xs
xsm
sm
md
lg

เฮ! เคาะราคายามะเร็งเม็ดเลือดขาว-ข้ออักเสบ บริษัทยอมลดมากกว่า 50%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คณะทำงานเจรจาต่อรองราคายา 3 รายการ รักษามะเร็งเม็ดเลือดขาว และข้ออักเสบ เคาะราคาครั้งสุดท้าย บริษัทยายอมลดราคาเท่ากับ 1 เท่าของจีดีพี จาก 4 แสนบาท เหลือ 1.3 แสนบาท หรือประมาณ 50% เตรียมนำเสนอคณะอนุกรรมการฯ 29 มิ.ย.นี้ เสนอบรรจุเข้าบัญชียาหลักแห่งชาติต่อไป เผยต้นปีงบประมาณ 53 ผู้ป่วยทั้ง 3 ระบบจะได้ใช้ยาชนิดนี้แน่

จากการที่คณะอนุกรรมการคัดเลือกยาและเวชภัณฑ์ที่มีความจำเป็นและมีปัญหาการการเข้าถึงของประชาชนในระบบหลักประกันสุขภาพ ซึ่งมีภญ.สำลี ใจดี เป็นประธานนั้น ได้มีการพิจารณายา 3 รายการที่มีความจำเป็นต่อประชาชนคือ ริทูซิแม็บ (Rituximab) อีธาเนอเซป (Etanercept) และ อินฟลิซิแม็ป (Infliximab) ซึ่งเป็นยารักษาโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว และโรครูมาตอยด์หรือข้ออักเสบ ได้แต่งตั้งนพ.ศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานคณะทำงานต่อรองราคายาและเวชภัณฑ์ที่จำเป็นและมีปัญหาการเข้าถึงของประชาชนในระบบหลักประกันสุขภาพขึ้น นั้น

นพ.ศิริวัฒน์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมา คณะทำงานได้เชิญบริษัทยาเพื่อหารือเป็นครั้งที่ 4 ซึ่งเป็นการเจรจาครั้งสุดท้าย ซึ่งได้ข้อสรุปว่าในจำนวนยา 3 รายการนั้น มียา 1 รายการจาก 1 บริษัทที่ยินยอมลดราคายาลงมาเท่ากับราคายาที่ประมาณ 1 เท่าของจีดีีพี ตามกติกาที่องค์การอนามัยโลกแนะนำ คือ จากราคาเดิมก่อนที่ยังไม่ได้ลดราคานั้น การรักษาผู้ป่วย 1 คนจะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 4 แสนบาท แต่เมื่อบริษัทยายอมลดราคาลงมาเท่ากับ 1 เท่าของ จีดีพี ทำให้ได้ราคาอยู่ที่ 1.3 แสนบาทต่อการรักษาผู้ป่วย 1 คนหรือลดลงมากกว่าร้อยละ 50

“ขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยชื่อบริษัทยาดังกล่าวได้ เนื่องจากต้องรอหนังสือยืนยันอย่างเป็นทางการของบริษัทก่อน หลังจากนั้นทางคณะทำงานฯจะจัดทำข้อสรุปการเจรจาต่อรองราคายาครั้งนี้ นำเสนอคณะอนุกรรมการคัดเลือกยาและเวชภัณฑ์ที่มีความจำเป็นฯ ซึ่งมีภญ.สำลี ใจดี เป็นประธานโดยจะประชุมในวันที่ 29 มิถุนายนนี้ หากในที่ประชุมยืนยันมติจากคณะเจรจาต่อรองฯ จากนั้นจะนำเรื่องเสนอต่อคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เพื่อนำยาดังกล่าวเข้าบรรจุบัญชียาหลักแห่งชาติต่อไป ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยทั้ง 3 ระบบ คือ ระบบสวัสดิการข้าราชการ ระบบประกันสังคม และระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าแห่งชาติ ได้เข้าถึงยาอย่างเท่าเทียมกัน หลังจากที่มีแต่ระบบสวัสดิการข้าราชการเท่านั้นที่ได้ใช้ยานี้ ทั้งนี้คาดว่าต้นปีงบประมาณ 2553 ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2552 ผู้ป่วยจะได้ใช้ยานี้”นพ.ศิริวัฒน์กล่าว

นพ.ศิริวัฒน์ กล่าวต่อว่า ความสำเร็จของการเจรจาครั้งนี้เป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างมาก ที่ได้รับความร่วมมือที่ดีจากบริษัทยา เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยเข้าถึงยาจำเป็นมากขึ้น ขอขอบคุณความร่วมมือที่ดีจากทุกบริษัทยา ที่มีเป้าหมายเพื่อให้ผู้ป่วยเข้าถึงยาจำเป็นร่วมกัน ซึ่งจะเป็นสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชาชนไทย และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความร่วมมือที่ดีเช่นนี้อีกต่อไปในอนาคต
กำลังโหลดความคิดเห็น