xs
xsm
sm
md
lg

“วิทยา” ยันซื้อครุภัณฑ์แพทย์งบไทยเข้มแข็งสะอาด - ปล่อยฟรีอนามัยซื้อเครื่องมือเองในวงเงิน 8.55 แสน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สธ.
“วิทยา” เผยได้กระจายอำนาจให้ผู้บริหารทุกจังหวัด มีสิทธิตัดสินใจและสั่งซื้อเครื่องมือและครุภัณฑ์ทางการแพทย์ในโครงการไทยเข้มแข็งตามความต้องการและจำเป็นของพื้นที่ พร้อมตั้งวอร์รูมระดับกระทรวง-จังหวัด ประสานส่วนกลางดูแลจัดซื้อจัดจ้าง ให้รายงานความคืบหน้าทุกสัปดาห์ ส่วนงานปรับปรุงสถานีอนามัย 2,151 แห่งเป็นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล เตรียมให้จัดซื้อเครื่องมือตามความต้องการ 46 รายการเองในวงเงิน 855,000 บาท

วันนี้ (27 ก.ย.) นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ในปีงบประมาณหน้า สธ.จะได้รับงบประมาณเพิ่มมากขึ้นร้อยละ 50 จากโครงการไทยเข้มแข็ง จำนวน 86,685.61 ล้านบาท ทำให้บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขต้องทำงานหนักมากขึ้น โดยได้กระจายอำนาจให้ผู้บริหารสาธารณสุขจังหวัดและผู้บริหารโรงพยาบาล เป็นผู้มีสิทธิในการตัดสินใจในโครงการดังกล่าว ซึ่งส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 60 จะเป็นงบการก่อสร้างอาคาร สำหรับการสั่งซื้อเครื่องมือและครุภัณฑ์ทางการแพทย์นั้น ยืนยันไม่มีการล็อกสเปก โรงพยาบาลสามารถสั่งซื้อได้ตามความจำเป็นและความต้องการของพื้นที่ที่จะใช้ให้บริการประชาชน

“ขณะนี้การตรวจสอบค่อนข้างรุนแรงขึ้น เป็นโอกาสดีที่สื่อนำเสนอสิ่งดังกล่าว จะทำให้กระทรวงสาธารณสุข เพิ่มการทำงานให้โปร่งใส มีระบบการตรวจสอบที่ชัดเจน ซึ่งโครงการนี้มีคณะกรรมการโครงการที่ทำงานตามหลักเกณฑ์ ขั้นตอนที่รัดกุม สามารถตรวจสอบได้ และยังได้แต่งตั้งคณะทำงานชุดพิเศษ เพื่อติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับโครงการนี้จากทุกด้านอีกด้วย” นายวิทยากล่าว

นายแพทย์คำรณ ไชยศิริ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารโครงการไทยเข้มแข็ง 2555 กล่าวว่า ในการบริหารโครงการให้บรรลุผลภายใน พ.ศ.2555 สธ.ได้ตั้งวอร์รูมระดับกระทรวงและในระดับจังหวัด โดยที่จังหวัดให้ตั้ง 2 จุดคือ ที่โรงพยาบาลศูนย์หรือโรงพยาบาลทั่วไป และที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) กำหนดให้มีผู้รับผิดชอบหลักคือ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลและนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด และให้มีผู้ประสานงานอีกอย่างน้อย 2 คน เพื่อประสานงานกับส่วนกลาง โดยส่วนกลางจะเป็นพี่เลี้ยงในการจัดซื้อจัดจ้าง จัดผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดซื้อจัดจ้าง ด้านกฎหมาย การก่อสร้าง ประจำที่วอร์รูมเพื่อให้คำปรึกษาจังหวัด และมีผู้รับผิดชอบติดตามระดับภาค 4 ภาคอีกชั้นหนึ่ง ให้จังหวัดรายงานความคืบหน้าทุกสัปดาห์

สำหรับในส่วนของการพัฒนาสถานีอนามัย 2,151 แห่งให้เป็นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ในปีงบประมาณ 2553 ซึ่งได้รับงบแห่งละ 1.35 ล้านบาท ประกอบด้วยงบส่วนก่อสร้าง 500,000 บาท และงบจัดซื้อครุภัณฑ์การแพทย์อีก 855,000 บาท โดยจากการประชุมตัวแทนผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมชน สาธารณสุขอำเภอ และสถานีอนามัย เพื่อกำหนดความต้องการของพื้นที่ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ข้อสรุปให้สถานีอนามัยจัดซื้อเครื่องมือตามความต้องการและความจำเป็นในการใช้ ใน 46 รายการ เช่น ชุดยูนิตทำฟัน เครื่องตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจแบบอัตโนมัติ เครื่องฟังเสียงหัวใจเด็กในครรภ์ เตียงนวดไทย เครื่องอัลตราซาวนด์ ชุดเครื่องเสียงสนาม เป็นต้น จากเดิมมีเพียง 20 รายการ ซึ่งบางแห่งไม่ต้องการใช้

ทั้งนี้ ราคาครุภัณฑ์การแพทย์แต่ละรายการเป็นราคางบประมาณ ไม่ใช่ราคากลางแต่อย่างใด การซื้อเครื่องมือดังกล่าวต้องอยู่ภายใต้วงเงิน 855,000 บาท หากเหลือต้องส่งคืน โดยได้จัดระบบการตรวจสอบควบคุมความโปร่งใส ให้แต่ละจังหวัดตั้งคณะกรรมการกำหนดคุณลักษณะของครุภัณฑ์การแพทย์ ตั้งราคากลาง โดยต้องมีบริษัทผู้ผลิตอย่างน้อย 2-3 บริษัท ตามหลักเกณฑ์ของระเบียบพัสดุ พ.ศ.2535 เครื่องมือแต่ละชิ้นจะต้องได้ใช้งานจริง เพื่อประโยชน์ของประชาชนอย่างเต็มที่
กำลังโหลดความคิดเห็น