“จุรินทร์” เผยมีแผนปฏิรูปการศึกษารอบ 2 ชัดเจน มีเงินกว่าแสนล้านจากเงินกู้ ยกระดับการศึกษา ปรับปรุงอาคาร สุขา
ที่ห้องประชุมกาญจนภิเษก วิทยาลัยเทคนิคสุโขทัย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มอบนโยบายแก่ผู้บริหารสถานศึกษา ครู และบุคลากรทางการศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.)สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) กศน. สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตสุโขทัย และมหาวิทยาลัยรามคำแหง กล่าวว่า การปฏิรูปการศึกษาที่ผ่านมา เน้นการปฏิรูปโครงสร้างของกระทรวง ส่วนการปฏิรูปรอบ 2 ปี 2552-2562 โดยสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา(สกศ.) มีความชัดเจน ตั้งเป้าให้คนไทยมีการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพ คือ ตอนยังเด็กต้องได้โอกาสเรียนรู้ในสถานศึกษา พร้อมกันนี้ยังต้องเรียนรู้นอกระบบจนถึงเสียชีวิต ไม่ใช่เรียนจบมหาวิทยาลัยแล้วไม่ต้องเรียนอีก
นอกจากนี้การปฏิรูปจะเน้น 3 เรื่องหลัก 1. คุณภาพ 2.ขยายโอกาสทางการศึกษาให้คนทุกหมู่เหล่า ทุกเพศ เข้าถึงการศึกษา และนโยบายเรียนฟรี 15 ปีอย่างมีคุณภาพ ทำให้เด็กมีโอกาสได้เรียนเพิ่มมากขึ้น และ 3. เปิดโอกาสให้บริษัทเอกชน เอ็นจีโอ อบต. และอื่นๆ เข้ามามีส่วนร่วมในการปฏิรูปการศึกษารอบ 2 ต่อไปจะไม่ใช่ดำเนินการโดยรัฐเพียงลำพังอีกแล้ว
ขณะเดียวกัน ยังตั้งเป้าหมายด้วยว่า ผู้เรียนจะต้องมีคุณลักษณะ 3 ข้อ 1. เด็กเรียนจบแล้วเก่ง 2. ดี และ3. ภาคภูมิใจในความเป็นไทย อย่างไรก็ดี จะปั้นให้เก่งใน 5 กลุ่มสาระวิชา คือ อังกฤษ วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ภาษาไทย และสังคม เพราะผลการทดสอบ NT ของนักเรียนยังอยู่ในเกณฑ์ต้องปรับปรุง เพื่อให้ถึงเป้าหมาย จะตั้งศูนย์เพื่ออบรมครู 5 กลุ่มสาระ นอกจากนี้ยังมีแผนพัฒนาโรงเรียนมัธยม และโรงเรียนขยายโอกาส ซึ่งจะใช้เงินประมาณ 9 พันล้านบาทจากเงินกู้
ในส่วนของอาชีวศึกษา จะยกเครื่องโดยเน้นให้เด็กเรียนสายสามัญ อาชีวศึกษา 50:50 จากเดิมเรียนสายสามัญ 60 อาชีวะ 40 เหตุที่เน้นให้เด็กเรียนสายอาชีพเพิ่มขึ้น เพราะเด็กเรียนอาชีวะแล้วมีงานทำ ขณะที่เรียนสายสามัญจนจบปริญญาตรีพบว่าตกงานจำนวนมาก
นอกจากนี้ยังเตรียมระบบคุณวุฒิวิชาชีพ ยกตัวอย่างเด็กเรียนจบอาชีวะจะต้องมาวัดระดับความรู้ความสามารถ อาจจะตั้งระดับความรู้ไว้ 7 ขั้น เมื่อวัดความรู้ความสามารถแล้วจะให้อัตราเงินเดือนตามความรู้ไม่ใช่ได้เงินตามวุฒิ อีกทั้งจะปรับสถานศึกษาอาชีวะสู่สถาบัน ซึ่งเรื่องนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ หากตั้งเป็นสถาบันจะเปิดสอนปริญญาตรีสายอาชีพ
นายจุรินทร์ กล่าวว่า ส่วนระดับอุดมศึกษา จะมีการตั้งสถาบันวิจัย ซึ่งการวิจัยไม่ใช่วิจัยด้านวิชาการ แต่จะวิจัยตามตลาด เพื่อนำผลการวิจัยไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในการพัฒนาประเทศ
“ภาพรวมๆ ขณะนี้มีเงินจากเงินกู้กว่าแสนล้านบาท เพื่อนำใช้ในการพัฒนาการศึกษาทุกระดับ ให้เด็กเก่ง ดี แล้วยังใช้ในการปรับปรุงอาคารสถาน สุขา และอื่นๆ”
ที่ห้องประชุมกาญจนภิเษก วิทยาลัยเทคนิคสุโขทัย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มอบนโยบายแก่ผู้บริหารสถานศึกษา ครู และบุคลากรทางการศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.)สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) กศน. สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตสุโขทัย และมหาวิทยาลัยรามคำแหง กล่าวว่า การปฏิรูปการศึกษาที่ผ่านมา เน้นการปฏิรูปโครงสร้างของกระทรวง ส่วนการปฏิรูปรอบ 2 ปี 2552-2562 โดยสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา(สกศ.) มีความชัดเจน ตั้งเป้าให้คนไทยมีการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพ คือ ตอนยังเด็กต้องได้โอกาสเรียนรู้ในสถานศึกษา พร้อมกันนี้ยังต้องเรียนรู้นอกระบบจนถึงเสียชีวิต ไม่ใช่เรียนจบมหาวิทยาลัยแล้วไม่ต้องเรียนอีก
นอกจากนี้การปฏิรูปจะเน้น 3 เรื่องหลัก 1. คุณภาพ 2.ขยายโอกาสทางการศึกษาให้คนทุกหมู่เหล่า ทุกเพศ เข้าถึงการศึกษา และนโยบายเรียนฟรี 15 ปีอย่างมีคุณภาพ ทำให้เด็กมีโอกาสได้เรียนเพิ่มมากขึ้น และ 3. เปิดโอกาสให้บริษัทเอกชน เอ็นจีโอ อบต. และอื่นๆ เข้ามามีส่วนร่วมในการปฏิรูปการศึกษารอบ 2 ต่อไปจะไม่ใช่ดำเนินการโดยรัฐเพียงลำพังอีกแล้ว
ขณะเดียวกัน ยังตั้งเป้าหมายด้วยว่า ผู้เรียนจะต้องมีคุณลักษณะ 3 ข้อ 1. เด็กเรียนจบแล้วเก่ง 2. ดี และ3. ภาคภูมิใจในความเป็นไทย อย่างไรก็ดี จะปั้นให้เก่งใน 5 กลุ่มสาระวิชา คือ อังกฤษ วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ภาษาไทย และสังคม เพราะผลการทดสอบ NT ของนักเรียนยังอยู่ในเกณฑ์ต้องปรับปรุง เพื่อให้ถึงเป้าหมาย จะตั้งศูนย์เพื่ออบรมครู 5 กลุ่มสาระ นอกจากนี้ยังมีแผนพัฒนาโรงเรียนมัธยม และโรงเรียนขยายโอกาส ซึ่งจะใช้เงินประมาณ 9 พันล้านบาทจากเงินกู้
ในส่วนของอาชีวศึกษา จะยกเครื่องโดยเน้นให้เด็กเรียนสายสามัญ อาชีวศึกษา 50:50 จากเดิมเรียนสายสามัญ 60 อาชีวะ 40 เหตุที่เน้นให้เด็กเรียนสายอาชีพเพิ่มขึ้น เพราะเด็กเรียนอาชีวะแล้วมีงานทำ ขณะที่เรียนสายสามัญจนจบปริญญาตรีพบว่าตกงานจำนวนมาก
นอกจากนี้ยังเตรียมระบบคุณวุฒิวิชาชีพ ยกตัวอย่างเด็กเรียนจบอาชีวะจะต้องมาวัดระดับความรู้ความสามารถ อาจจะตั้งระดับความรู้ไว้ 7 ขั้น เมื่อวัดความรู้ความสามารถแล้วจะให้อัตราเงินเดือนตามความรู้ไม่ใช่ได้เงินตามวุฒิ อีกทั้งจะปรับสถานศึกษาอาชีวะสู่สถาบัน ซึ่งเรื่องนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ หากตั้งเป็นสถาบันจะเปิดสอนปริญญาตรีสายอาชีพ
นายจุรินทร์ กล่าวว่า ส่วนระดับอุดมศึกษา จะมีการตั้งสถาบันวิจัย ซึ่งการวิจัยไม่ใช่วิจัยด้านวิชาการ แต่จะวิจัยตามตลาด เพื่อนำผลการวิจัยไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในการพัฒนาประเทศ
“ภาพรวมๆ ขณะนี้มีเงินจากเงินกู้กว่าแสนล้านบาท เพื่อนำใช้ในการพัฒนาการศึกษาทุกระดับ ให้เด็กเก่ง ดี แล้วยังใช้ในการปรับปรุงอาคารสถาน สุขา และอื่นๆ”