สธ.แถลงยืนยันพบผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่2009 เพิ่มขึ้นอีก 1 ราย ถือเป็นรายที่ 3 ของประเทศไทย ระบุเป็นผู้ป่วยหญิงชาวไทยที่เพิ่งเดินทางกลับจากสหรัฐอเมริกา รู้สึกป่วยเป็นหวัดตั้งแต่ก่อนกลับ เมื่อกลับเมืองไทยจึงไปตรวจเอง ผลการตรวจเสมหะทางห้องปฏิบัติการยืนยันให้ผลบวก ขณะนี้ได้รับ “ทามิฟลู” เกือบครบโดสแล้ว และรักษาที่บ้าน มีอาการไอเล็กน้อย ทีมสอบสวนโรคติดตามดูแลสมาชิกในครอบครัวและผู้สัมผัสผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด ขณะนี้ไม่มีอาการป่วย มั่นใจควบคุมการแพร่กระจายเชื้อได้
วันนี้ (30 พ.ค.) เวลาประมาณ 10.30 น.ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์มานิตย์ ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ แถลงข่าวว่า ในวันนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศขึ้นทะเบียนผู้ป่วยยืนยันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 ในประเทศไทยเพิ่มอีก 1 ราย รวมเป็นผู้ป่วยยืนยัน 3 ราย เป็นผู้ที่ติดเชื้อมาจากต่างประเทศ ยืนยันว่าไม่ได้ติดเชื้อในประเทศไทย
โดย นพ.ปราชญ์ได้แถลงข่าวยืนยันพบผู้ติดเชื้อไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 เป็นรายที่ 3 เป็นชาวไทยที่กลับมาจากสหรัฐอเมริกา ขณะนี้พักฟื้นอยู่ที่บ้าน อาการยังปกติ อย่างไรก็ตาม ยังมีรายงานพบผู้ป่วย ที่อยู่ในข่ายเฝ้าระวังโรค จำนวนทั้งสิ้นอีก 9 ราย ขณะเดียวกันยังไม่มีการแพร่ระบาดในประเทศ
นพ.ปราชญ์กล่าวว่า ผู้ป่วยรายนี้เป็นหญิงไทยวัยประมาณ 50 ปี เดินทางไปเที่ยวที่สหรัฐอเมริกาประมาณ 10 วัน แต่ก่อนกลับเมืองไทย 2 วันมีอาการคล้ายหวัด น้ำมูกไหล ไอ มีไข้ จึงได้รับประทานยารักษาตามอาการ อาการไข้จึงลดลง จึงสามารถผ่านด่านตรวจโรคบริเวณจุดตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ได้ เนื่องจากเครื่องเทอร์โมแสกนตรวจไม่พบว่ามีไข้
“ในวันที่ 28 พ.ค. สำนักระบาดวิทยาได้รับรายงานพบผู้ป่วยสงสัยโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 จำนวน 1 ราย เป็นหญิงอายุประมาณ 50 ปี เดินทางกลับมาจากประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเริ่มป่วยเมื่อวันที่ 24 พ.ค.52 มีอาการเล็กน้อยขณะอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา ถึงประเทศไทยวันที่ 26 พ.ค.52 หลังเดินทางเข้ามาถึงไทยไปรักษาเป็นผู้ป่วยนอกที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน กทม. เมื่อวันที่ 27 พ.ค.52 ผลการตรวจเบื้องต้นให้ผลบวก แพทย์ให้ยาต้านไวรัสทามิฟลู พร้อมส่งตัวอย่างสารคัดหลั่งไปตรวจที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ในวันเดียวกัน และส่งตรวจที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เช้าวันที่ 29 พ.ค.52 ผลการตรวจยืนยันพบติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 จริง เมื่อวานนี้ ( 29 พ.ค.52) ผู้ป่วยมีอาการไอเล็กน้อย สมาชิกในครอบครัวไม่มีอาการป่วยแต่อย่างใด
ผู้ป่วยเป็นผู้ที่มีความรู้ในเรื่องการปฏิบัติตัวหากมีความเสี่ยงต่อการติดโรคหวัด 2009 เมื่อกลับมาถึงเมืองไทยก็ได้ไปตรวจที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ก็ได้รับยามารับประทาน จากนั้นก็เป็นข้อปฏิบัติที่เมื่อมีผู้ป่วยจากประเทศที่มีความเสี่ยง ก็จะมีการส่งผลไปตรวจ ไปยังห้องปฏิบัติการของโรงพยาบาลจุฬาฯ เมื่อผลจากจุฬาฯออกมาว่าผู้ป่วยติดเชื้อหวัด 2009 ก็ต้องตรวจแบบคู่ขนาน ก็ได้มีการตรวจซ้ำอีกครั้งในห้องปฎิบัติการของกระทรวงฯ ก็พบว่าได้ผลตรงกัน”
นพ.ปราชญ์กล่าวว่า ผู้ป่วยรายนี้ได้รับยาทามิฟลูแล้ว และได้กลับไปพักฟื้นที่บ้าน อาการทั่วไปค่อนข้างดี และเชื่อว่าเกือบจะหาย 100% แต่อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องติดตามผลต่อไป
“จริงๆ แล้วต้องขอบพระคุณสื่อเป็นอย่างมากครับ ที่ช่วยกระจายข่าวไปพร้อมๆ กับให้ความรู้ในการปฏิบัติตัวเมื่อเกิดความเสี่ยง อย่างในผู้ป่วยรายนี้เมื่อเขารู้สึกว่าถึงความผิดปกติของสุขภาพ บวกกับข้อมูลที่ได้รับจากสื่อ ก็ทำให้เธอเดินทางไปขอตรวจด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมที่คนไทยตื่นตัวและตระหนักรู้ถึงสิ่งที่ต้องปฏิบัติเพื่อสุขภาพของตนเอง” นพ.ปราชญ์กล่าว
นพ.ปราชญ์ กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขได้ส่งทีม SRRT ลงสอบสวนโรคทั้งผู้สัมผัสในครอบครัวและที่ทำงาน พร้อมให้คำแนะนำให้พักอยู่ในบ้านเพื่อสังเกตอาการเป็นเวลา 7 วัน ลดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับผู้อื่น เช่น การกอด จูบ หรือหอมแก้ม ล้างมือบ่อยๆ ใส่หน้ากากอนามัยเพื่อลดการสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ป่วย
อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุข ได้ใช้มาตรการการเฝ้าระวังควบคุมป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 ขั้นสูงสุดอย่างต่อเนื่อง และเฝ้าระวังผู้สัมผัสผู้ป่วยอย่างใกล้ชิดเพื่อความปลอดภัย ดังนั้นผู้ที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ หากมีอาการไข้ เจ็บคอ ไม่สบาย ให้รีบไปพบแพทย์ทันที พร้อมแจ้งประวัติการเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ
สำหรับสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 ทั่วโลก องค์การอนามัยโลกรายงานเมื่อเช้าวันนี้ตามเวลาในประเทศไทยว่า มีรายงานผู้ป่วยทั้งหมด 15,510 ราย ใน 53 ประเทศ เสียชีวิต 99 ราย สำหรับประเทศไทย มีผู้ป่วยยืนยัน 3 ราย และวันนี้มีผู้ป่วยในข่ายเฝ้าระวัง อยู่ระหว่างการสอบสวนโรคและตรวจยืนยันทางห้องปฏิบัติการ 9 ราย
ในขณะที่ นพ.ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า ผู้ป่วยรายนี้กลับเมืองไทยตั้งแต่วันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมา และไม่ค่อยมีอาการป่วยนักเมื่อมาถึงเมืองไทย ไม่มีอาการไข้ จึงผ่านด่านตรวจโรคที่สนามบินเข้ามาได้ กลับมาพักในเมืองไทย 1 คืน ก็ได้เดินทางไปตรวจอาการที่โรงพยาบาลด้วยตนเอง
