วันนี้ (8 พ.ค.) บริษัทในเครือสหวิริยาได้จัดงาน "ก้าวต่อไปของนักศึกษาโครงการวิทยาลัยเทคโนโลยีการจัดการเหล็กและเหล็กกล้า วอ.บางสะพาน กับโรงถลุงเหล็กสหวิริยา" ที่โรงแรมเวสเทิร์น อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยมีนาย วิน วิริยประไพกิจ กรรมการเครือสหวิรยา นายสุรินทร์ นวลรอด ผู้อำนวยการวิทยาลัยการอาชีพบางสะพานเข้าร่วม พร้อมด้วยคณะอาจารย์ ผู้ปกครอง และนักศึกษาระดับชั้น ปวส.จากวิทยาลัยการอาชีพบางสะพาน ที่สำเร็จการศึกษาในปีการศึกษา 2551 จำนวน 93 คน ประกอบด้วย สาขาวิชาการจัดการคลังสินค้า (โลจิสติกส์) สาขาติดตั้งและบำรุงรักษา สาขางานติดตั้งไฟฟ้า และสาขางานเทคนิคยายนต์
นอกจากนี้ ภายในงานยังได้เปิดให้นักศึกษาที่เข้าร่วมสมัครงาน
นายวิน วิริยประไพกิจ กรรมการเครือสหวิริยา กล่าวว่า ยินดีกับนักศึกษา และอยากขอให้ทุกคนภาคภูมิใจในวุฒิบัตรที่ได้รับ เพื่อนำไปปฏิบัติในสิ่งที่ดีและเป็นคนดีของสังคม ซึ่งเครือสหวิริยามุ่งมั่นพัฒนาระบบการศึกษาในพื้นที่ ในการยกระดับการศึกษาระดับ ปวส.ของเยาวชนในพื้นที่ อ.บางสะพาน และพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อรองรับอุตสาหกรรมเหล็ก โดยการจัดการเรียนการสอนแบบทวิภาคี ให้นักศึกษาได้ฝึกงานในสภาพแวดล้อมการทำงานจริงในโรงงาน
นอกจากนี้ เป็นการพัฒนาระบบการเรียนการสอนให้กับเด็กในพื้นที่ และชุมชน ตลอดจนเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในบางสะพานให้ดียิ่งขึ้น
นายชัยภัทร เขมาภิรักษ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท โรงถลุงเหล็กสหวิริยา จำกัด กล่าวว่า แนวนโยบายในการรับนักศึกษาเข้าทำงานกับบริษัทคือให้คนบางสะพานเข้ามามีส่วนร่วมกับเรา รวมถึงนักศึกษาที่เป็นคนในพื้นที่ ซึ่งโดยคุณวุฒิของนักศึกษาที่จบปีการศึกษา 2551 สามารถร่วมงานกับโรงถลุงเหล็กได้ โดยตำแหน่งที่ต้องการทั้งหมด 5,000 ตำแหน่ง ซึ่งวุฒิระดับ ปวส.ต้องการกว่า 2,000 อัตรา
นายชัยภัทร กล่าวว่า โครงการนี้เป็นโครงการขนาดใหญ่จึงย่อมมีอุปสรรค และปัจจุบันอยู่ในการเตรียมความพร้อมด้านต่างๆ เช่นเรื่องของอีไอเอ ระบบสาธารณูปโภค ไฟฟ้า ถนน การขอใบอนุญาตจากส่วนราชการท้องถิ่นและภาครัฐที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น ซึ่งเราไม่สามารถเดินหน้าได้ตัวคนเดียว ปัจจุบันจึงต้องประกาศหยุดรอเพื่อขอความชัดเจนจากภาครัฐต่อนโยบายสนับสนุนที่ชัดเจนทำให้เราสามารถเดินหน้าโครงการต่อไปได้ ขณะที่โครงการนี้เป็นโครงการที่ต้องการจะเตรียมความพร้อมของชาวบางสะพานที่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งกับเรา จึงต้องเตรียมรับสมัครบุคคลที่ต้องการทำงานกับเราจริงๆ โดยเฉพาะการเลือกคนในพื้นที่เป็นลำดับแรก
ด้านนายสุรินทร์ นวลรอด ผู้อำนวยการวิทยาลัยการอาชีพบางสะพาน กล่าวว่า โครงการดังกล่าวที่ได้ร่วมกับเครือสหวิริยาถือเป็นจุดแข็งของวิทยาลัยฯ เนื่องจากวิทยาลัยการอาชีพจำนวน 404 แห่งทั่วประเทศ มีที่นี่เพียงแห่งเดียวที่มีการพัฒนาหลักสูตรร่วมกับภาคเอกชน และฝึกฝนให้นักเรียน นักศึกษาได้ฝึกปฏิบัติจริงกับอุตสาหกรรม โดยอนาคตวางแผนเปิดการเรียนการสอนในระดับปริญญาตรี จากปัจจุบันสอนในระดับ ปวส.
นายอำพล มณพลับ อายุ 21 ปี นักศึกษา ปวส.สาขาช่างไฟฟ้า วิทยาลัยการอาชีพบางสะพาน กล่าวว่า รู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นนักศึกษารุ่นแรก เพราะเป็นแบบอย่างและการบุกเบิกระบบการศึกษาให้กับรุ่นน้อง ซึ่งตนเองตั้งใจไว้ว่าเมื่อจบจากวิทยาลัยฯ ก็ต้องการเข้ามาทำงานในโรงถลุงเหล็ก แต่เมื่อโครงการต้องรอการตัดสินใจจากภาครัฐดังนั้นจากนี้จะไปลงเรียนต่อคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
นอกจากนี้ ภายในงานยังได้เปิดให้นักศึกษาที่เข้าร่วมสมัครงาน
นายวิน วิริยประไพกิจ กรรมการเครือสหวิริยา กล่าวว่า ยินดีกับนักศึกษา และอยากขอให้ทุกคนภาคภูมิใจในวุฒิบัตรที่ได้รับ เพื่อนำไปปฏิบัติในสิ่งที่ดีและเป็นคนดีของสังคม ซึ่งเครือสหวิริยามุ่งมั่นพัฒนาระบบการศึกษาในพื้นที่ ในการยกระดับการศึกษาระดับ ปวส.ของเยาวชนในพื้นที่ อ.บางสะพาน และพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อรองรับอุตสาหกรรมเหล็ก โดยการจัดการเรียนการสอนแบบทวิภาคี ให้นักศึกษาได้ฝึกงานในสภาพแวดล้อมการทำงานจริงในโรงงาน
นอกจากนี้ เป็นการพัฒนาระบบการเรียนการสอนให้กับเด็กในพื้นที่ และชุมชน ตลอดจนเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในบางสะพานให้ดียิ่งขึ้น
นายชัยภัทร เขมาภิรักษ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท โรงถลุงเหล็กสหวิริยา จำกัด กล่าวว่า แนวนโยบายในการรับนักศึกษาเข้าทำงานกับบริษัทคือให้คนบางสะพานเข้ามามีส่วนร่วมกับเรา รวมถึงนักศึกษาที่เป็นคนในพื้นที่ ซึ่งโดยคุณวุฒิของนักศึกษาที่จบปีการศึกษา 2551 สามารถร่วมงานกับโรงถลุงเหล็กได้ โดยตำแหน่งที่ต้องการทั้งหมด 5,000 ตำแหน่ง ซึ่งวุฒิระดับ ปวส.ต้องการกว่า 2,000 อัตรา
นายชัยภัทร กล่าวว่า โครงการนี้เป็นโครงการขนาดใหญ่จึงย่อมมีอุปสรรค และปัจจุบันอยู่ในการเตรียมความพร้อมด้านต่างๆ เช่นเรื่องของอีไอเอ ระบบสาธารณูปโภค ไฟฟ้า ถนน การขอใบอนุญาตจากส่วนราชการท้องถิ่นและภาครัฐที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น ซึ่งเราไม่สามารถเดินหน้าได้ตัวคนเดียว ปัจจุบันจึงต้องประกาศหยุดรอเพื่อขอความชัดเจนจากภาครัฐต่อนโยบายสนับสนุนที่ชัดเจนทำให้เราสามารถเดินหน้าโครงการต่อไปได้ ขณะที่โครงการนี้เป็นโครงการที่ต้องการจะเตรียมความพร้อมของชาวบางสะพานที่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งกับเรา จึงต้องเตรียมรับสมัครบุคคลที่ต้องการทำงานกับเราจริงๆ โดยเฉพาะการเลือกคนในพื้นที่เป็นลำดับแรก
ด้านนายสุรินทร์ นวลรอด ผู้อำนวยการวิทยาลัยการอาชีพบางสะพาน กล่าวว่า โครงการดังกล่าวที่ได้ร่วมกับเครือสหวิริยาถือเป็นจุดแข็งของวิทยาลัยฯ เนื่องจากวิทยาลัยการอาชีพจำนวน 404 แห่งทั่วประเทศ มีที่นี่เพียงแห่งเดียวที่มีการพัฒนาหลักสูตรร่วมกับภาคเอกชน และฝึกฝนให้นักเรียน นักศึกษาได้ฝึกปฏิบัติจริงกับอุตสาหกรรม โดยอนาคตวางแผนเปิดการเรียนการสอนในระดับปริญญาตรี จากปัจจุบันสอนในระดับ ปวส.
นายอำพล มณพลับ อายุ 21 ปี นักศึกษา ปวส.สาขาช่างไฟฟ้า วิทยาลัยการอาชีพบางสะพาน กล่าวว่า รู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นนักศึกษารุ่นแรก เพราะเป็นแบบอย่างและการบุกเบิกระบบการศึกษาให้กับรุ่นน้อง ซึ่งตนเองตั้งใจไว้ว่าเมื่อจบจากวิทยาลัยฯ ก็ต้องการเข้ามาทำงานในโรงถลุงเหล็ก แต่เมื่อโครงการต้องรอการตัดสินใจจากภาครัฐดังนั้นจากนี้จะไปลงเรียนต่อคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
