xs
xsm
sm
md
lg

“ธีระชน” จี้ข้าราชการ กทม.ยืนยันสิทธิ์จองบ้านยิ้ม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ธีระชน” จี้ ข้าราชการ กทม.เร่งทำงานประสานเคหะยืนยันสิทธิ์จองบ้านยิ้มของ ขรก.กทม.หลัง กคช.เตรียมนำโครงการเข้าร่วมงานมหกรรมบ้านและคอนโด เหตุเลยกำหนดที่ตกลงไว้ ขณะที่วงเงินเหลือเตรียมเปิดกว้างให้ใช้สิทธิ์ซื้อบ้านได้ทุกทำเลวงเงิน 1.5 ล้านบาท

วันนี้ (21 พ.ค.) ที่ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในการประชุมหัวหน้าหน่วยงานประจำเดือนพฤษภาคม นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าฯ กทม.กล่าวถึงการดำเนินโครงการบ้านยิ้ม ตามนโยบายเพื่อช่วยเหลือข้าราชการ ลูกจ้าง กทม.ที่มีรายได้ไม่เกินเดือนละ 13,500 บาท หลังจากที่คณะกรรมการกรรมการบริหารที่อยู่อาศัย กทม.ได้สรุปยอดผู้มีสิทธิ์จองบ้านว่า มีทั้งหมด 1,900 ราย ว่า ตนขอให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแจ้งไปยังการเคหะแห่งชาติ (กคช.) และธนาคารที่เข้าร่วมโครงการ ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารออมสิน และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ถึงยอดของผู้ที่ประสงค์จะเข้าร่วมโครงการโดยเร็วที่สุด เพราะตนได้รับการแจ้งข่าวจากการเคหะแห่งชาติ ว่า กทม.ไม่ได้ยืนยันการจองบ้านเอื้ออาทรที่เข้าร่วมโครงการ ตามที่ได้หารือกันไว้ คือ ภายในวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้การเคหะเตรียมบ้านเอื้ออาทร จำนวน 10,000 ยูนิตที่เข้าร่วมโครงการกับ กทม.ไปร่วมงานมหกรรมบ้านและคอนโดที่ใกล้จะมาถึงนี้ ซึ่งเท่ากับว่าการดำเนินงานโครงการดังกล่าวเพื่อช่วยเหลือข้าราชการ ลูกจ้างที่มีเงินเดือนไม่เกิน 13,500 บาท นั้น ต้องสูญเปล่า ทั้งนี้ ในส่วนที่มีผู้สนใจจองบ้านเอื้ออาทรในโครงการบ้านยิ้มไม่เป็นไปตามเป้าหมายและทำให้มีสินเชื่อเหลือมากกว่า 5,000 ล้านบาทนั้น ให้นำกลุ่มของผู้ที่ต้องการรีไฟแนนซ์บ้านจำนวน 4,300 ราย, ข้าราชการที่รอกองการเจ้าหน้าที่พิจารณาด้านอสังหาริมทรัพย์จำนวน 2,300 ราย เข้าร่วมโครงการดังกล่าวโดยด่วน เพื่อเป็นการสร้างความเป็นอยู่ที่ทัดเทียมให้กับข้าราชการ ลูกจ้าง กทม.

ขณะที่นายครรชิต ทรรศนะวิเทศ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาที่อยู่อาศัย กทม.กล่าวว่า ทางสำนักเตรียมที่จะส่งรายชื่อข้าราชการ ลูกจ้างกทม.ที่มีสิทธิ์ได้จองบ้านเอื้ออาทรไปยังหน่วยงานที่สังกัด และธนาคารที่เข้าร่วมโครงการ สำหรับโครงการบ้านยิ้ม เฟส 2 นั้น ทางคณะกรรมการบริหารที่อยู่อาศัย เกรงว่า จะไม่ได้รับความนิยมอย่างโครงการบ้านยิ้มเฟสแรก จึงได้หารือแนวทางดำเนินการคือ ให้สิทธิแก่ผู้มีเงินเดือนไม่เกิน 13,500 บาทต่อเดือน กู้ซื้อบ้านในโครงการทำเลใดก็ได้วงเงินไม่เกิน 450,000 บาท ให้ผู้ที่เช่าซื้อบ้านเอื้ออาทรอยู่แล้วมีสิทธิทำสัญญากู้ใหม่ แต่ไม่เกินวงเงินที่ค้างอยู่ ให้สิทธิผู้รอการใช้บริการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเดิมให้ได้สิทธิกู้ได้ไม่เกิน 1.5 ล้านบาท และหากวงเงินเหลือควรเปิดโอกาสให้ข้าราชการนอกเหนือจากที่กล่าวมาที่ประสงค์ขอกู้เงินเพื่อที่อยู่อาศัยภายในวงเงิน 1.5 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะมีคนที่สนใจเข้าร่วมโครงการเป็นจำนวนมาก
กำลังโหลดความคิดเห็น