วธ.มีมติตั้งอนุกรรมการ 2 ชุด พัฒนาศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ยกเครื่องระบบจราจรภายใน หลังได้รับร้องเรียนจุดเชื่อมรถไฟฟ้าใต้ดินไกล ไม่สะดวก พร้อมปรับเป็นองค์การมหาชน ให้เอกชนเข้าบริหารจัดการ เตรียมชงงบไทยเข้มแข็ง 1.9 พัน ล.รองรับ
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะกรรมการนโยบายพัฒนาศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย (ศวท.) ให้เป็นพื้นที่บริการระดับนานาชาติ เมื่อเร็วๆ นี้ ที่ประชุมได้มีมติให้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมา 2 ชุด ได้แก่ 1.คณะอนุกรรมการดูแลผังเมือง สิ่งแวดล้อม การจราจร โดยมีผู้แทนสำนักผังเมือง กรุงเทพมหานคร(กทม.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กระทรวงคมนาคม ร่วมเป็นคณะอนุกรรมการ เพื่อมาศึกษาพัฒนาระบบการจราจรภายใน ศวท.และการจราจรบริเวณโดยรอบ รวมทั้งการเชื่อมโยงระบบรถไฟฟ้ามายัง ศวท.ด้วย เนื่องจากที่ประชุมมีการพิจารณาเห็นว่าปัจจุบันชาวไทยและชาวต่างชาติต้องเดินจากรถไฟฟ้าใต้ดิน มายัง ศวท.มีระยะทางไกลมาก จึงเกิดความไม่สะดวกและได้รับการร้องเรียนเป็นจำนวนมาก
นายวีระ กล่าวต่อไปว่า ส่วนชุดที่ 2.คณะอนุกรรมการบริหารจัดการภายใน ศวท. เพื่อทำหน้าที่ในการศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนา ศวท.ทั้งพื้นที่เก่า 23 ไร่ กับพื้นที่ใหม่ 35 ไร่ รวม 58 ไร่ ให้เป็นองค์การมหาชน หรือจะให้ภาคเอกชนเข้ามาบริหารจัดการ รวมถึงการกำหนดเงื่อนไขต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้บริการพื้นที่โรงละคร หอศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย หอประชุมเล็ก หอประชุมใหญ่ จะต้องเกิดความเหมาะสม เพราะ ศวท.มีหน่วยงานราชการเข้ามาใช้บริการค่อนข้างมาก
อย่างไรก็ตาม วธ.กำลังนำเสนอของบประมาณกับโครงการไทยเข้มแข็งรอบที่ 2 ของรัฐบาล เพื่อดำเนินการพัฒนา ศวท.ในพื้นที่ 35 ไร่ เฟสแรก จำนวน 1,951 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะทราบผลการพิจารณางบในเร็วๆ นี้
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะกรรมการนโยบายพัฒนาศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย (ศวท.) ให้เป็นพื้นที่บริการระดับนานาชาติ เมื่อเร็วๆ นี้ ที่ประชุมได้มีมติให้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมา 2 ชุด ได้แก่ 1.คณะอนุกรรมการดูแลผังเมือง สิ่งแวดล้อม การจราจร โดยมีผู้แทนสำนักผังเมือง กรุงเทพมหานคร(กทม.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กระทรวงคมนาคม ร่วมเป็นคณะอนุกรรมการ เพื่อมาศึกษาพัฒนาระบบการจราจรภายใน ศวท.และการจราจรบริเวณโดยรอบ รวมทั้งการเชื่อมโยงระบบรถไฟฟ้ามายัง ศวท.ด้วย เนื่องจากที่ประชุมมีการพิจารณาเห็นว่าปัจจุบันชาวไทยและชาวต่างชาติต้องเดินจากรถไฟฟ้าใต้ดิน มายัง ศวท.มีระยะทางไกลมาก จึงเกิดความไม่สะดวกและได้รับการร้องเรียนเป็นจำนวนมาก
นายวีระ กล่าวต่อไปว่า ส่วนชุดที่ 2.คณะอนุกรรมการบริหารจัดการภายใน ศวท. เพื่อทำหน้าที่ในการศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนา ศวท.ทั้งพื้นที่เก่า 23 ไร่ กับพื้นที่ใหม่ 35 ไร่ รวม 58 ไร่ ให้เป็นองค์การมหาชน หรือจะให้ภาคเอกชนเข้ามาบริหารจัดการ รวมถึงการกำหนดเงื่อนไขต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้บริการพื้นที่โรงละคร หอศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย หอประชุมเล็ก หอประชุมใหญ่ จะต้องเกิดความเหมาะสม เพราะ ศวท.มีหน่วยงานราชการเข้ามาใช้บริการค่อนข้างมาก
อย่างไรก็ตาม วธ.กำลังนำเสนอของบประมาณกับโครงการไทยเข้มแข็งรอบที่ 2 ของรัฐบาล เพื่อดำเนินการพัฒนา ศวท.ในพื้นที่ 35 ไร่ เฟสแรก จำนวน 1,951 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะทราบผลการพิจารณางบในเร็วๆ นี้
