ส.ว.ยื่นกระทูจี้ความไม่โปร่งใส โรงงานถลุงเหล็กบริษัทในเครือสหวิริยา ด้าน “สุเทพ” ยันจะคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม และจะดำเนินคดีต่อผู้ที่บุกรุกพื้นที่ป่าพรุ ด้าน รมว.อุตฯ ปฏิเสธที่ปรึกษานั่งบอร์ดสหวิริยา
วันนี้ (13 ก.พ.) ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา ได้พิจารณากระทู้ถามเรื่องการเผชิญหน้าและผลกระทบต่อวิถีชีวิตชาวบางสะพาน จากโครงการก่อสร้างโรงงานถลุงเหล็กของบริษัทในเครือสหวิริยา อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ที่นายประสาร มฤคพิทักษ์ ส.ว.สรรหา ถามนายกรัฐมนตรีว่า โครงการนี้สร้างปัญหามากมายด้านสิ่งแวดล้อม และวิถีชีวิตชุมชนทั้งระบบ ภาคประชาชนคือกลุ่มอนุรักษ์แม่รำพึง ใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ คัดค้านต่อเนื่องมากว่า 2 ปี แต่ฝ่ายตรงข้ามก็มีการจัดตั้งกลุ่มเสื้อแดง มาข่มขู่ คุกคามมาโดยตลอด โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ขัดขวาง รัฐบาลจะจัดการอย่างไร รวมถึงเรื่องการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) และสุขภาพ (เอชไอเอ) ที่ไม่โปร่งใส และการที่กระทรวงอุตสาหกรรมเป็นผู้อนุมัติโครงการ แต่มีความทับซ้อนเนื่องจากมีที่ปรึกษารมว.อุตสาหกรรม เป็นกรรมการอิสระหรือบอร์ดของสหวิริยาไปพร้อมกัน
ด้าน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ชี้แจงว่า รัฐบาลคำนึงถึงการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ แต่ต้องดูแลให้ประชาชนปลอดภัยด้วย โดยยึดความยุติธรรมอย่างเคร่งครัด เรื่องนี้ก็เช่นกันจะดำเนินการกับผู้ฝ่าฝืนกฎหมายทุกคน ส่วนกรณีโรงงานจะดำเนินการตามที่กฎหมายบัญญัติ ประเด็นพื้นที่ ต้องไม่รุกล้ำพื้นที่สาธารณะที่เป็นป่าพรุ ไม่เช่นนั้นต้องเพิกถอน ส่วนปัญหาเรื่องเจ้าหน้าที่รัฐทั้งฝ่ายปกครอง อุตสาหกรรม สิ่งแวดล้อม ยืนยันว่า ต้องเป็นกลางและปฏิบัติตามกฎหมาย นอกจากนี้ ตนเชิญ พ.ต.อ.ชาติชาย เครือพานิช ผู้กำกับการตำรวจ อ.บางสะพาน ที่เพิ่งไปอยู่ 2 เดือนเศษ มาหารือ และกำชับว่าต้องเป็นกลางเคร่งครัด ยืนยันได้ว่าผู้กำกับคนนี้ไม่อยู่ข้างใด แต่ที่ตั้งด่านตรวจสอบก็ตรวจทั้ง 2 ฝ่ายเพื่อไม่ให้ตีกัน ต้องทำให้ต่อสู้กันตามกรอบของกฎหมาย ส่วนเรื่องอีไอเอยืนยันว่าจะทำด้วยความโปร่งใสและเชิญประชาชนมาให้ข้อมูลด้วย
ขณะที่ นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รมว.อุตสาหกรรม ชี้แจงว่า ปัญหาเรื่องความโปร่งใสของอีไอเอและเอชไอเอนั้น เมื่อตนเข้ามาก็ได้กำหนดนโยบายที่เน้นการมีส่วนร่วมของประชาชน และคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน สำหรับกรณีที่ปรึกษารัฐมนตรี ตนยังไม่ได้ตั้งชุดใด แต่จะไปดูว่าหากเป็นของรัฐมนตรีคนก่อนก็จะไม่ให้เกิดขึ้น ไม่มีสวมหมวก 2 ใบแน่ ยืนยันว่าจะบริหารอย่างมีธรรมาภิบาล
