กทม.ตั้ง “อภิรักษ์” นั่งกุนซือคุมออกพันธบัตร-สลากกุศล

กทม.ตั้ง “อภิรักษ์” นั่งกุนซือคุมออกสลาก-พันธบัตร กทม.คาดออกพันธบัตร 2 หมื่นล้าน ได้ต้นปีหน้า เล็งจ้างนักบัญชีช่วยปิดปีงบประมาณ “ธีระชน” เผยรัฐบาลจะช่วยค้ำประกันออกบอนด์

นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า จากที่ได้ประชุมร่วมกับที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิด้านการเงิน การคลัง อาทิ ดร.บุญญรักษ์ นิงสานนท์ อดีตผู้อำนวยการธนาคารออมสิน นายชวลิต เตชะไพบูลย์ นั้น เห็นว่า ควรจะต้องตั้งคณะทำงาน 2 ชุด คือ ระดับอำนวยการและปฏิบัติการ โดยระดับอำนวยการมีผู้ว่าฯ กทม.เป็นประธานคณะกรรมการดำเนินการออกพันธบัตร สลากการกุศล และการกู้เงินกรุงเทพมหานคร และมีนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีเป็นกรรมการที่ปรึกษา ส่วนในระดับปฏิบัติการมีตนเป็นประธานโดยจะเสนอให้ผู้ว่าฯกทม.ลงนามแต่งตั้งอย่างเป็นทางการเร็วๆ นี้

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้สรุปแนวทาง คือ กทม.ควรจะดำเนินการออกสลากการกุศลพิเศษเพื่อระดมทุนในการก่อสร้างโรงพยาบาลบางขุนเทียนและศูนย์ผู้สูงอายุที่ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม โดยวงเงินที่ต้องการ คือ 500-1,000 ล้านบาท ซึ่งอาจจะออก 24 งวดแต่ต้องดูอีกครั้งว่าจะต้องใช้งบประมาณจำนวนเท่าไหร่ในการดำเนินการ ทั้งนี้เงินที่ได้จากการออกสลากจะแบ่งเป็นเงินรางวัล 60% ส่วนลด 9% ค่าบริหาร 3% ที่เหลือเป็นส่วนแบ่งของหน่วยงาน

นายธีระชน กล่าวว่า ในส่วนการออกพันธบัตรนั้นวงเงิน 20,000 ล้านบาทนั้นทางคณะกรรมการได้เสนอเงื่อนไขการออกแนวทาง 2 การออกพันธบัตร คือ ออกครั้งละ 5,000 บาทจำนวน 4 ครั้ง หรือออกครั้งละ 10,000 บาทจำนวน 2 ครั้ง โดยเงินที่ได้จากการออกพันธบัตรกทม.จะนำมาลงทุนในระบบขนส่งมวลชนทั้งการทำระบบรถไฟฟ้ารางเดี่ยว (Mono Rail) และระบบขนส่งมวลชนระบบรางขนาดเบา ส่วนการจัดอันดับความน่าเชื่อถือนั้นทางทริส เรทติ้ง ได้จัดอันดับของ กทม.ในระดับ AA+ สำหรับการออกสลากการกุศล แต่หากออกพันธบัตรทางรัฐบาลจะมาช่วยค้ำประกันให้ก็จะทำให้ได้ระดับ AAA+ นอกจากนี้ มี 3 ธนาคารที่เสนอตัวจะเข้ามาเป็นผู้บริหารจัดการตราสารหนี้ให้กับ กทม.ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย และธนาคารกสิกรไทย ซึ่งธนาคารกรุงเทพเสนอค่าธรรมเนียม 0.1% ของวงเงิน

อย่างไรก็ตาม การจะออกพันธบัตรกทม.ได้นั้นจะต้องปิดบัญชีปีงบประมาณตั้งแต่ปี 2549-2552 ให้เสร็จเรียบร้อยก่อนโดยจะจัดหานักบัญชีจำนวน 80 คน เพื่อมาช่วยปิดงบบัญชีเป็นกรณีพิเศษตั้งเป้าจะต้องแล้วเสร็จในเดือนพฤศจิกายนจากนั้นส่งให้สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินตรวจสอบ และนำเข้าสู่สภา กทม.ขณะเดียวกัน ก็จะหาผู้เชี่ยวชาญมาดูแลด้านการตลาดและกำหนดขั้นตอนต่างๆ เกี่ยวกับการออกพันธบัตรว่า กทม.ควรดำเนินการอย่างไรรวมทั้งหาที่ปรึกษาดูแลระบบสารสนเทศ ทั้งนี้ คาดว่า จะสามารถออกพันธบัตร กทม.ได้ประมาณต้นปี 2553 ส่วนอายุพันธบัตรอาจจะอยู่ระหว่าง 5-20 ปี ดอกเบี้ยอยู่ระหว่าง 4-5% จะเปิดขายเฉพาะตลาดในประเทศอย่างเดียว