นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังเข้าพบ Mr. Michel Sidibe ผู้อำนวยการบริหารโครงการโรคเอดส์แห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอดส์) ที่องค์การสหประชาชาติ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อหารือความร่วมมือมาตรการป้องกันควบคุมปัญหาเอดส์ในกลุ่มเยาวชนไทย โดยแจ้งให้ผู้อำนวยการยูเอ็นเอดส์ทราบว่า ปีนี้รัฐบาลไทยได้แสดงเจตจำนงในการเพิ่มเงินบริจาคให้ยูเอ็นเอดส์จากเดิมปีละ 50,000 เหรียญสหรัฐฯ เป็น 100,000 เหรียญสหรัฐฯ เพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหาเอดส์ให้ประเทศที่มีปัญหา และย้ำว่าแม้ประเทศไทยจะประสบปัญหาจากวิกฤตเศรษฐกิจ มีการปรับลดงบประมาณลงร้อยละ 13 แต่ในเรื่องของการลงทุนทางสุขภาพนั้น ได้เพิ่มงบให้จากเดิมร้อยละ 9.3 ซึ่งรวมทั้งการจัดยาต้านไวรัสเอดส์ให้กับผู้ป่วยผู้ติดเชื้อทุกคน ซึ่งทางยูเอ็นเอดส์ได้กล่าวขอบคุณและชื่นชมที่ประเทศไทยให้การดูแลผู้ป่วยเอดส์ทุกคนเป็นอย่างดี
นายวิทยา กล่าวว่า ในการหารือครั้งนี้ผู้อำนวยการยูเอ็นเอดส์ได้ขอให้ไทยช่วยเหลือประเทศกำลังพัฒนา เช่น แอฟริกา ในการถ่ายทอดเทคโนโลยี ประสบการณ์การดูแลผู้ป่วยผู้ติดเชื้อเอดส์ เนื่องจากประเทศดังกล่าวประสบปัญหามาก และต้องการให้ทุกประเทศได้จัดบริการให้ผู้ป่วย ผู้ติดเชื้อเอดส์ทุกคน ได้เข้าถึงยาต้านไวรัสเอดส์ให้ได้ภายใน พ.ศ. 2553 ซึ่งขณะนี้ประเทศไทยดำเนินการไปแล้วและได้ผลดี ทำให้ผู้ป่วย ผู้ติดเชื้อมีสุขภาพดีขึ้นอย่างชัดเจน การเสียชีวิตลดลงมาก นอกจากนี้ ทางยูเอ็นเอดส์ยังชื่นชมไทยที่เอาจริงเอาจังในเรื่องการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคเอดส์
ด้าน นพ.เรวัติ วิศรุตเวช อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ไทยประสบผลสำเร็จในการแก้ไขปัญหาเอดส์คือ การลดอันตรายจากการใช้ยาเสพติดชนิดฉีดเข้าเส้นในกลุ่มที่ติดเฮโรอีน ซึ่งทำให้ติดเอดส์ได้ร้อยละ 50-60 รองจากการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัย โดยหลังจากไทยได้นำโครงการลดอันตรายจากการใช้ยาเสพติด มาใช้ตั้งแต่ พ.ศ. 2549 โดยเฉพาะการบำบัดด้วยสารเมทาโดนในกลุ่มที่ฉีดเฮโรอีน พบว่าได้ผลดีมาก ทำให้อัตราการติดเชื้อของผู้ใช้ยาเสพติดฉีดเข้าเส้นในผู้ติดเฮโรอีนรายใหม่ ลดจากร้อยละ 56 ในปี 2549 เหลือเพียงร้อยละ 6 ในปี 2551 หรือลดลง 9 เท่า นับเป็นประเทศผู้นำในระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทางยูเอ็นเอดส์และองค์การอนามัยโลกจึงได้เลือกไทย และสนับสนุนให้จัดทำมาตรฐานแนวทางในการจัดบริการสารเมทาโดนทดแทนในกลุ่มที่ฉีดเฮโรอีนเข้าเส้น ซึ่งขณะนี้เสร็จแล้วและได้นำไปใช้ในประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้านที่ประสบปัญหาเช่นเดียวกับไทย
นายวิทยา กล่าวว่า ในการหารือครั้งนี้ผู้อำนวยการยูเอ็นเอดส์ได้ขอให้ไทยช่วยเหลือประเทศกำลังพัฒนา เช่น แอฟริกา ในการถ่ายทอดเทคโนโลยี ประสบการณ์การดูแลผู้ป่วยผู้ติดเชื้อเอดส์ เนื่องจากประเทศดังกล่าวประสบปัญหามาก และต้องการให้ทุกประเทศได้จัดบริการให้ผู้ป่วย ผู้ติดเชื้อเอดส์ทุกคน ได้เข้าถึงยาต้านไวรัสเอดส์ให้ได้ภายใน พ.ศ. 2553 ซึ่งขณะนี้ประเทศไทยดำเนินการไปแล้วและได้ผลดี ทำให้ผู้ป่วย ผู้ติดเชื้อมีสุขภาพดีขึ้นอย่างชัดเจน การเสียชีวิตลดลงมาก นอกจากนี้ ทางยูเอ็นเอดส์ยังชื่นชมไทยที่เอาจริงเอาจังในเรื่องการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคเอดส์
ด้าน นพ.เรวัติ วิศรุตเวช อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ไทยประสบผลสำเร็จในการแก้ไขปัญหาเอดส์คือ การลดอันตรายจากการใช้ยาเสพติดชนิดฉีดเข้าเส้นในกลุ่มที่ติดเฮโรอีน ซึ่งทำให้ติดเอดส์ได้ร้อยละ 50-60 รองจากการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัย โดยหลังจากไทยได้นำโครงการลดอันตรายจากการใช้ยาเสพติด มาใช้ตั้งแต่ พ.ศ. 2549 โดยเฉพาะการบำบัดด้วยสารเมทาโดนในกลุ่มที่ฉีดเฮโรอีน พบว่าได้ผลดีมาก ทำให้อัตราการติดเชื้อของผู้ใช้ยาเสพติดฉีดเข้าเส้นในผู้ติดเฮโรอีนรายใหม่ ลดจากร้อยละ 56 ในปี 2549 เหลือเพียงร้อยละ 6 ในปี 2551 หรือลดลง 9 เท่า นับเป็นประเทศผู้นำในระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทางยูเอ็นเอดส์และองค์การอนามัยโลกจึงได้เลือกไทย และสนับสนุนให้จัดทำมาตรฐานแนวทางในการจัดบริการสารเมทาโดนทดแทนในกลุ่มที่ฉีดเฮโรอีนเข้าเส้น ซึ่งขณะนี้เสร็จแล้วและได้นำไปใช้ในประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้านที่ประสบปัญหาเช่นเดียวกับไทย