xs
xsm
sm
md
lg

ครม.ตั้ง “หมอไพจิตร์” นั่งปลัด สธ. แพทย์ชนบทค้านชี้ "หัวอ่อน สั่งง่าย ไม่มีภาวะผู้นำ"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นพ.ไพจิตร์ วราชิต ว่าที่ปลัดสธ.คนใหม่
หมอไพจิตร์” นั่งเก้าอี้ปลัดสธ.คนใหม่ ลั่นสนองนโยบายรัฐเป็นรูปธรรมเต็มที่ ด้านแพทยชนบทค้านปชป.เลือก “หมอไพจิตร์” เป็นปลัดสธ.คนใหม่อาจเสียค่าโง่ครั้งใหญ่ ชี้หัวอ่อน สั่งง่าย ไม่มีภาวะผู้นำ หมดหวังคดีทุจริตรถพยาบาล-คอมพิวเตอร์ เหตุหมอใส่เกียร์ว่าง พร้อมจับตาทุจริตโครงการเมืองไทยเข้มแข็ง ส่อกลิ่นไม่ดีหลังพบข้อมูลสั่งซื้อเครื่องฆ่าเชื้ออัตราไวโอเลตติดในรพ.ราคาสูงเกินจริง

วันที่ 15 กันยายน ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ว่าที่ปลัดสธ.คนใหม่ กล่าวภายหลังครม.มีมติเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งปลัดสธ.แทนนพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ที่จะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 กันยายนนี้ว่า ขณะนี้คงต้องรอพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งปลัดสธ.ก่อนจึงจะสามารถทำงานได้เต็มตัว
อย่างไรก็ตามจะหารือกับนายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เพื่อรับมอบนโยบาย เพราะหน้าที่ของปลัดกระทรวงคือรับนโยบายมาทำให้เป็นรูปธรรมในทางปฏิบัติ ส่วนเรื่องการจัดตั้งทีมงานของตนนั้น ต้องรอหารือร่วมกับนายวิทยาก่อน ว่าจะพิจารณาเลือกใครที่เหมาะสมมาช่วยงาน แต่โดยส่วนตัวแล้วตนไม่มีทีมงานของตัวเองอยู่แล้ว

“ยอมรับว่า ภารกิจของสธ. ต้องเหนื่อย เพราะมีงานมาก ทุกคนต้องทำงานหนัก ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ต้องมีภารกิจที่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการไทยเข้มแข็ง จึงต้องมีการรวมพลังทำงานกับหน่วยงานต่างๆอย่างเต็มที่ รวมถึงทำงานร่วมกับหน่วยงานขึ้นต้นด้วย ส .ต่างๆ เพื่อให้ประชาชนมีสุขภาพดี ทุกอย่างต้องยึดประชาชนเป็นตัวตั้ง ที่สำคัญ สธ. มีคนเก่งมาก ผมต้องเป็นผู้ประสานให้ดี”นพ.ไพจิตร์กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการประชุมครม. เสร็จสิ้น นพ.ไพจิตร์ ได้เดินทางเข้า สธ. โดยเลขานุการส่วนตัว ได้เตรียมพวงมาลัยให้เพื่อนำไปสักการะพระพุทธรูปที่ห้องทำงาน โดยมีสีหน้ายิ้มแย้ม แจ่มใส ขณะเดียวกันมีกระเช้าดอกไม้และข้าราชการในกระทรวงสาธารณสุขทยอยเข้าแสดงความยินดีกันอย่างเนื่องแน่นห้องทำงาน

ด้านนายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัทพ์ ว่า เหตุผลที่ตัดสินใจเลือกนพ.ไพจิตร์ วราชิต เป็นปลัดสธ.คนใหม่เพราะ นพ.ไพจิตร์เป็นผู้เหมาะสม สามารถทำงานร่วมกับทุกฝ่ายได้ดี ไม่มีข้อขัดแย้งกับใคร และได้รับความเชื่อมั่นจากผู้บริหารด้วยกันสูง ส่วนใครจะเชียร์ใครท้ายที่สุดต้องทำงานร่วมกันได้ทุกคน

ขณะที่นพ.เกรียงศักดิ์ วัชระนุกูลเกียรติ ประธานชมรมแพทย์ชนบท กล่าวว่า รู้สึกผิดหวังและไม่รู้สึกยินดีที่นพ.ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดสธ.ได้รับตำแหน่งปลัดสธ.คนใหม่ เพราะนพ.ไพจิตร์ เป็นคนหัวอ่อน ไม่มีภาวะผู้นำโดยเห็นได้จากการเป็นประธานสอบทุจริตรถพยาบาลฉุกเฉินระดับสูงที่ไม่มีการลงโทษผู้กระทำความผิดแต่อย่างใด ทั้งๆ ที่มีผู้กระทำผิดชัดเจน จึงเป็นผู้ที่มีแนวโน้มการประนีประนอมกับการทุจรติ รวมถึงอาจจะใส่เกียร์ว่างไม่สนใจเรื่องนี้ ดังนั้นแพทย์ชนบทจะจับตาในเรื่องนี้อย่างเข้มงวด โดยจะทำหนังสือท้วงติงมายังสธ.เป็นระยะๆ

นพ.เกียรติศักดิ์ กล่าวด้วยว่า แพทย์ชนบทคงไม่ออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านการแต่งตั้งปลัดสธ.คนใหม่ เพราะที่ผ่านมาการแต่งตั้งก็ไม่ได้รับฟังความเห็นแพทย์ชนบทเลย การเมืองเพียงต้องการเลือกคนที่สามารถสนองต่อนโยบายทางการเมืองได้เป็นอย่างดี ซึ่งตรงกับบุคลิกของนพ.ไพจิตร์ ที่มีภาพลักษณ์อ่อนน้อมถ่อมตน หัวอ่อน ไม่กล้าตัดสินใจ ซึ่งเป็นจุดอ่อนที่ทำให้ถูกฝ่ายการเมืองบีบได้ ส่งผลให้การบริหารงาน สธ. เป็นไปได้อย่างลำบาก”นพ.เกรียงศักดิ์กล่าว

"สะท้อนให้เห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์เข้ามาทำงานโดยไม่มีความจริงใจในการแก้ไขปัญหาทุจริตที่เกิดขึ้นในกระทรวงสาธารณสุข เพราะเพียงแต่ต้องการคนที่หัวอ่อนสั่งได้มาดำเนินการให้บรรลุแผนโครงการเมืองไทยเข้มแข็งที่วางไว้ ทั้งๆ ที่บุคคลนี้อาจเป็นคนฝ่ายตรงข้าม ซึ่งถือว่าพรรคประชาธิปัตย์ใจกว้างมาก"นพ.เกรียงศักดิ์กล่าว

นพ.เกรียงศักดิ์ กล่าวต่อว่า สำหรับการบริหารงานสธ. ในอีก 3 ปีข้างหน้าไม่ใช่เรื่องง่าย ทั้งการบริหารงานทั่วไป บริหารบุคลากรแพทย์ในสังกัด ก็ทำได้ยากอยู่แล้ว ที่สำคัญยังมีเรื่องโครงการไทยแข็งแข็งที่สธ. ได้งบประมาณบริหารมากว่า 80,000 ล้านบาท ต้องมีการประกวดราคา การจัดซื้อจัดจ้าง การก่อสร้างอีกมหาศาล ซึ่งเบื้องต้นได้รับรายงานจากพื้นที่ต่างๆ ว่าเริ่มมีกลิ่นไม่ดี มีการฮั้วประมูล หรือล็อกสเปกเครื่องมือต่างๆ บ้างแล้ว เพียงแต่ยังไม่มีหลักฐานที่ชัดเจน เพราะยังไม่มีการทำสัญญาจัดซื้อจัดจ้างอย่างเป็นทางการเท่านั้น ซึ่งเรื่องนี้หาก ปลัด สธ. ไม่เข้มแข็ง ไม่กล้าตัดสินใจหรือคัดค้าน สุดท้ายแล้วอาจต้องตกอยู่ภายใต้เงาของการเมืองในที่สุด

“โครงการไทยเข้มแข็ง มีเหลือบไร จ้องจะหาผลประโยชน์หลายโครงการ โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างปรับปรุงโรงพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศ จะต้องจับตาให้ดี อาจมีการทุจริตตั้งแต่การล็อกสเปกผู้รับเหมา ตั้งราคากลางสูงกว่าปกติ ดังนั้น คงต้องจับตาใกล้ชิดงบโครงการนี้อย่างใกล้ชิดโดยเฉพาะเครื่องฆ่าเชื้ออัตราไวโอเล็ต สำหรับติดตั้งในโรงพยาบาล ที่กรมการแพทย์สามารถผลิตได้เองในราคาราว 5-6 พันบาท แต่กลับซื้อเครื่องดังกล่าวในราคา 4 หมื่นบาท ซึ่งแพงเกินความเป็นจริง นอกจากนี้ยังต้องจับตาการก่อสร้างหอพยาบาล รวมถึงการสั่งซื้อเครื่องช่วยหายใจก็พบว่ามีการตั้งราคากลางสูงเกินจริงเช่นกัน”นพ.เกรียงศักดิ์กล่าว

นพ.เกรียงศักดิ์ กล่าวอีกว่า นโยบายของโครงการไทยเข้มแข็งต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจ ต้องการให้พื้นที่ได้รับเม็ดเงินโดยตรง จึงเปิดการเปิดช่องให้เกิดการทุจริตได้ง่ายขึ้น แต่สามารถตรวจสอบได้ยากกว่าเดิม เพราะการจัดซื้อจัดจ้างต่างๆ ให้อำนาจพื้นที่ดำเนินการเอง โดยอำนาจอยู่กับผู้ว่าฯ และสสจ. เป็นหลัก และส่วนใหญ่ไม่มีสเปกกลางที่ สธ. ออกให้ จึงทำให้ตรวจสอบได้ยากขึ้น อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังเป็นเพียงขั้นตอนการเตรียมการเท่านั้น ยังไม่มีการทำสัญญาแต่อย่างใด เนื่องจากยังไม่ได้รับจัดสรรงบประมาณลงมา

นพ.เกรียงศักดิ์ กล่าวต่อว่า ส่วนการแต่งตั้งข้าราชการระดับซี 10 ที่จะมีการหารือและนำเข้าเสนอครม.ในสัปดาห์หน้า มีความน่าเป็นห่วงว่าจะมีการนำผู้ที่เกี่ยวข้องกับกรณีทุจริตที่ผ่านมา เข้ามาดำรงตำแหน่งสำคัญเพื่อจงใจกลบการทุจรติทั้งเรื่องของรถพยาบาลและคอมพิวเตอร์ที่ขณะนี้กระบวนการในการตรวจสอบยังไม่เสร็จสิ้น

“พรรคประชาธิปัตย์จะต้องเสียค่าโง่ครั้งใหญ่หากเอาคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตมามีอำนาจเพราะจะให้ทำอะไรก็ได้ให้ทุจริตหรือกลบเกลื่อนทำได้อยู่แล้ว อย่างคดีทุจริตยา 1,400 ล้าน คนชงเรื่องก็ไม่มีความผิดใดๆ เลย ทั้งๆ ที่รู้กันอยู่ หรือกรณีคอมพิวเตอร์ 900 ล้าน คนที่ดำเนินการก็ไม่มีความผิดทางวินัยจนรู้สึกแปลกใจ ที่สำคัญการแก้ปัญหาทุจริตที่ทำได้ยากอยู่แล้วแต่เอาคนที่ร่วมกระบวนการมาจัดการกลไกการแก้ปัญหาคงไม่เกิด และอาจทำให้คนที่ทำดีถูกลงโทษด้วย”นพ.เกรียงศักดิ์กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น