คนพิการเตรียมเฮ! พม.เตรียมแจกเบี้ยยังชีพ เดือนละ 500 บาท เม.ย.53 นี้ พร้อมให้หน่วยงานราชการจัดทำสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อคนพิการภายในปี 54 ส่วนคนพิการทางการได้ยิน ให้สิทธิ์ยื่นเรื่องของล่ามภาษามือในการติดต่อสถานที่ราชการ สมัครงาน ร้องทุกข์ ประชุม ฝึกอบรม ขณะที่เตรียมให้ผู้ดูแล-องค์กรเอกชนที่สนับสนุนคนพิการ ได้รับการยกเว้นภาษี
วันนี้ (15 ก.ค.) ที่อิมแพค เมืองทองธานี นายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เป็นประธานเปิดงาน “มหกรรมต้นแบบคนพิการไทย” จัดโดย พม. ร่วมกับสภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย คณะกรรมาธิการการสวัสดิการสังคม และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
นายอิสสระ กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลได้ผลักดันภารกิจสำคัญเรื่องคนพิการหลายเรื่อง เช่น การรณรงค์จดทะเบียนคนพิการ ซึ่งจะนำมาสู่การเข้าถึงสิทธิในด้านต่างๆ ข้อมูลประมาณการของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ปี 2550 ประเทศไทย มีคนพิการประมาณ 1.9 ล้านคน จดทะเบียนแล้ว 8 แสนกว่าคน หรือ 40% อีกประมาณ 1 ล้านคนเศษ หรือ 59% ยังเข้าไม่ถึงบริการจดทะเบียนคนพิการ จึงต้องเร่งรณรงค์เป็นอันดับแรก และเพื่อเป็นการเอื้ออำนวยให้คนพิการได้รับความช่วยเหลือ มีสภาพความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น พม.ยังได้นำเสนอให้คณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ ซึ่งมีนายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิจารณาให้ความเห็นชอบกำหนดเป็นระเบียบว่าด้วยการจัดสวัสดิการเบี้ยความพิการให้กับคนพิการทุกคนที่จดทะเบียน เดือนละ 500 บาท ตั้งแต่เมษายน 2553 เป็นต้นไป
นายอิสสระกล่าวด้วยว่า พม.ได้นำเสนอ ครม.พิจารณาและมีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 19 พ.ค.2552 ให้หน่วยราชการจัดทำสิ่งอำนวยความสะดวกให้คนพิการสามารถเข้าถึงบริการของรัฐได้โดยง่าย โดยกำหนดให้โรงพยาบาล จัดทำสิ่งอำนวยความสะดวกให้ครบถ้วนสมบูรณ์ ตามกฎกระทรวง พ.ศ.2548 ออกตามความใน พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และหน่วยราชการ สถาบันการศึกษา สถานีตำรวจ ต้องจัดสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐาน ได้แก่ ทางลาด ห้องน้ำ ที่จอดรถ ป้ายสัญลักษณ์ และบริการข้อมูล ภายในปี 2554 และให้หน่วยราชการดังกล่าวรายงานผลทุก 6 เดือน เพื่อนำเสนอนายกรัฐมนตรีทราบ สำหรับคนพิการทางการได้ยิน และผู้ดูแลคนพิการทางการได้ยิน จะได้รับสิทธิยื่นเรื่องขอรับบริการล่ามภาษามือได้ในกรณีต่างๆ ได้แก่ การติดต่อขอใช้บริการทางการแพทย์ สาธารณสุข การสมัครงาน การประกอบอาชีพ การร้องทุกข์ กล่าวโทษ การเป็นพยาน การเข้าร่วมประชุมสัมมนา ฝึกอบรม และอื่นๆ ตามประกาศกำหนด รวมถึงการช่วยเหลือโดยใช้มาตรการทางภาษี เพื่อให้คนพิการ ผู้ดูแลคนพิการได้รับการยกเว้นหรือลดหย่อนภาษี รวมไปถึงองค์กรเอกชนที่ทำงานสนับสนุนคนพิการด้วย
พร้อมกันนี้ ภายในงานได้มีการประกาศเชิดชูเกียรติปูชนียบุคคล 3 คนที่ผู้ทำคุณประโยชน์ต่องานด้านคนพิการไทยเพื่อบันทึกไว้ในหอเกียรติยศ (Hall of Fame) ของสำนักส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ (พก.) ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรก โดยมี ศ.วิริยะ นามศิริพงศ์พันธ์ ประธานมูลนิธิสภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย นายณรงค์ ปฏิบัติสรกิจ อดีตส.ว.ผู้พิการทางการเคลื่อนไหวคนแรกของไทย และ พ.ท.ต่อพงษ์ กุลครรชิต ซึ่งทำงานให้กับสภาคนพิการแห่งเอเชียและแปซิฟิก ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว
นอกจากนี้ นายอิสสระยังได้มอบโล่ประกาศเกียรติคุณแก่คนพิการต้นแบบ 10 คนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตด้านต่างๆ และสร้างคุณประโยชน์ให้กับสังคมและแวดวงคนพิการ ได้แก่ นายจตุพล พรหมอาภรณ์ ประธานชมรมคนพิการทุกประเภทจังหวัดชัยนาท, นายสุภธรรม มงคลสวัสดิ์ ที่ปรึกษาสภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย, นายธรรม จตุนาม อาจารย์ประจำวิทยาลัยราชสุดา มหาวิทยาลัยมหิดล, น.ส.นิลวรรณ ปิติพัฒน์ นายกสมาคมคนพิการจังหวัดนครพนม, น.ส.กุหลาบ พูลกิจ ผู้นำชุมชนตำบลแจงงามเพื่อการดูแลคนพิการ, นายเอกรินทร์ ใช้ประทุม, น.ส.สวรรยา ปุนินานนท์ อาสาสมัครมูลนิธิออทิสติกไทย และองค์กรที่เกี่ยวข้องกับคนพิการ, นางรัชนี แมนเมธี เลขานุการสมาคมเพื่อผู้บกพร่องทางจิต, นายช่วง เรืองจันทร์ นายกสมาคมคนตาบอดจังหวัดพัทลุง และนายสมพงษ์ รักโคตร ประธานศูนย์การเรียนรู้ในชุมชนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาคนพิการโดยชุมชน ต.โพนงาม
วันนี้ (15 ก.ค.) ที่อิมแพค เมืองทองธานี นายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เป็นประธานเปิดงาน “มหกรรมต้นแบบคนพิการไทย” จัดโดย พม. ร่วมกับสภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย คณะกรรมาธิการการสวัสดิการสังคม และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
นายอิสสระ กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลได้ผลักดันภารกิจสำคัญเรื่องคนพิการหลายเรื่อง เช่น การรณรงค์จดทะเบียนคนพิการ ซึ่งจะนำมาสู่การเข้าถึงสิทธิในด้านต่างๆ ข้อมูลประมาณการของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ปี 2550 ประเทศไทย มีคนพิการประมาณ 1.9 ล้านคน จดทะเบียนแล้ว 8 แสนกว่าคน หรือ 40% อีกประมาณ 1 ล้านคนเศษ หรือ 59% ยังเข้าไม่ถึงบริการจดทะเบียนคนพิการ จึงต้องเร่งรณรงค์เป็นอันดับแรก และเพื่อเป็นการเอื้ออำนวยให้คนพิการได้รับความช่วยเหลือ มีสภาพความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น พม.ยังได้นำเสนอให้คณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ ซึ่งมีนายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิจารณาให้ความเห็นชอบกำหนดเป็นระเบียบว่าด้วยการจัดสวัสดิการเบี้ยความพิการให้กับคนพิการทุกคนที่จดทะเบียน เดือนละ 500 บาท ตั้งแต่เมษายน 2553 เป็นต้นไป
นายอิสสระกล่าวด้วยว่า พม.ได้นำเสนอ ครม.พิจารณาและมีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 19 พ.ค.2552 ให้หน่วยราชการจัดทำสิ่งอำนวยความสะดวกให้คนพิการสามารถเข้าถึงบริการของรัฐได้โดยง่าย โดยกำหนดให้โรงพยาบาล จัดทำสิ่งอำนวยความสะดวกให้ครบถ้วนสมบูรณ์ ตามกฎกระทรวง พ.ศ.2548 ออกตามความใน พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และหน่วยราชการ สถาบันการศึกษา สถานีตำรวจ ต้องจัดสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐาน ได้แก่ ทางลาด ห้องน้ำ ที่จอดรถ ป้ายสัญลักษณ์ และบริการข้อมูล ภายในปี 2554 และให้หน่วยราชการดังกล่าวรายงานผลทุก 6 เดือน เพื่อนำเสนอนายกรัฐมนตรีทราบ สำหรับคนพิการทางการได้ยิน และผู้ดูแลคนพิการทางการได้ยิน จะได้รับสิทธิยื่นเรื่องขอรับบริการล่ามภาษามือได้ในกรณีต่างๆ ได้แก่ การติดต่อขอใช้บริการทางการแพทย์ สาธารณสุข การสมัครงาน การประกอบอาชีพ การร้องทุกข์ กล่าวโทษ การเป็นพยาน การเข้าร่วมประชุมสัมมนา ฝึกอบรม และอื่นๆ ตามประกาศกำหนด รวมถึงการช่วยเหลือโดยใช้มาตรการทางภาษี เพื่อให้คนพิการ ผู้ดูแลคนพิการได้รับการยกเว้นหรือลดหย่อนภาษี รวมไปถึงองค์กรเอกชนที่ทำงานสนับสนุนคนพิการด้วย
พร้อมกันนี้ ภายในงานได้มีการประกาศเชิดชูเกียรติปูชนียบุคคล 3 คนที่ผู้ทำคุณประโยชน์ต่องานด้านคนพิการไทยเพื่อบันทึกไว้ในหอเกียรติยศ (Hall of Fame) ของสำนักส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ (พก.) ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรก โดยมี ศ.วิริยะ นามศิริพงศ์พันธ์ ประธานมูลนิธิสภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย นายณรงค์ ปฏิบัติสรกิจ อดีตส.ว.ผู้พิการทางการเคลื่อนไหวคนแรกของไทย และ พ.ท.ต่อพงษ์ กุลครรชิต ซึ่งทำงานให้กับสภาคนพิการแห่งเอเชียและแปซิฟิก ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว
นอกจากนี้ นายอิสสระยังได้มอบโล่ประกาศเกียรติคุณแก่คนพิการต้นแบบ 10 คนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตด้านต่างๆ และสร้างคุณประโยชน์ให้กับสังคมและแวดวงคนพิการ ได้แก่ นายจตุพล พรหมอาภรณ์ ประธานชมรมคนพิการทุกประเภทจังหวัดชัยนาท, นายสุภธรรม มงคลสวัสดิ์ ที่ปรึกษาสภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย, นายธรรม จตุนาม อาจารย์ประจำวิทยาลัยราชสุดา มหาวิทยาลัยมหิดล, น.ส.นิลวรรณ ปิติพัฒน์ นายกสมาคมคนพิการจังหวัดนครพนม, น.ส.กุหลาบ พูลกิจ ผู้นำชุมชนตำบลแจงงามเพื่อการดูแลคนพิการ, นายเอกรินทร์ ใช้ประทุม, น.ส.สวรรยา ปุนินานนท์ อาสาสมัครมูลนิธิออทิสติกไทย และองค์กรที่เกี่ยวข้องกับคนพิการ, นางรัชนี แมนเมธี เลขานุการสมาคมเพื่อผู้บกพร่องทางจิต, นายช่วง เรืองจันทร์ นายกสมาคมคนตาบอดจังหวัดพัทลุง และนายสมพงษ์ รักโคตร ประธานศูนย์การเรียนรู้ในชุมชนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาคนพิการโดยชุมชน ต.โพนงาม
