“วิทยา” เผยพบข้อมูลกลุ่มเสี่ยงมีโรคประจำตัว 2 ล้านคน เตรียมประสานเครือข่ายมือถือ ส่ง SMS แนะนำการปฏิบัติตัว
นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ร้านขายยาเป็นบริการทางสาธารณสุขด่านแรกที่ประชาชนส่วนใหญ่ให้ความเชื่อถือ ในวันนี้ สธ.จึงได้จัดงาน อย.-ร้านยารวมใจสู้ภัยไข้หวัดใหญ่ฯ 2009 ได้รับความร่วมมือกับสมาพันธ์พัฒนาคุณภาพร้านยาแห่งประเทศไทย ซึ่งมีเภสัชกรร้านขายยามาจากทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑลกว่า 400 รายการ เข้ามาร่วมรับฟังและทำความเข้าใจหลักวิธีปฏิบัติ กรณีประชาชนมาซื้อยาและขอคำแนะนำจากร้าน
ทั้งนี้ ได้รวบรวมข้อมูลบุคคลกลุ่มเสี่ยงในประเทศไทยมีจำนวน 2 ล้านคน ประกอบด้วยผู้ที่มีโรคประจำตัว และจะส่งคำแนะนำไปทางไปรษณีย์ผ่านผู้นำชุมชนด้วยถึงวิธีการปฎิบัติตัว และในวันพรุ่งนี้ (13 ก.ค.) จะเดินสายขอความร่วมมือผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ ในการให้ช่วยส่งข้อความ SMS ไปยังผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ทุกคนถึงคำแนะนำการปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันไม่ให้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
ด้าน รศ.(พิเศษ) นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ประธานยุทธศาสตร์และวิชาการไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ กล่าวแนะนำรูปแบบคำถามที่ร้านขายยาควรถามเมื่อมีผู้มาซื้อยา หากพบมีไข้ให้ถามว่ามีไข้สูงหรือไม่ หากเป็นไข้หวัดเกิน 3 วันถือว่ารุนแรงให้ส่งต่อโรงพยาบาล หากให้ญาติมาซื้อยาแทน ผู้ป่วยอาจป่วยหนักมาไม่ไหว ให้สอบถามญาติว่าผู้ป่วยมีโรคประจำตัวด้านตับ ไต ปอด หัวใจหรือไม่ ถ้าอยู่ในข่ายนี้แนะนำให้ไปพบแพทย์ทันที
ด้านเภสัชกรเกริก สิริผดุง เภสัชกรจากอำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า ในต่างจังหวัด คลินิกหรือสาธารณสุขจะรองรับจำนวนผู้ป่วยไม่เพียงพอ ประชาชนจึงพึ่งร้านขายยาและขณะนี้เจลล้างมือ หน้ากากคาดปิดปาก เป็นสินค้าที่ขาดตลาดของร้านขายยา
สนามมวย-คอนเสิร์ตสุดแออัดไม่ปิดแค่ขอความร่วมมือ
ต่อมาเวลา 11.30 น. นายวิทยา ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมเวทีมวยไทยที่สถานีโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 7 โดยได้แจกหน้ากากอนามัยจำนวน 500 ชุด และเจลล้างมือให้กับประชาชนที่เข้าไปชมการแข่งขันมวยไทย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสถานที่เสี่ยงต่อการแพระเชื้อไวรัส เพราะสถานที่คับแคบ แต่มีประชาชนเกือบ 3,000 คน มาร่วมชมการแข่งขัน ทั้งนี้ในเวลา 17.30 น.มีกำหนดการเดินทางไปแจกหน้ากากอนามัยและเจลล้างมือที่ผู้ชมคอนเสิร์ต บี้ เดอะสตาร์ ที่อิมแพ็คเมืองทองธานีด้วย
“สถานการณ์การระบาดของไทยยังไม่รุนแรงมาก โดยผู้เชี่ยวชาญประเมินว่าการระบาดของไทยยังอยู่ในระดับ 2 คืออัตราป่วยตายไม่เกิน ร้อยละ 0.5 ดังนั้น จึงยังไม่มีความจำเป็นในการสั่งห้ามกิจกรรมชุมนุมคนจำนวนมาก เช่น คอนเสิร์ต สถานบันเทิง ผับ บาร์ เป็นต้น แต่สธ. จะขอความร่วมมือในการคัดกรองผู้ป่วย การดูแลและป้องกันตนเอง เช่น สวมหน้ากากอนามัย ล้างเมือบ่อยๆ ซึ่งโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ถือเป็นโรคระบาดใหม่ที่ระบาดไปทั่วโลก ไม่ใช่โรคประจำถิ่นของไทย ดังนั้นทั่วโลกจึงได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจเหมือนกัน” นายวิทยากล่าว
