xs
xsm
sm
md
lg

นช.แม้ว! “หงายบาตร-ตัดกรรม” และ “อุตตริมนุสสธรรม” ทางการเมือง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ที่วัดแก้วฟ้า มีการตระเตรียมพื้นที่และทำความสะอาดรับงานใหญ่บิ๊กเซอร์ไพร์สของอดีตนักโทษชายทักษิณ
ทำเอาพุทธศาสนิกชนผู้เคร่งครัดและศรัทธาทั่วประเทศ “อึ้ง ทึ่ง เสียว” กันไปตามๆ กันเลยทีเดียว กับ “บิ๊กเซอร์ไพรส์” ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้กลายสภาพมาเป็น “นักโทษชาย” ผู้หลบหนีอาญาบ้านเมืองอยู่ในขณะนี้ ประกาศว่าจะเกิดขึ้นในงานวันฉลองครบรอบอายุ 60 ปีของเขาที่วัดแก้วฟ้า ต.บางขนุน อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ในวันที่ 26 กรกฎาคมนี้

ขณะนี้มีแง้มออกมาให้รู้ชัดกันทั้งประเทศแล้วว่า “บิ๊กเซอร์ไพรส์”ที่ว่านี้ก็คือ ทางพระครูปลัดไพศาล กิตฺติภทฺโท เจ้าอาวาสวัดแก้วฟ้า จะทำพิธิ “หงายบาตร-ตัดกรรม” ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ล่าสุดนั้น นักการเมืองพรรคเพื่อไทยบางคนออกมาให้ข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะหมดเคราะห์หมดโศกในวันครบรอบวันเกิดปีที่ 60 ของตนเอง

พระครูไพศาล พระเจ้าอาวาสผู้ที่กำลังจะจัดพิธีอันเป็น “บิ๊กเซอร์ไพรส์” นี้ ได้กล่าวถึงพิธีหงายบาตร-ตัดกรรมที่จะมีขึ้นในวันที่ 26 ก.ค. อันเป็นวันเกิดครบรอบ 60 ปี ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่าการจัดงานดังกล่าวเป็นการจัดงานตามปกติไม่มีอะไรพิเศษ เป็นพิธีซึ่งจัดเป็นประจำในทุกวัน เพียงแต่ในครั้งนี้เป็นการจัดใหญ่และมีอดีตนายกทักษิณเข้ามาร่วมแก้กรรมในครั้งนี้ซึ่งตรงกับวันเกิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ พอดี ส่วนพิธีการแก้กรรมก็เป็นการแก้กรรมหมู่ สำหรับผู้มาเข้าร่วมงาน ซึ่งเป็นผู้ที่มีความเดือดร้อนทุกข์ใจ พิธีนี้ใช้เวลาในการทำพิธีราว 2 ชม.ครึ่ง

ทำให้พุทธศาสนิกชนและบุคคลทั่วไปเกิดความกังขาว่า ในแก่นแท้ของพระพุทธศาสนานั้น มีการหงายบาตร-ตัดกรรมได้จริงหรือ?

พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี ผู้ก่อตั้งสถาบันวิมุตตยาลัยและพระนักเทศน์ชื่อดัง อธิบายเรื่องการคว่ำบาตร-หงายบาตร ตามหลักวิชาการว่า การคว่ำบาตรเป็นมาตรการหนึ่งของคณะสงฆ์ ที่ใช้กับคฤหัสถ์ที่มุ่งติเตียนว่าร้ายภิกษุสงฆ์ด้วยจิตไม่ดี วิธิการคว่ำบาตรก็คือ คณะสงฆ์จะไม่คบค้าสมาคมคฤหัสถ์ผู้นั้น ไม่รับบาตรตลอดจนไม่รับกิจนิมนต์

“การคว่ำบาตรไม่ใช่การกระทำเพื่อประสงค์ร้าย เตือนสติคนผู้นั้นให้สำนึกว่าทำไม่ถูกต้อง ซึ่งเมื่อหากคนผู้นั้นสำนึกผิดและรู้ว่าสิ่งที่ทำลงไปนั้นผิด ยอมรับผิดและขอโทษ ทางคณะสงฆ์ก็จะหงายบาตร คือกลับมาคบค้าสมาคม รับบาตร และรับกิจนิมนต์เหมือนเดิม การคว่ำบาตรนี้ เป็นประเด็นทางธรรม ไม่ใช่ประเด็นทางการเมือง
พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี (ว.วชิรเมธี)
ส่วนการตัดกรรมก็คือ การตัดพฤติกรรมที่ไม่ดีของตนเองออกไป เช่น หากเป็นคนคิดชั่ว พูดชั่ว ทำชั่ว แล้วเลิกคิดชั่ว เลิกพูดชั่ว เลิกทำชั่ว อันนี้สิตัดกรรม แต่การตัดกรรมด้วยการบนบานศาลกล่าว ตัดกรรมด้วยการติดสินบนเทวดานั้น ไม่ใช่การตัดกรรมในทางพุทธศาสนา

หากเขาจะเรียกวิธีการนี้ว่าการตัดกรรมจริงๆ ก็คงเรียกได้ แต่เนื่องจากไม่ใช่วิธีการตัดกรรมแบบพุทธ ก็อยากให้เรียกเพิ่มไปสักหน่อยว่าเป็นการตัดกรรมแบบของใคร เพราะหากใช้วิธีทางไสยศาสตร์ ไสยเวทย์ แล้วมาเรียกว่าเป็นการตัดกรรม จะเป็นการนำคำสอนนอกรีตนอกรอยมาใส่ลงในคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า นำมปนเปื้อน ทำให้ชาวพุทธสับสน”


พระมหาวุฒิชัยให้ความรู้ต่อไปอีกว่า “กรรม” คือ การกระทำอันเป็นปัจเจกของบุคคลใดบุคคลนั้น สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงสอนเอาไว้ว่า ความบริสุทธิ์หรือไม่เป็นเรื่องของปัจเจก

“พระพุทธเจ้าทรงสอนว่า ตนทำชั่วเอง จิตก็จะเศร้าหมองเอง ตนทำดีเอง จิตก็จะบริสุทธิ์เอง คนอื่นจะมีช่วยทำพิธี อธิษฐานตัดกรรมแทนกันหาได้ไม่ การที่ทำชั่วเองแล้วจะให้คนอื่นมาตัดให้ไม่ใช่แนวของศาสนาพุทธอย่างสิ้นเชิง ที่คิดจะทำกันไม่ใช่เรื่องของพุทธ แต่เป็นเรื่องของทางไสยศาสตร์

ที่สำคัญ การหงายบาตรการตัดกรรมไม่ควรจะเป็นเรื่องของการเมือง การหงายบาตรเป็นมาตรการของสงฆ์ในการเตือนให้คนทำผิดสำนึกผิด การตัดกรรมเป็นเรื่องของการสั่งสอนให้คนทำผิดทำชั่วเลิกทำผิดทำชั่ว เปลี่ยนพฤติกรรม ตัดความชั่วออกไป นั่นคือการตัดกรรมตามหลักของพระพุทธศาสนา”

ในประเด็นสุดท้ายที่ชาวพุทธหลายๆ คนอยากรู้ คือ การที่วัดออกมาทำพิธีที่ดูแล้วออกจะไม่ใช่แก่นแท้ทางศาสนา แต่หนักไปในทางไสยศาสตร์เช่นนี้ จะถือเป็นการอวดอุตตริมนุสสธรรมหรือไม่นั้น พระมหาวุฒิชัยปฏิเสธที่จะให้ความเห็นในเรื่องนี้ โดยกล่าวเพียงว่า ให้ข้อมูลในเชิงวิชาการ ตามหลักพระพุทธศาสนาที่ถูกต้อง ที่เหลือก็อยากให้ประชาชนพิจารณากันเองด้วยปัญญา

“ส่วนที่โยมถามเรื่องการหงายบาตร-ตัดกรรมอย่างที่เป็นข่าวนั้น อาตมาไม่ขอพูด แต่ขอให้เป็นหลักการอย่างที่กล่าวมา ที่อธิบายให้ฟังมาในเชิงวิชาการ ก็อยากให้ประชาชนนำไปขบคิดพิจารณาหาคำตอบว่า พุทธหรือไม่พุทธ ใช่ตามหลักศาสนาหรือไม่ใช่...อาตมาขอเจริญพร” พระมหาวุฒิชัยทิ้งท้าย
กำลังโหลดความคิดเห็น