“เทพไท” ยี้บิ๊กเซอร์ไพรส์แผนการตลาดตื้นๆ แนะอัตนิวิบาตกรรมโลกตะลึงแน่

“เทพไท” เชื่อข่าวบิ๊กเซอร์ไพร์ส “แม้ว” แค่หวังทำการตลาดตื้นๆ ให้คนในประเทศสนใจ หวังรักษาพื้นที่สื่อ แนะทำอัตนิวิบาตกรรมโชว์ชาวโลกให้ตะลึง ถึงจะหลุดบ่วงกรรม ซัดดิ้นไถ่บาปเหมือนลิงติดแห ดับฝัน “ไข่แม้ว” ยันรัฐบาลอยู่ยาวแน่ พร้อมจวก “เพื่อไทย” ใส่ร้ายพรรค ยันรัฐธรรมนูญเป็นสมบัติชาติ ต้องฟังความรอบด้าน

วันนี้ (23 ก.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีบิ๊กเซอร์ไพรส์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ นักโทษหนีคดี ที่จะจัดงานวันเกิดในวันที่ 26 ก.ค. ซึ่งหลายฝ่ายเรียกว่าเป็น แบล็กซันเดย์ ซึ่งการโฆษณาว่าจะมีบิ๊กเซอร์ไพร์สนั้น ตนคิดว่าไม่น่าจะมีอะไรน่าแปลกใจ เป็นแผนการตลาดตื้นๆ ธรรมดา เป็นเพียงการเรียกเรตติ้งภายในประเทศของ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะสื่อมวลชนในต่างประเทศรู้ทัน พ.ต.ท.ทักษิณ จึงไม่สามารถตีข่าวของตนเองได้ จึงมาตีข่าวในประเทศไทยเพื่อรักษาสถานะและชิงพื้นที่สื่อ จึงมาพูดบิ๊กเซอร์ไพรส์ให้คนติดตาม

“ผมคิดว่าที่บอกว่าจะมีบิ๊กเซอร์ไพรส์ และจะทำให้โลกตะลึง ผมคิดว่าคงเป็นแค่การโฟนอินออดอ้อน การเรียกความสงสารให้คนเสื้อแดงเคลื่อนไหวกดดันพาตัว พ.ต.ท.ทักษิณ กลับประเทศไทย ผมคิดว่าโลกคงไม่ตะลึง แต่ถ้าอยากให้โลกตะลึง คือ การทำอัตนิวิบาตกรรม เหมือนกับอดีตประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ผมคิดว่าเป็นอย่างนั้นจะเป็นบิ๊กเซอร์ไพรส์ให้โลกตะลึงจริง” นายเทพไทกล่าว

นายเทพไทกล่าวต่อว่า การที่จะใช้วันที่ 26 ก.ค.เป็นการทำพิธีหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการทำพิธีแก้กรรม ซึ่งตนขอบอกว่ากรรมจะตามติดตัวไป ความเชื่อในทางพระพุทธศาสนากรรมไม่สามารถล้างได้ พ.ต.ท.ทักษิณ แก้กรรม ไม่ต่างอะไรกับลิงแก้แห ยิ่งแก้ยิ่งยุ่ง ส่วนการทำพิธีหงายบาตร หลังจากที่มีพิธีกรรมคว่ำบาตรต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ และจะแก้เคล็ดด้วยการหงายบาตร ตนคิดว่า ไม่สามารถแก้ได้ เพราะบาปจะติดตัวไปไม่สามรถล้างบาปได้ การที่จะใช้วัดแก้วฟ้าเพื่อถือเคล็ดเอาชื่อวัดเป็นสิริมงคล แต่กรณีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ตนเกรงว่า จะสร้างความเดือนร้อนให้พุทธบริษัทและพระสงฆ์ของวัด ตนจึงขอแนะนำให้ไปทำบุญที่วัดสังเวช เพื่อที่จะปลงในพฤติกรรมและชะตากรรมของตนเอง

ส่วนการวิเคราะห์ของสมาชิกพรรคเพื่อไทยที่บอกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งยิ่งใหญ่ในช่วงเดือนธันวาคม เพื่อจะมีการยุบสภา การจลาจลรากหญ้า ตนคิดว่าเป็นเรื่องเฟ้อฝัน เหมือนคำทำนายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่เคยทำนายอายุรัฐบาลว่าจะอยู่ไม่ถึง 3 เดือน ซึ่งขณะนี้ครบ 3 เดือนแล้วและคงต่ออายุไปเรื่อยๆ และสมาชิกพรรคเพื่อไทยก็มาทำนายต่อไปอีกว่าถึงเดือนธันวาคม เพราะฉะนั้นตนคิดว่าการเลือกตั้ง หรือคำทำนายของสมาชิกพรรคเพื่อไทย คงเป็นเพียงคำทำนายเพื่อปลอบใจตัวเอง เป็นไปไม่ได้ตามที่ต้องการแน่นอน

นายเทพไทกล่าวถึงกรณีที่นายวิทยา บุรณศิริ ประธานวิปฝ่ายค้านออกมาพูดถึงข้อสรุปของคณะกรรมการสมานฉันท์ เกี่ยวกับประเด็นการแก้รัฐธรรมนูญว่า นายกฯเคยรับปากว่าจะปฏิบัติตามข้อสรุปของคณะกรรมการสมานฉันท์ และกล่าวหาพรรคประชาธิปัตย์ว่าซื้อเวลา ขัดขวางการแก้รัฐธรรมนูญว่า ตนขอยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีการซื้อเวลาและขัดขวางกระบวนการใดๆ ที่จะได้มาซึ่งรัฐธรรมนูญที่ทุกคนในประเทศยอมรับ ตนเชื่อว่า ประเด็นนี้ฝ่ายค้านหยิบยกมาเป็นเงื่อนไขทางการเมืองเพื่อเคลื่อนไหวกดดันการเมือง ให้การเมืองร้อนแรงยิ่งขึ้นเพื่อหวังผลให้มรสุมทางการเมืองถาถมเข้ามาสู่รัฐบาล เพื่อให้รัฐบาลอยู่ในช่วงสถานการณ์เลวร้าย เพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองของพรรคฝ่ายค้านเพียงฝ่ายเดียว

อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่าผลสรุปของคณะกรรมการสมานฉันท์ 6 ข้อที่อ้างว่าเป็นข้อสรุปของ 3 ฝ่าย คือ ฝ่ายค้าน รัฐบาล และวุฒิสมาชิก ก็ไม่ได้สรุปว่าเป็นข้อสรุปของคนส่วนใหญ่ทั้งประเทศ เป็นเพียงฝ่ายหนึ่งของสังคม คือ ฝ่ายสมาชิกรัฐสภา แต่ประเทศไทยยังมีหลายฝ่ายที่ต้องมีส่วนร่วมและต้องยอมรับกติกาอันนี้ เพราะฉะนั้นเรื่องของข้อสรุปของคณะกรรมการสมานฉันท์รัฐบาลก็พร้อมจะนำมาพิจารณา และจะต้องให้โอกาสกับรัฐบาลในการพิจารณาด้วย เพราะรัฐบาลไม่ได้มีเพียงประชาธิปัตย์พรรคเดียวเท่านั้น จำเป็นต้องเข้าสู่ที่ประชุมของพรรคร่วมเพื่อให้มีความเห็นสอดคล้องกัน และในภาคประชาชน องค์กรอิสระต่างๆ

“ผมคิดว่าต้องมีการรับฟังในรูปแบบของการทำประชาพิจารณ์ และการทำประชามติในที่สุดก็ได้ จึงอยากเรียกร้องว่าพรรคฝ่ายค้านไม่ควรหยิบเรื่องนี้มาเป็นประเด็นทางการเมือง เพราะเป็นเรื่องของกฎหมายสูงสุดในการปกครองประเทศควรจะใช้ความรอบคอบ และไม่ควรใส่ร้ายว่ารัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ซื้อเวลาแก้ไขรัฐธรรมนูญ” นายเทพไทกล่าว