาก ๆ ทำให้ชุมชนรอบบริเวณสถานีสูบน้ำประสบความเดือดร้อนมีน้ำท่วมขัง มีปัญหาไฟฟ้าดับบ่อยมาก ซึ่งจุดนี้จะดูแลให้ ส่วนพื้นที่น่าห่วงคือบริเวณถนนถนนรัชดา ถนนลาดพร้าว พบมีปัญหาน้ำท่วมขัง แม้ฝนจะตกเพียงเล้กน้อย ดังนั้นจะเร่งให้เกิดการสร้างอุโมงค์ดึงน้ำลอดใต้คลองบางซื่อ เพื่อช่วยดึงน้ำย่านรัชดา ลาดพร้าวลงได้ ใช้งบก่อสร้าง 2,500 ล้านบาท ระยะยาว 6.6 กิโลเมตร คาดว่าจะสร้างเสร็จใน 3 ปี"ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าว
ด้านนายชาญชัย วิทูรปัญญากิจ ผู้อำนวยการสำนักงานระบายน้ำ กล่าวถึงปริมาณฝนที่ตกทั่วพื้นที่ กทม.ตั้งแต่ต้นปีถึงขณะนี้ 1,345 มิลลิเมตร (มม.) ถือว่าทำลายสถิติในรอบ 30 ปี ที่ผ่านมาเมื่อถึงเดือนกันยายนฝนตกไม่ถึงขนาดนี้ ปีนี้ปริมาณฝนมากกว่าปีอื่นร้อยละ 50 ถ้ารวมทั้งปีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 1,500 มม.ไม่น่ามีปัญหาน้ำท่วม
