“สนั่น” รับหน้าเสื่อ นั่งหัวโต๊ะประธานแก้ปัญหาช้างเร่ร่อนในเมืองกรุงแบบบูรณาการ ขณะที่ร่างข้อบัญญัติช้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว เตรียมนำเข้าสู่ที่ประชุมสภา กทม.เร็วๆ นี้ เพื่อประกาศใช้มกราคมปีหน้า
นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) เปิดเผยภายหลังการหารืออย่างไม่เป็นทางการกับ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ถึงกรณีการแก้ไขปัญหาช้างเร่ร่อนขอทานอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน ภายหลัง กทม.ดำเนินโครงการช้างยิ้มว่า เบื้องต้น พล.ต.สนั่น ให้ความสนใจปัญหาดังกล่าว และยินดีที่จะรับเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการและคณะทำงานร่วมระหว่าง กทม.กับกระทรวงต่างๆ โดยเฉพาะกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งดูแลอยู่ ตลอดจนหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องเพื่อวางแนวทางแก้ไขปัญหาช้างแบบบูรณาการในระยะยาวต่อไป ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีที่ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองใส่ใจกับปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจัง
อย่างไรก็ตาม คาดว่า ภายหลังจากการนำสื่อมวลชนและผู้แทนจากกระทรวง และหน่วยงานต่างๆ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมช้างเร่ร่อน 4 เชือกที่ กทม.ร่วมกับเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์สั่งกักตัวไว้ที่ ศูนย์อนุรักษ์ช้างกาญจนบุรี ต.วังดัง อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ในวันที่ 7 ก.ย.นี้ จะมีความคืบหน้าเรื่องการจัดประชุมใหญ่ระหว่าง กทม.และหน่วยงานภายนอกต่างๆ และจะมีการแถลงข่าวการลงนามข้อตกลงความร่วมมือให้ประชาชนทราบอย่างเป็นทางการเพื่อขอความร่วมมืออีกครั้งเร็วๆ นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ล่าสุด กทม.ได้จัดทำร่างข้อบัญญัติของกรุงเทพมหานคร เรื่อง การควบคุมการนำช้างมาหารายได้ในเขตกรุงเทพมหานคร พ.ศ.... เสร็จเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณารายละเอียดของฝ่ายกฎหมาย โดยทางผู้บริหารตั้งเป้าจะนำเสนอยกร่างข้อบัญญัติดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุมสภา กทม.พิจารณาให้ทันประกาศใช้ภายในเดือนมกราคม 2553 นี้
สำหรับใจความสำคัญในร่างข้อบัญญัติดังกล่าว กทม.ได้ประกาศห้ามมิให้เจ้าของช้างนำช้างมาหารายได้ในเขต กทม.และห้ามมิให้เจ้าของหรือผู้ครองครองที่ดิน ยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้ที่ดินของตนเป็นที่พักช้าง ห้ามมิให้ผู้ใดสนับสนุนการนำช้างเข้ามาหารายได้หรือเพื่อให้เกิดรายได้แก่เจ้าของช้าง พร้อมให้อำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่ของกทม.มีสิทธิจับกุมพร้อมยึดทรัพย์เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย โดย กทม.จะจัดให้มีสถานที่กักกันช้างเพื่อดูแลช้างระหว่างดำเนินคดี นอกจากนี้ ยังได้กำหนดโทษผู้ฝ่าฝืนข้อบัญญัติหรือขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท
นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) เปิดเผยภายหลังการหารืออย่างไม่เป็นทางการกับ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ถึงกรณีการแก้ไขปัญหาช้างเร่ร่อนขอทานอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน ภายหลัง กทม.ดำเนินโครงการช้างยิ้มว่า เบื้องต้น พล.ต.สนั่น ให้ความสนใจปัญหาดังกล่าว และยินดีที่จะรับเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการและคณะทำงานร่วมระหว่าง กทม.กับกระทรวงต่างๆ โดยเฉพาะกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งดูแลอยู่ ตลอดจนหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องเพื่อวางแนวทางแก้ไขปัญหาช้างแบบบูรณาการในระยะยาวต่อไป ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีที่ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองใส่ใจกับปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจัง
อย่างไรก็ตาม คาดว่า ภายหลังจากการนำสื่อมวลชนและผู้แทนจากกระทรวง และหน่วยงานต่างๆ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมช้างเร่ร่อน 4 เชือกที่ กทม.ร่วมกับเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์สั่งกักตัวไว้ที่ ศูนย์อนุรักษ์ช้างกาญจนบุรี ต.วังดัง อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ในวันที่ 7 ก.ย.นี้ จะมีความคืบหน้าเรื่องการจัดประชุมใหญ่ระหว่าง กทม.และหน่วยงานภายนอกต่างๆ และจะมีการแถลงข่าวการลงนามข้อตกลงความร่วมมือให้ประชาชนทราบอย่างเป็นทางการเพื่อขอความร่วมมืออีกครั้งเร็วๆ นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ล่าสุด กทม.ได้จัดทำร่างข้อบัญญัติของกรุงเทพมหานคร เรื่อง การควบคุมการนำช้างมาหารายได้ในเขตกรุงเทพมหานคร พ.ศ.... เสร็จเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณารายละเอียดของฝ่ายกฎหมาย โดยทางผู้บริหารตั้งเป้าจะนำเสนอยกร่างข้อบัญญัติดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุมสภา กทม.พิจารณาให้ทันประกาศใช้ภายในเดือนมกราคม 2553 นี้
สำหรับใจความสำคัญในร่างข้อบัญญัติดังกล่าว กทม.ได้ประกาศห้ามมิให้เจ้าของช้างนำช้างมาหารายได้ในเขต กทม.และห้ามมิให้เจ้าของหรือผู้ครองครองที่ดิน ยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้ที่ดินของตนเป็นที่พักช้าง ห้ามมิให้ผู้ใดสนับสนุนการนำช้างเข้ามาหารายได้หรือเพื่อให้เกิดรายได้แก่เจ้าของช้าง พร้อมให้อำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่ของกทม.มีสิทธิจับกุมพร้อมยึดทรัพย์เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย โดย กทม.จะจัดให้มีสถานที่กักกันช้างเพื่อดูแลช้างระหว่างดำเนินคดี นอกจากนี้ ยังได้กำหนดโทษผู้ฝ่าฝืนข้อบัญญัติหรือขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท
