“วิทยา” เชิญนักไวรัสวิทยาและระบาดวิทยา หารือมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 เดินหน้าลดจำนวนผู้ติดเชื้อ เปิดโรงงานผลิตวัคซีนหวัดใหญ่ 2009 พรุ่งนี้ ขณะที่นักระบาดวิทยา คาดทั่วโลกจะมีผู้เสียชีวิตจากโรคนี้ 600 คน หากมีมาตรการป้องกันที่เข้มข้น ระบุไม่สามารถหยุดการแพร่ระบาดได้ภายใน 2-3 เดือน แต่ต้องใช้เวลาถึง 1-3 ปี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (11 ก.ค.) นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้เชิญ ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยาและระบาดวิทยา อาทิ นพ.ยง ภู่วรวรรณ ผู้เชี่ยวชาญไวรัสวิทยา จากจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย และ นพ.วิทยา จารุพูนผล คณบดีคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล มาหารือแนวทางในการสร้างความรู้ความเข้าใจ ในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 ให้กับประชาชน ที่พรรคประชาธิปัตย์ โดยมีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ เข้าร่วมด้วย
นายวิทยา เปิดเผยภายหลังการหารือว่า สิ่งที่กระทรวงฯ ดำเนินการ และออกมาตรการเพิ่มเติม คือ การรณรงค์ให้ความรู้ในการป้องกันโรคให้กับประชาชน เนื่องจากนักระบาดวิทยายืนยันว่า ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เป็นโรคระบาดที่ประชาชนมีโอกาสติดเชื้อได้เท่าเทียมกัน เพราะไม่มีใครมีภูมิคุ้มกัน สำหรับการสร้างภูมิคุ้มกันมีเพียง 2 ทาง คือ ติดเชื้อแล้วหายเป็นปกติ และการใช้วัคซีน ซึ่งกระทรวงฯ ได้รับการสนับสนุนจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ในการให้องค์การเภสัชกรรมดำเนินการ ซึ่งจะมีการตั้งโรงงานต้นแบบ ที่คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์ จ.นครปฐม ซึ่งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานเปิดโรงงานวันพรุ่งนี้ (12 ก.ค.) โดยประเทศรัสเซียจะส่งเชื้อต้นแบบ มาให้ทำการวิจัย เพื่อการผลิต ส่วนการจองวัคซีนจาก WHO ประเทศไทยได้โควตา 2 ล้านโดส จะจัดส่งมาถึงประเทศไทยในเดือนตุลาคมนี้
“กระทรวงฯ จะพยายามปรับปรุงระบบข้อมูลผู้ป่วย โดยเชื่อมระบบฐานข้อมูลกับโรงพยาบาลเอกชนและรัฐ ขณะนี้ ได้ประสานกับสำนักหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เพื่อสำรวจผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง จำนวน 2 ล้านคน และจะส่งจดหมายไปเตือน และเป็นการยืนยันว่า จะได้รับการรักษาเป็นกรณีพิเศษ ในกรณีที่มีการติดเชื้อ” นายวิทยา กล่าว
ด้านนายชวน กล่าวว่า สิ่งที่กระทรวงฯ ต้องทำต่อไป คือ การให้ความจริง และความรู้ที่ถูกต้องกับประชาชน เพื่อให้ประชาชนปฏิบัติได้ เนื่องจากประชาชนมีโอกาสเสี่ยงที่จะติดเชื้อทุกคน และเมื่อพิจารณาจากแนวโน้มที่ผู้เชี่ยวชาญรายงาน จึงเชื่อว่าจะมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น และว่า “ผมได้ขอย้ำให้เพิ่มความเข้มข้น ในการประสานงานกับองค์กรต่างๆ เพื่อให้ประชาชนมีความระมัดระวังการติดเชื้อตลอดเวลา” นายชวนกล่าว
ส่วนผู้เชี่ยวชาญยืนยันหรือไม่ว่า แนวทางที่รัฐบาลทำมาถูกต้อง ไม่ได้เป็นไปตามที่ฝ่ายค้านโจมตี นายชวน กล่าวว่า ที่ประชุมไม่ได้พูดถึงฝ่ายค้าน เพียงแต่เป็นการรับฟังข้อมูลจากนักวิชาการ เพื่อทำความเข้าใจกับสถานการแพร่ระบาด
ขณะที่ นพ.ยง กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 ทั่วโลกขณะนี้ ถือว่าเป็นการระบาดใหญ่ มีมากกว่า 120 ประเทศ ที่เป็นโรคนี้ และมีผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันแล้ว มากกว่า 100,000 คน ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลก ที่มีผู้ป่วยด้วยโรคนี้ในประเทศไทย และแนวโน้มการแพร่ระบาด ยังไม่สามารถหยุดได้ภายใน 1-2 เดือน แต่จะใช้เวลาเป็นปีโดยอาจอยู่ระหว่าง 1-3 ปี
“คาดว่าจะสามารถยุติการแพร่ระบาดได้ เมื่อมีการติดเชื้อแล้ว 1 ใน 3 ของประชากรโลก แต่ถ้ามีมาตรการดูแลการแพร่กระจายของโรคที่ดี อัตราการแพร่ระบาดก็สามารถลดลงได้” นพ.ยง กล่าวและว่า การแพร่ระบาดในประเทศจะเป็นไปตามฤดูกาล จึงไม่ต้องการให้ประชาชนตื่นตระหนก และยังยืนยันว่า ไม่จำเป็นต้องตรวจวินิจฉัยเชื้อในผู้ป่วยทุกคน แต่ควรมุ่งไปที่คนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงมากกว่า ทั้งนี้ จากการประเมินการแพร่ระบาด คาดว่าทั่วโลกจะมีผู้เสียชีวิตจากการระบาดครั้งนี้ประมาณ 1,200 คน แต่หากมีมาตรการที่เข้มข้น จะสามารถลดอัตราการเสียชีวิตลงได้ครึ่งหนึ่ง นักระบาดวิทยาจึงคาดว่า อัตราการเสียชีวิตในการแพร่ระบาดทั่วโลก จะมีจำนวนไม่เกิน 600 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (11 ก.ค.) นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้เชิญ ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยาและระบาดวิทยา อาทิ นพ.ยง ภู่วรวรรณ ผู้เชี่ยวชาญไวรัสวิทยา จากจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย และ นพ.วิทยา จารุพูนผล คณบดีคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล มาหารือแนวทางในการสร้างความรู้ความเข้าใจ ในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 ให้กับประชาชน ที่พรรคประชาธิปัตย์ โดยมีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ เข้าร่วมด้วย
นายวิทยา เปิดเผยภายหลังการหารือว่า สิ่งที่กระทรวงฯ ดำเนินการ และออกมาตรการเพิ่มเติม คือ การรณรงค์ให้ความรู้ในการป้องกันโรคให้กับประชาชน เนื่องจากนักระบาดวิทยายืนยันว่า ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เป็นโรคระบาดที่ประชาชนมีโอกาสติดเชื้อได้เท่าเทียมกัน เพราะไม่มีใครมีภูมิคุ้มกัน สำหรับการสร้างภูมิคุ้มกันมีเพียง 2 ทาง คือ ติดเชื้อแล้วหายเป็นปกติ และการใช้วัคซีน ซึ่งกระทรวงฯ ได้รับการสนับสนุนจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ในการให้องค์การเภสัชกรรมดำเนินการ ซึ่งจะมีการตั้งโรงงานต้นแบบ ที่คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์ จ.นครปฐม ซึ่งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานเปิดโรงงานวันพรุ่งนี้ (12 ก.ค.) โดยประเทศรัสเซียจะส่งเชื้อต้นแบบ มาให้ทำการวิจัย เพื่อการผลิต ส่วนการจองวัคซีนจาก WHO ประเทศไทยได้โควตา 2 ล้านโดส จะจัดส่งมาถึงประเทศไทยในเดือนตุลาคมนี้
“กระทรวงฯ จะพยายามปรับปรุงระบบข้อมูลผู้ป่วย โดยเชื่อมระบบฐานข้อมูลกับโรงพยาบาลเอกชนและรัฐ ขณะนี้ ได้ประสานกับสำนักหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เพื่อสำรวจผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง จำนวน 2 ล้านคน และจะส่งจดหมายไปเตือน และเป็นการยืนยันว่า จะได้รับการรักษาเป็นกรณีพิเศษ ในกรณีที่มีการติดเชื้อ” นายวิทยา กล่าว
ด้านนายชวน กล่าวว่า สิ่งที่กระทรวงฯ ต้องทำต่อไป คือ การให้ความจริง และความรู้ที่ถูกต้องกับประชาชน เพื่อให้ประชาชนปฏิบัติได้ เนื่องจากประชาชนมีโอกาสเสี่ยงที่จะติดเชื้อทุกคน และเมื่อพิจารณาจากแนวโน้มที่ผู้เชี่ยวชาญรายงาน จึงเชื่อว่าจะมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น และว่า “ผมได้ขอย้ำให้เพิ่มความเข้มข้น ในการประสานงานกับองค์กรต่างๆ เพื่อให้ประชาชนมีความระมัดระวังการติดเชื้อตลอดเวลา” นายชวนกล่าว
ส่วนผู้เชี่ยวชาญยืนยันหรือไม่ว่า แนวทางที่รัฐบาลทำมาถูกต้อง ไม่ได้เป็นไปตามที่ฝ่ายค้านโจมตี นายชวน กล่าวว่า ที่ประชุมไม่ได้พูดถึงฝ่ายค้าน เพียงแต่เป็นการรับฟังข้อมูลจากนักวิชาการ เพื่อทำความเข้าใจกับสถานการแพร่ระบาด
ขณะที่ นพ.ยง กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 ทั่วโลกขณะนี้ ถือว่าเป็นการระบาดใหญ่ มีมากกว่า 120 ประเทศ ที่เป็นโรคนี้ และมีผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันแล้ว มากกว่า 100,000 คน ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลก ที่มีผู้ป่วยด้วยโรคนี้ในประเทศไทย และแนวโน้มการแพร่ระบาด ยังไม่สามารถหยุดได้ภายใน 1-2 เดือน แต่จะใช้เวลาเป็นปีโดยอาจอยู่ระหว่าง 1-3 ปี
“คาดว่าจะสามารถยุติการแพร่ระบาดได้ เมื่อมีการติดเชื้อแล้ว 1 ใน 3 ของประชากรโลก แต่ถ้ามีมาตรการดูแลการแพร่กระจายของโรคที่ดี อัตราการแพร่ระบาดก็สามารถลดลงได้” นพ.ยง กล่าวและว่า การแพร่ระบาดในประเทศจะเป็นไปตามฤดูกาล จึงไม่ต้องการให้ประชาชนตื่นตระหนก และยังยืนยันว่า ไม่จำเป็นต้องตรวจวินิจฉัยเชื้อในผู้ป่วยทุกคน แต่ควรมุ่งไปที่คนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงมากกว่า ทั้งนี้ จากการประเมินการแพร่ระบาด คาดว่าทั่วโลกจะมีผู้เสียชีวิตจากการระบาดครั้งนี้ประมาณ 1,200 คน แต่หากมีมาตรการที่เข้มข้น จะสามารถลดอัตราการเสียชีวิตลงได้ครึ่งหนึ่ง นักระบาดวิทยาจึงคาดว่า อัตราการเสียชีวิตในการแพร่ระบาดทั่วโลก จะมีจำนวนไม่เกิน 600 คน