คณะทำงานบูรณะพระธาตุดอยสุเทพของบบูรณะเพิ่ม 85 ล้านบาท คาดไม่เกินปี 2553 แล้วเสร็จ ปรับพื้นที่ลาดเอียงให้รับแรงสั่นสะเทือนแผ่นดินไหวได้ 6.7-7.5 ริกเตอร์ ขณะที่ “ธีระ” เตรียมลงพื้นที่ดูการบูรณะ
เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. นายสหวัฒน์ แน่นหนา ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 8 เชียงใหม่ เปิดเผยความคืบหน้าการบูรณะพระธาตุดอยสุเทพ จ.เชียงใหม่ ว่า จากที่คณะทำงานสำนักศิลปากรที่ 8 ร่วมกับคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้เปิดแผ่นทองจังโกบางส่วนรอบองค์พระธาตุฯ ออก เมื่อเดือนกันยายนปี 2551 พบชั้นในองค์พระธาตุฉ่ำไปด้วยความชื้น ปูนขาวที่ใช้ฉาบเปื่อยยุ่ยเป็นผงละเอียดหลุดเป็นเนื้อดิน ตะปูสังฆวานรโบราณยึดติดองค์พระธาตุ หลุดหมด แต่องค์พระธาตุอยู่ได้ด้วยแผ่นจังโกโอบรัดไว้เท่านั้น
ซึ่งผลการศึกษาของวิศวกรรม มช.ให้เร่งดำเนินการบูรณะ 3 อย่าง คือ 1.แก้ไขปัญหาความชื้นภายในองค์พระธาตุฯ อย่างเร่งด่วน 2.จัดระบบระบายน้ำใหม่รอบองค์พระธาตุ และ 3.พื้นที่ลาดเอียงด้านทิศเหนือและค่อนไปทางทิศตะวันออกเป็นพื้นที่ลาดเอียง 45 องศา พบว่า ดินไม่มั่นคง หากฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องอาจมีผลถึงโครงสร้างองค์พระธาตุ ทำให้เกิดการสไลด์ตัวได้ตลอดเวลา
ผอ.สำนักศิลปากรที่ 8 กล่าวอีกว่า ตามที่รัฐบาลอนุมัติงบประมาณ 107.5 ล้านบาทนั้น ขณะนี้การบูรณะองค์พระธาตุฯ ดำเนินการไปแล้วแก้ปัญหาความชื้นภายในองค์พระธาตุ และระบบระบายน้ำใหม่จะไม่ทำให้ความชื้นเข้าไปในองค์พระธาตุได้ โดยตนได้รายงานความคืบหน้าให้นายเกรียงไกร สัมปัชชลิต อธิบดีกรมศิลปากร รับทราบอย่างต่อเนื่อง จะเหลือเพียงการแก้ปัญหาพื้นที่ลาดเอียงเท่านั้น ยังไม่ได้ดำเนินการแต่อย่างใด แต่ได้จัดทำแบบแปลนไว้เสร็จเรียบร้อยแล้ว รอการอนุมัติจัดซื้อจัดจ้างและงบประมาณบูรณะเพิ่มเติมในแผนงานกระตุ้นการท่องเที่ยวอารยธรรมล้านนา จะแบ่งเป็น 2 ช่วง โดยระยะแรกจะใช้งบ 45 ล้านบาท ระยะที่ 2 อีก 40 ล้านบาท รวมเป็น 85 ล้านบาท หากเป็นไปตามแผนงานคาดว่าบูรณะพระธาตุฯแล้วเสร็จในปี 2553
“การบูรณะองค์พระธาตุดอยสุเทพครั้งใหญ่นี้ จะทำให้ชาวเชียงใหม่เกิดความสบายใจได้ ทั้งผู้ออกแบบให้ความมั่นใจโครงสร้างพื้นที่ดินลาดเอียงจะรับแรงสั่นสะเทือนแผ่นดินไหวได้ โดยเอาสถิติแผ่นดินไหวรุนแรงที่สุดภาคเหนือ 6.7-7.5 ริกเตอร์เมื่อ 500 ปีที่ผ่านมาเป็นฐานคำนวณ ยกเว้นว่าจะเกิดศูนย์กลางแผ่นดินไหวบริเวณองค์พระธาตุเท่านั้น” ผอ.สำนักศิลปากรที่ 8 กล่าว
ด้าน นายธีระ สลักเพชร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า รัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนการบูรณะพระธาตุดอยสุเทพอย่างเต็มที่ เพราะเป็นปูชนียสถานสำคัญคู่บ้านคู่เมืองของชาวล้านนาเชียงใหม่และประชาชนทั่วประเทศมาเป็นเวลานานอายุกว่า 500 ปี ซึ่งงบประมาณการปรับพื้นที่ลาดเอียง 85 ล้านบาท อยู่ในงบโครงการไทยเข้มแข็งและได้มีการชี้แจงต่อสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สภาพัฒน์) เรียบร้อยแล้ว โดยคาดว่าจะเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) กลางเดือนกรกฎาคม ทั้งนี้ ตนจะเดินทางไปนมัสการพระเทพวรสิทธาจารย์ รองเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ และเจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยสุเทพ ดูความคืบหน้าการบูรณะในวันที่ 26 มิ.ย.นี้
เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. นายสหวัฒน์ แน่นหนา ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 8 เชียงใหม่ เปิดเผยความคืบหน้าการบูรณะพระธาตุดอยสุเทพ จ.เชียงใหม่ ว่า จากที่คณะทำงานสำนักศิลปากรที่ 8 ร่วมกับคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้เปิดแผ่นทองจังโกบางส่วนรอบองค์พระธาตุฯ ออก เมื่อเดือนกันยายนปี 2551 พบชั้นในองค์พระธาตุฉ่ำไปด้วยความชื้น ปูนขาวที่ใช้ฉาบเปื่อยยุ่ยเป็นผงละเอียดหลุดเป็นเนื้อดิน ตะปูสังฆวานรโบราณยึดติดองค์พระธาตุ หลุดหมด แต่องค์พระธาตุอยู่ได้ด้วยแผ่นจังโกโอบรัดไว้เท่านั้น
ซึ่งผลการศึกษาของวิศวกรรม มช.ให้เร่งดำเนินการบูรณะ 3 อย่าง คือ 1.แก้ไขปัญหาความชื้นภายในองค์พระธาตุฯ อย่างเร่งด่วน 2.จัดระบบระบายน้ำใหม่รอบองค์พระธาตุ และ 3.พื้นที่ลาดเอียงด้านทิศเหนือและค่อนไปทางทิศตะวันออกเป็นพื้นที่ลาดเอียง 45 องศา พบว่า ดินไม่มั่นคง หากฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องอาจมีผลถึงโครงสร้างองค์พระธาตุ ทำให้เกิดการสไลด์ตัวได้ตลอดเวลา
ผอ.สำนักศิลปากรที่ 8 กล่าวอีกว่า ตามที่รัฐบาลอนุมัติงบประมาณ 107.5 ล้านบาทนั้น ขณะนี้การบูรณะองค์พระธาตุฯ ดำเนินการไปแล้วแก้ปัญหาความชื้นภายในองค์พระธาตุ และระบบระบายน้ำใหม่จะไม่ทำให้ความชื้นเข้าไปในองค์พระธาตุได้ โดยตนได้รายงานความคืบหน้าให้นายเกรียงไกร สัมปัชชลิต อธิบดีกรมศิลปากร รับทราบอย่างต่อเนื่อง จะเหลือเพียงการแก้ปัญหาพื้นที่ลาดเอียงเท่านั้น ยังไม่ได้ดำเนินการแต่อย่างใด แต่ได้จัดทำแบบแปลนไว้เสร็จเรียบร้อยแล้ว รอการอนุมัติจัดซื้อจัดจ้างและงบประมาณบูรณะเพิ่มเติมในแผนงานกระตุ้นการท่องเที่ยวอารยธรรมล้านนา จะแบ่งเป็น 2 ช่วง โดยระยะแรกจะใช้งบ 45 ล้านบาท ระยะที่ 2 อีก 40 ล้านบาท รวมเป็น 85 ล้านบาท หากเป็นไปตามแผนงานคาดว่าบูรณะพระธาตุฯแล้วเสร็จในปี 2553
“การบูรณะองค์พระธาตุดอยสุเทพครั้งใหญ่นี้ จะทำให้ชาวเชียงใหม่เกิดความสบายใจได้ ทั้งผู้ออกแบบให้ความมั่นใจโครงสร้างพื้นที่ดินลาดเอียงจะรับแรงสั่นสะเทือนแผ่นดินไหวได้ โดยเอาสถิติแผ่นดินไหวรุนแรงที่สุดภาคเหนือ 6.7-7.5 ริกเตอร์เมื่อ 500 ปีที่ผ่านมาเป็นฐานคำนวณ ยกเว้นว่าจะเกิดศูนย์กลางแผ่นดินไหวบริเวณองค์พระธาตุเท่านั้น” ผอ.สำนักศิลปากรที่ 8 กล่าว
ด้าน นายธีระ สลักเพชร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า รัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนการบูรณะพระธาตุดอยสุเทพอย่างเต็มที่ เพราะเป็นปูชนียสถานสำคัญคู่บ้านคู่เมืองของชาวล้านนาเชียงใหม่และประชาชนทั่วประเทศมาเป็นเวลานานอายุกว่า 500 ปี ซึ่งงบประมาณการปรับพื้นที่ลาดเอียง 85 ล้านบาท อยู่ในงบโครงการไทยเข้มแข็งและได้มีการชี้แจงต่อสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สภาพัฒน์) เรียบร้อยแล้ว โดยคาดว่าจะเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) กลางเดือนกรกฎาคม ทั้งนี้ ตนจะเดินทางไปนมัสการพระเทพวรสิทธาจารย์ รองเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ และเจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยสุเทพ ดูความคืบหน้าการบูรณะในวันที่ 26 มิ.ย.นี้
