เฉพาะวันนี้สังเวยหวัด 2009 อีก 2 ศพ โดยผู้เสียชีวิตรายแรกเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สน.พระโขนง เบื้องต้นทราบว่านายตำรวจรายนี้มีภาวะไตวายแทรกด้วย และล่าสุดมีรายงานว่า มีนักเรียนจากโรงเรียนสาธิตมหาสารคามเสียชีวิตด้วย ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่ม 211 ราย รวมยอดผู้ป่วยทั้งสิ้น 2,925 ราย ด้าน “มานิต” รับอาจมีผู้ป่วยมากกว่าจำนวนที่ สธ.เปิดเผย
วันนี้ (9 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีเหยื่อผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เสียชีวิตลงอีก 2 ราย เป็นรายที่ 12 และ 13 แล้ว โดยผู้เสียชีวิตรายแรกนี้ เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สถานีตำรวจนครบาลพระโขนง อายุ 52 ปี เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเมื่อ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา และเสียชีวิตเมื่อ 19.30 น.ของวันที่ 8 กรกฎาคม โดยข้อมูลเบื้องต้นระบุว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจรายนี้ป่วยด้วยหวัด 2009 และมีอาการแทรกซ้อนจากภาวะไตวาย เป็นเหตุให้เสียชีวิต
และล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 11.40 น.มีรายงานเข้ามาว่า ได้มีผู้เสียชีวิตรายที่ 13 เป็นเด็กนักเรียนโรงเรียนสาธิตมหาสารคาม ซึ่งผู้สื่อข่าวจะรายงานหากมีรายละเอียดเพิ่มเติม โดยในวันนี้เวลา 11.00 น. กระทรวงสาธารณสุขจะเปิดแถลงข่าวถึงรายละเอียดในกรณีดังกล่าวต่อไป
ด้านนายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ยอมรับว่าอาจมีจำนวนผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 มากกว่าที่ทางกระทรวงเปิดเผย โดยยืนยันว่าทางกระทรวงได้ปฏิบัติตามมาตรฐานการสุ่มตรวจตัวอย่าง จึงอาจทำให้ไม่ครอบคลุมทั้งหมด ทั้งนี้ กระทรวงได้ออกคำสั่งให้ทุกโรงพยาบาลจัดช่องทางพิเศษสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการไข้หวัด และให้ทุกโรงพยาบาลจัดทำแบบสำรวจความพึงพอใจของประชาชนที่มารับบริการ และเพิ่มจำนวนแพทย์ในช่วงหัวค่ำ เพราะเป็นช่วงเวลาที่ประชาชนมาใช้บริการมาก พร้อมยืนยันว่าการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลของรัฐไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น และฝากไปถึงประชาชนช่วยกันดูแลบุตรหลานหรือคนในครอบครัว หากมีอาการไข้ไม่ลดถึง 2 วัน ให้รีบเข้าพบแพทย์โดยด่วน
สำหรับยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มเฉพาะในวันนี้มีทั้งสิ้น 211 ราย รวมมีผู้ป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ขณะนี้ 2,925 ราย
นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า สธ.เตรียมประสานโรงเรียนแพทย์ทั่วประเทศจัดทีมรักษาโรคเคลื่อนที่เร็ว นำผู้เชี่ยวชาญด้านโรคทรวงอก เพื่อรักษาผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 ในแต่ละพื้นที่ กระจายตามทุกภาคแบ่งโซนรับผิดชอบ ให้ข้อมูลทางการแพทย์ถึงมือบุคลากรทางการแพทย์และรักษาชีวิตประชาชนไว้ให้มากที่สุด
เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. พล.ต.ต.จงเจตน์ อาวเจนพงษ์ รองนายแพทย์ใหญ่(สบ 7 )ในฐานะโฆษกโรงพยาบาลตำรวจ พ.ต.อ.พิศิษฐ์ เจนดิษฐการ หน.กลุ่มงานอายุรกรรม และนพ.ธนิต จิรนันท์ธวัช อายุรแพทย์โรคไต ในฐานะเจ้าของไข้ ร่วมกันแถลงข่าวการเสียชีวิตของ จ.ส.ต.วุฒิชัย ปรางทิพย์ อายุ 52 ปี ตำแหน่งผบ.หมู่งานจราจร สน.พระโขนง ผู้ป่วยติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 ซึ่งเสียชีวิตเสียชีวิตในเวลา 18.55 น.วันที่ 8 ก.ค.ที่ผ่านมา
พล.ต.ต.จงเจตน์ กล่าวว่า จ.ส.ต.วุฒิชัย มีประวัติเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และได้รับการผ่าตัดเมื่อพ.ศ.2541 นอกจากนี้ยังเป็นโรคไตวายเรื้อรัง ได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนไตเมื่อเดือน พ.ย.2545 โดยได้รับยากดภูมิคุ้มกันมาโดยตลอด กระทั่งเมื่อวันที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมาผู้ป่วยรายนี้ ได้มารพ.ตำรวจด้วยอาการมีไข้ ไอ เจ็บคอ ได้รับการตรวจรักษาและวินิจฉัยว่าเป็นโรคปอดอักเสบจากการติดเชื้อไวรัส ซึ่งแพทย์ได้ซักประวัติเพิ่มเติมพบว่าบุตรสาวได้เรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยมหิดล มีเพื่อนเป็นไข้หวัด 2009 ต่อมาลูกสาวป่วยเป็นหวัดและผู้ป่วยมีอาการตามมาซึ่งต้องสงสัยว่าเป็นไข้หวัดใหญ่2009
พล.ต.ต.จงเจตน์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 1ก.ค.2552 แพทย์ได้เก็บเสมหะผู้ป่วยตรวจหาสารพันธุกรรมที่สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข และเริ่มให้ยา Tamiflu แก่ผู้ป่วยตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.ที่ผานสมา ต่อมาวันที่ 2 ก.ค.ได้รับรายงานผลการตรวจปรากฏว่าผู้ป่วยมีสารพันธุกรรมไว้รัสไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ชนิดA/H1N1 แพทย์ได้ให้การรักษาผู้ป่วยแต่อาการยังไม่ดีขึ้น และมีโรคแทรกซ้อน กระทั่งวันที่ 8 ก.ค.ที่ผ่านมา ผู้ป่วยมีภาวะไตวายและความดันโลหิตตต่ำ แพทย์ได้ให้ยารักษาแต่ผู้ป่วยอาการไม่ดีขึ้นก่อนที่จะเสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยคาดว่า จ.ส.ต.วุฒิชัย ได้รับเชื้อมาจากลูกสาว
พล.ต.ต.จงเจตน์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้มีผู้ป่วยเป็นผู้หญิง ในวัย 20ต้น ๆ รักษาตัวและรอผลการตรวจว่าป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ สายพันธ์ใหม่ 2009 หรือไม่อยู่ 1ราย โดยหญิงรายนี้มีประวัติเป็นโรคธาลัสซีเมียหรือโรคเลือดมาก่อน อย่างไรก็ตามยังยืนยันว่า หากผู้ที่มีร่างกายแข็งแรง และมารักษาตั้งแต่แรกๆ เมื่อเกิดอาการของโรค ก็สามารถรักษาหายได้ แต่สำหรับผู้ทีมีร่างกายอ่อนแอ โดยเฉพาะผู้ที่เป็นโรคอี่น ๆมาก่อน เช่น เคยผ่าตัด โรคเอดส์ หรือโรคอื่น ๆ ที่ต้องทานยากดภูมิคุ้มกัน หากได้รับเชื้อไวรัสสายพันธ์ใหม่อีกก็มีความเสี่ยงสูงที่จะเสียชีวิตด้วยโรคแทรกซ้อน