กรมศิลป์ เผย ฐานรากชั้นที่ 2 พระธาตุดอยสุเทพเกิดรอยร้าว เหตุดินใต้โครงสร้างไหลตามน้ำฝน วิศวกรคาด เกิดแผ่นดินไหวเกิน 5 ริกเตอร์ ผสมโรงฝนตกหนัก พระธาตุอาจทลายได้ ด้านกรมศิลปากร เผย การบูรณะทำได้ไม่ต่อเนื่อง ติดวัดประกอบพิธีกรรม พร้อมเร่งติดตั้งเครื่องวัดน้ำใต้ดิน วัดมวลดิน ก่อนเกิดเหตุไม่คาดคิด
วันนี้ (28 มิ.ย.) นายสหวัฒน์ แน่นหนา ผอ.สำนักศิลปากรที่ 8 เชียงใหม่ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายธีระ สลักเพชร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เดินทางมายังวัดพระธาตุดอยสุเทพ จ.เชียงใหม่ เพื่อตรวจดูความแข็งแรงของพระธาตุดอยสุเทพ ซึ่งการบูรณะพระธาตุดอยสุเทพได้ดำเนินการในส่วนของปล้องไฉนเสร็จเรียบร้อยแล้ว เหลือแต่ส่วนขององค์พระธาตุ และสโลปดินที่เป็นส่วนของฐานทางทิศเหนือ ที่มีความสำคัญยังไม่ได้ดำเนินการบูรณะ เนื่องจากติดปัญหาหลายส่วน อาทิ การใช้พื้นที่บริเวณองค์พระธาตุประกอบพิธีกรรมต่างๆ ตนจึงมีความเป็นห่วงว่า ในฤดูฝนเช่นนี้อาจจะทำให้ดินที่อยู่ในแนวสไลด์และดินที่อยู่บริเวณคันกั้นดินบริเวณฐานอ่อนตัวไหลออกจากคันกั้นดินมากขึ้น
ขณะเดียวกัน ยังพบว่า ฐานรากชั้นที่ 2 มีรอยร้าว ส่งผลให้ฐาน และพื้นที่บริเวณระเบียงคตรอบองค์พระธาตุเกิดรอยร้าวและทรุดตัวได้ ซึ่งสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย หรือ เอไอที และวิศวกรจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้คาดการณ์ว่า หากเกิดฝนตกหนักระดับน้ำใต้ดินสูงขึ้น ประกอบกับมีแผ่นดินไหวเกิน 5 ริกเตอร์ อาจทำให้โครงสร้างทรุดจากดินเหลว ทำให้ดึงองค์พระธาตุพังทลายลงมาได้
นายสหวัฒน์ กล่าวต่อไปว่า เมื่อปี 2538 มีฝนตกหนักในพื้นที่องค์พระธาตุ ประกอบกับมีแผ่นดินไหวประมาณ 6 ริกเตอร์ ทำให้ยอดองค์พระธาตุหักลงมา ซึ่งจากการสำรวจของกรมศิลปากร และ มช.พบว่า คันกั้นดินเอียง ทำให้ดินที่อยู่ในส่วนฐานไหลออกมาทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับการแก้ไขมาบ้างแล้ว แต่ยังไม่ถาวร หากปล่อยไว้อาจจะสร้างความเสียหายให้แก่องค์พระธาตุได้ ทางกรมศิลปากร จึงได้ของบประมาณในการเร่งบูรณะสโลปองค์พระธาตุ เพื่อป้องกันดินฐานรากไหนออก ใน 2 ช่วง จำนวน 129 ล้านบาท นอกจากนี้ จะดำเนินการติดตั้งเครื่องมือตรวจวัดระดับน้ำใต้ดิน และเสถียรภาพของมวลดินด้วย เพราะนับตั้งแต่ปี 2549 ไม่ได้มีการสำรวจระดับน้ำใต้ดิน และสภาพของดินอีก เกรงว่า ในช่วงฤดูฝน 3-4 เดือนนี้ อาจเกิดอันตรายได้
“ผมได้สำรวจโครงสร้างองค์พระธาตุ พบว่า เกิดรอยร้าวขึ้นหลายแห่ง โดยเฉพาะบริเวณฐานและระเบียงคตด้านทิศเหนือ ทางวัดจึงได้นำปูนมาปิดรอยไว้ เพื่อสร้างความสวยงามแก่ผู้พบเห็น ตอนแรกคิดว่า เป็นรอยร้าวที่เกิดจากการแตกของเนื้อปูนธรรมดา แต่เมื่อศึกษารอยร้าวอย่างละเอียด กลับพบว่า รอยร้าวนี้เกิดจากการทรุดตัวของโครงสร้าง ทำให้น่าเป็นห่วงมาก หากฝนตกหนักดินสโลปและดินในคันกั้นดินไหลออกไปมาก เกรงว่า โครงสร้างจะเกิดปัญหามากขึ้น”ผอ.สำนักศิลปากรที่ 8 กล่าว
ด้านนายธีระ สลักเพชร รมว.วัฒนธรรม กล่าวว่า ตนได้มากราบนมัสการพระธาตุดอยสุเทพ พร้อมกับตรวจเยี่ยมการบูรณะองค์พระธาตุ ซึ่งตนจะหารือกับทางเจ้าอาวาสให้การบูรณะครั้งนี้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี เพราะหากปล่อยไว้เกรงว่า อาจจะเป็นอันตรายกับองค์พระธาตุได้ เพราะช่วงนี้เข้าสู่ฤดูฝนแล้ว
