สกสค.รับได้รับค่าคอมมิชชันจาก ธ.ออมสิน ในการดำเนินการเงินกู้ ช.พ.ค.จริง ตั้งแต่โครงการ 2 โครงการ 2-3 ได้รับค่าตอบแทนร้อยละ 50 สตางค์ โครงการ 4 ร้อยละ 75 สตางค์ และโครงการ 5 ร้อยละ 1 บาท อ้างนำผลตอบแทนไปใช้ตอบแทนครูที่เสียชีวิตในภาคใต้ แจงให้องค์การค้ากู้เงินมีเช็คค้ำประกันไม่ต้องเป็นห่วง ด้าน “วัฒนา” ชี้ กู้ ช.พ.ค.ไม่มีบังคับพ่วงเช่าพระ
นายชินภัทร ภูมิรัตน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ว่า ที่ประชุมได้รับทราบรายงานความคืบหน้าโครงการสวัสดิการเงินกู้ ช.พ.ค.(โครงการ 5) ที่ให้สมาชิก ช.พ.ค.กู้เงินได้ในวงเงินสูงสุดไม่เกินคนละ 600,000 บาท ซึ่งมีการผ่อนผันให้ผู้กู้ไม่เกินวงเงิน 300,000 บาท เลือกทำหรือไม่ทำประกันชีวิตก็ได้ แต่หากเกินจากวงเงินนี้ ก็ต้องทำประกันชีวิตเพื่อสิทธิประโยชน์ของทายาทและเป็นการประกันเงินต้น ทั้งนี้ ได้รับรายงานด้วยว่าการดำเนินโครงการเงินกู้ ช.พ.ค.ได้รับเงินเป็นค่าตอบแทนจากธนาคารออมสินในฐานะที่เป็นลูกค้าชั้นดี โดยโครงการ 2-3 ได้รับค่าตอบแทนร้อยละ 50 สตางค์ โครงการ 4 ร้อยละ 75 สตางค์ และโครงการ 5 ร้อยละ 1 บาท ซึ่งเงินดังกล่าวได้นำมาเป็นทุนในการดำเนินภารกิจของ สกสค.ในทุกเรื่อง ทั้งการลงทุนกองทุนเพื่อช่วยเหลือครูที่เสียชีวิต การจัดสวัสดิการให้กับครอบครัวของครูที่เสียชีวิตในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้รายละ 500,000 บาท และการสร้างศูนย์พัฒนาครูใน 4 ภูมิภาค
ด้าน นายสมศักดิ์ ตาไชย รองเลขาธิการคณะกรรมการ สกสค. กล่าวกรณีมีการนำเงิน ช.พ.ค.ไปให้องค์การค้าฯกู้ ว่า ยอมรับว่ามีการนำเงินไปให้องค์การค้าฯกู้จริง แต่เป็นเงินค่าบริการ ร้อยละ 4 ที่มีการหักจากสมาชิก เพื่อเป็นค่าดำเนินการ ซึ่งเป็นเงินมรดกผ่านมา 58 ปีมีวงเงินสะสม 400 ล้านบาท เมื่อ สกสค.เห็นว่าองค์การค้าฯซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดขาดสภาพคล่องจึงยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ โดยมีเงินเช็คค้ำประกัน จึงขอยืนยันให้ทุกคนสบายใจว่า สกสค.ไม่ได้นำเงินของสมาชิกไปใช้
ด้านนายวัฒนา วรรณโสภา รองเลขาธิการคณะกรรมการ สกสค. กล่าวว่า คณะกรรมการ ช.พ.ค.พิจารณาแล้วยืนยันว่า กรณีที่กู้ระหว่าง 300,000-600,000 บาท จำเป็นต้องทำประกัน เพื่อเป็นหลักประกันเนื่องจากการกู้เงินจำนวนมาก เสี่ยงต่อการทิ้งวงเงิน อีกทั้งเพื่อเป็นการค้ำประกันโครงการให้กับธนาคารด้วยว่าถ้าเสียชีวิตลงบริษัทประกันก็ต้องจ่ายวงเงินกู้ให้กับธนาคาร ที่สำคัญ การทำประกันจะทำให้ทายาทได้รับเงินจำนวนดังกล่าวเต็มจำนวนด้วยในกรณีที่ผู้กู้เสียชีวิตลง แต่หากไม่มีหลักประกันใดๆ มาทดแทน คณะกรรมการ ช.พ.ค.ก็เป็นห่วงว่าสมาชิก ช.พ.ค.ที่กู้เงินไปแล้วอาจเห็นว่าดึงเงินในอนาคตมาใช้ถึง 600,000 บาทแล้ว เหลืออีกเพียง 90,000 บาท ก็ไม่ส่งต่อก็ได้ หรืออาจจะไม่ส่งค่าสงเคราะห์ศพ ศพละ1 บาทต่อเดือนอีก ซึ่งจะส่งผลกระทบกับสมาชิก ช.พ.ค.ที่เหลืออีก 300,000-400,000 คน ที่ไม่ได้กู้ ดังนั้น จึงยืนยันว่า กรณีที่กู้ในวงเงินสูง จะต้องทำประกันเพื่อเป็นหลักประกันรองรับว่าถ้าหากผู้กู้เสียชีวิตลง บริษัทประกันก็จะต้องจ่ายทุกกรณีและทุกกลุ่มอายุ อย่างไรก็ตาม กรณีที่กู้ไม่ถึง 300,000 บาท สามารถเลือกได้ว่าจะทำประกันหรือไม่ก็ได้
ส่วนที่กังวลว่าเงินค่าตอบแทนพิเศษหรือค่าคอมมิสชั่นที่ธนาคารออมสินจ่ายให้แก่ สกสค. จะนำเงินไปใช้ผิดประเภทนั้น ยืนยันว่า สกสค.นำเงินไปใช้เพื่อประโยชน์ของสมาชิกจริงๆ ไม่ได้นำมาจ่ายผิดประเภท โดยมีระเบียบรองรับ ส่วนที่มีข่าวว่า สกสค.จังหวัดบางแห่ง บังคับให้สมาชิกช.พ.ค.ที่กู้เงินในโครงการสวัสดิการเงินกู้ ช.พ.ค.โครงการ 5 ต้องเช่าพระโดยเลือกระหว่างเช่าชุดเล็ก ชุดละ 199 บาทและชุดใหญ่ ชุดละ 1,999 บาทนั้น เรื่องนี้บังเอิญออกมาประจวบเหมาะพอดีกับโครงการสวัสดิการเงินกู้ ช.พ.ค.โครงการ 5 ทั้งที่เป็นโครงการที่เปิดกว้างให้สมาชิก ช.พ.ค. ครูและบุคคลทั่วไปที่มีจิตศรัทธาสามารถเช่าพระได้โดยไม่บังคับใดๆ ทั้งสิ้นและไม่เกี่ยวข้องกับโครงการสวัสดิการเงินกู้ ช.พ.ค.โครงการ 5 ด้วย ดังนั้น ถ้าใครถูกบังคับให้เช่าพระ ก็ขอให้แจ้งเบาะแสพร้อมกับหลักฐานมายังตนที่ สกสค.โทร.02-2824084 พร้อมที่จะตรวจสอบเพื่อเอาผิดต่อไป โดยยินดีปกปิดชื่อเป็นความลับ
“สำหรับกรณีหักเงิน 10,000 บาทเข้ากองทุนใน สกสค.นั้น กองทุนนี้จะเป็นเงินออมสำหรับสมาชิก ช.พ.ค.และจะมีระเบียบวิธีจัดการมารองรับด้วย โดยระเบียบดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายใน 15 วัน จากนั้นจะเสนอคณะกรรมการ สกสค.เพื่อพิจารณาต่อไป ทั้งนี้เรื่องเหล่านี้ได้รายงานต่อ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการศธ.เมื่อวันที่ 18 มิถุยายนที่ผ่านมา โดยรัฐมนตรีว่าการ ศธ.บอกว่า เรื่องนี้จะช่วยครูได้ ทั้งนี้ โครงการนี้ ศธ.และ สกสค.ดูแลร่วมกัน ถ้า รมว.ศธ.มีแนวคิดและนโยบายต่อกองทุนอย่างไร ก็สามารถสั่งการและให้นโยบายได้ นอกจากนี้ได้รายงานรัฐมนตรีว่าการ ศธ.เรื่องที่ให้ทางเลือกแก่สมาชิก ช.พ.ค.ไม่ต้องทำประกันกรณีที่กู้เงินไม่ถึง 300,000 บาท ด้วย ซึ่งรัฐมนตรีว่าการศธ.ก็บอกว่าถือว่าครูมีทางเลือก แต่ก็ต้องดูต่อไปด้วยว่าเมื่อดำเนินการไปแล้วจะมีปัญหาและผลกระทบมากน้อยแค่ไหน ก็ค่อยมาว่ากันอีกที
นายชินภัทร ภูมิรัตน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ว่า ที่ประชุมได้รับทราบรายงานความคืบหน้าโครงการสวัสดิการเงินกู้ ช.พ.ค.(โครงการ 5) ที่ให้สมาชิก ช.พ.ค.กู้เงินได้ในวงเงินสูงสุดไม่เกินคนละ 600,000 บาท ซึ่งมีการผ่อนผันให้ผู้กู้ไม่เกินวงเงิน 300,000 บาท เลือกทำหรือไม่ทำประกันชีวิตก็ได้ แต่หากเกินจากวงเงินนี้ ก็ต้องทำประกันชีวิตเพื่อสิทธิประโยชน์ของทายาทและเป็นการประกันเงินต้น ทั้งนี้ ได้รับรายงานด้วยว่าการดำเนินโครงการเงินกู้ ช.พ.ค.ได้รับเงินเป็นค่าตอบแทนจากธนาคารออมสินในฐานะที่เป็นลูกค้าชั้นดี โดยโครงการ 2-3 ได้รับค่าตอบแทนร้อยละ 50 สตางค์ โครงการ 4 ร้อยละ 75 สตางค์ และโครงการ 5 ร้อยละ 1 บาท ซึ่งเงินดังกล่าวได้นำมาเป็นทุนในการดำเนินภารกิจของ สกสค.ในทุกเรื่อง ทั้งการลงทุนกองทุนเพื่อช่วยเหลือครูที่เสียชีวิต การจัดสวัสดิการให้กับครอบครัวของครูที่เสียชีวิตในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้รายละ 500,000 บาท และการสร้างศูนย์พัฒนาครูใน 4 ภูมิภาค
ด้าน นายสมศักดิ์ ตาไชย รองเลขาธิการคณะกรรมการ สกสค. กล่าวกรณีมีการนำเงิน ช.พ.ค.ไปให้องค์การค้าฯกู้ ว่า ยอมรับว่ามีการนำเงินไปให้องค์การค้าฯกู้จริง แต่เป็นเงินค่าบริการ ร้อยละ 4 ที่มีการหักจากสมาชิก เพื่อเป็นค่าดำเนินการ ซึ่งเป็นเงินมรดกผ่านมา 58 ปีมีวงเงินสะสม 400 ล้านบาท เมื่อ สกสค.เห็นว่าองค์การค้าฯซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดขาดสภาพคล่องจึงยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ โดยมีเงินเช็คค้ำประกัน จึงขอยืนยันให้ทุกคนสบายใจว่า สกสค.ไม่ได้นำเงินของสมาชิกไปใช้
ด้านนายวัฒนา วรรณโสภา รองเลขาธิการคณะกรรมการ สกสค. กล่าวว่า คณะกรรมการ ช.พ.ค.พิจารณาแล้วยืนยันว่า กรณีที่กู้ระหว่าง 300,000-600,000 บาท จำเป็นต้องทำประกัน เพื่อเป็นหลักประกันเนื่องจากการกู้เงินจำนวนมาก เสี่ยงต่อการทิ้งวงเงิน อีกทั้งเพื่อเป็นการค้ำประกันโครงการให้กับธนาคารด้วยว่าถ้าเสียชีวิตลงบริษัทประกันก็ต้องจ่ายวงเงินกู้ให้กับธนาคาร ที่สำคัญ การทำประกันจะทำให้ทายาทได้รับเงินจำนวนดังกล่าวเต็มจำนวนด้วยในกรณีที่ผู้กู้เสียชีวิตลง แต่หากไม่มีหลักประกันใดๆ มาทดแทน คณะกรรมการ ช.พ.ค.ก็เป็นห่วงว่าสมาชิก ช.พ.ค.ที่กู้เงินไปแล้วอาจเห็นว่าดึงเงินในอนาคตมาใช้ถึง 600,000 บาทแล้ว เหลืออีกเพียง 90,000 บาท ก็ไม่ส่งต่อก็ได้ หรืออาจจะไม่ส่งค่าสงเคราะห์ศพ ศพละ1 บาทต่อเดือนอีก ซึ่งจะส่งผลกระทบกับสมาชิก ช.พ.ค.ที่เหลืออีก 300,000-400,000 คน ที่ไม่ได้กู้ ดังนั้น จึงยืนยันว่า กรณีที่กู้ในวงเงินสูง จะต้องทำประกันเพื่อเป็นหลักประกันรองรับว่าถ้าหากผู้กู้เสียชีวิตลง บริษัทประกันก็จะต้องจ่ายทุกกรณีและทุกกลุ่มอายุ อย่างไรก็ตาม กรณีที่กู้ไม่ถึง 300,000 บาท สามารถเลือกได้ว่าจะทำประกันหรือไม่ก็ได้
ส่วนที่กังวลว่าเงินค่าตอบแทนพิเศษหรือค่าคอมมิสชั่นที่ธนาคารออมสินจ่ายให้แก่ สกสค. จะนำเงินไปใช้ผิดประเภทนั้น ยืนยันว่า สกสค.นำเงินไปใช้เพื่อประโยชน์ของสมาชิกจริงๆ ไม่ได้นำมาจ่ายผิดประเภท โดยมีระเบียบรองรับ ส่วนที่มีข่าวว่า สกสค.จังหวัดบางแห่ง บังคับให้สมาชิกช.พ.ค.ที่กู้เงินในโครงการสวัสดิการเงินกู้ ช.พ.ค.โครงการ 5 ต้องเช่าพระโดยเลือกระหว่างเช่าชุดเล็ก ชุดละ 199 บาทและชุดใหญ่ ชุดละ 1,999 บาทนั้น เรื่องนี้บังเอิญออกมาประจวบเหมาะพอดีกับโครงการสวัสดิการเงินกู้ ช.พ.ค.โครงการ 5 ทั้งที่เป็นโครงการที่เปิดกว้างให้สมาชิก ช.พ.ค. ครูและบุคคลทั่วไปที่มีจิตศรัทธาสามารถเช่าพระได้โดยไม่บังคับใดๆ ทั้งสิ้นและไม่เกี่ยวข้องกับโครงการสวัสดิการเงินกู้ ช.พ.ค.โครงการ 5 ด้วย ดังนั้น ถ้าใครถูกบังคับให้เช่าพระ ก็ขอให้แจ้งเบาะแสพร้อมกับหลักฐานมายังตนที่ สกสค.โทร.02-2824084 พร้อมที่จะตรวจสอบเพื่อเอาผิดต่อไป โดยยินดีปกปิดชื่อเป็นความลับ
“สำหรับกรณีหักเงิน 10,000 บาทเข้ากองทุนใน สกสค.นั้น กองทุนนี้จะเป็นเงินออมสำหรับสมาชิก ช.พ.ค.และจะมีระเบียบวิธีจัดการมารองรับด้วย โดยระเบียบดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายใน 15 วัน จากนั้นจะเสนอคณะกรรมการ สกสค.เพื่อพิจารณาต่อไป ทั้งนี้เรื่องเหล่านี้ได้รายงานต่อ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการศธ.เมื่อวันที่ 18 มิถุยายนที่ผ่านมา โดยรัฐมนตรีว่าการ ศธ.บอกว่า เรื่องนี้จะช่วยครูได้ ทั้งนี้ โครงการนี้ ศธ.และ สกสค.ดูแลร่วมกัน ถ้า รมว.ศธ.มีแนวคิดและนโยบายต่อกองทุนอย่างไร ก็สามารถสั่งการและให้นโยบายได้ นอกจากนี้ได้รายงานรัฐมนตรีว่าการ ศธ.เรื่องที่ให้ทางเลือกแก่สมาชิก ช.พ.ค.ไม่ต้องทำประกันกรณีที่กู้เงินไม่ถึง 300,000 บาท ด้วย ซึ่งรัฐมนตรีว่าการศธ.ก็บอกว่าถือว่าครูมีทางเลือก แต่ก็ต้องดูต่อไปด้วยว่าเมื่อดำเนินการไปแล้วจะมีปัญหาและผลกระทบมากน้อยแค่ไหน ก็ค่อยมาว่ากันอีกที
