กทม.เปิดโอกาสให้มนุษย์เงินเดือน 7 พันบาทขึ้นไปยื่นรีไฟแนนซ์หนี้บัตรเครดิต-นอกระบบวงเงิน 1 แสนบาท 30 พ.ค. ที่ศูนย์เยาวชนไทย-ญี่ปุ่น คาดมีคนร่วมงานนับแสน โดยคิดอัตราดอกเบี้ยสุดพิเศษไม่เกิน 1% ต่อเดือน ผ่อนสูงสุด 5 ปี ติดใจเดินหน้าจัดมหกรรมขายสินค้าราคาถูกเอาใจคนกรุงต่อเนื่อง หลังยอดจัด 3 ครั้ง คนเมืองแห่ซื้อของราคาประหยัดยอดใช้จ่ายกว่า 60 ล้านบาท
นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะผู้บริหาร กทม.เกี่ยวกับสรุปยอดโครงการยิ้มสู้กู้สร้างอาชีพ ว่า นับแต่ที่ กทม.เปิดให้ประชาชนที่สนใจเข้าร่วมโครงการฯ ลงทะเบียนแสดงความประสงค์ที่จะยื่นกู้ตั้งแต่วันที่ 12-18 พ.ค.ปรากฏว่ามีผู้มายื่นขอกู้จำนวน 10,825 ราย วงเงิน 574,966,494 ล้านบาท โดยเขตที่ขอวงเงินกู้มากสุด 5 อันดับแรกได้แก่ เขตหนองจอก จำนวน 801 ราย วงเงินรวม 52,482,000 ลานบาท เขตดอนเมือง จำนวน 470 ราย วงเงินรวม 29,350,000 ล้านบาท เขตคลองเตยจำนวน 395 ราย วงเงิน 22,885,000 ล้านบาท เขตสายไหม จำนวน 383 ราย วงเงิน 22,807,000 ล้านบาท และเขตดุสิตจำนวน 375 รายวงเงิน 22,745,000 ล้านบาท ซึ่งผู้ที่ยื่นแสดงความประสงค์ไว้แล้วให้นำเอกสารประกอบการขอสินเชื่อมายื่นให้กับธนาคารเพื่อรับบัตรอนุมัติเร็ว (Fast Track) ให้ธนาคารพิจารณาใน 2 สัปดาห์ ภายในงานมหกรรมยิ้มสู้...กู้สร้างอาชีพ ณ อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) ตั้งแต่เวลา 09.00-20.00 น. ในวันที่ 30 พ.ค.นี้
รวมถึงผู้ที่ไม่ได้ลงทะเบียนที่เขตก็สามารถมาขอสินเชื่อได้ที่งานเช่นกันเพียงแค่เตรียมเอกสารมาให้ครบนำมาลงทะเบียนตรวจสอบสิทธิ์ที่หน้างานได้ และในวันดังกล่าวจะมีการอนุมติสินเชื่อเป็นกรณีพิเศษให้กับผู้ลงทะเบียนกู้จำนวน 100 รายโดยไม่ต้องรอการอนุมัติอีกด้วย
นายธีระชน กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ในวันดังกล่าวจะเปิดโอกาสให้ประชาชนที่มีรายได้ประจำไม่น้อยกว่า 7,000 บาทที่เป็นหนี้นอกระบบ หรือหนี้บัตรเครดิตสามารถยื่นเอกสารประกอบด้วยหลักฐานเอกสารการรับรองเงินเดือน การรับรองการทำงาน 1 ปีขึ้นไป สามารถขอรีไฟแนนซ์ได้วงเงินเงินไม่เกิน 100,000 บาท โดยวงเงิน 50,000 บาทจะต้องมีผู้ค้ำประกัน 2 คน วงเงิน 100,000 บาทต้องมีผู้ค้ำประกัน 3 คน มีระยะเวลาให้ผ่อนชำระสูงสุดไม่เกิน 5 ปี หรือ 60 งวด ในอัตราดอกเบี้ยพิเศษโดยของธนาคารออมสินคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.75 ต่อเดือน และถ้าหากมีการส่งเงินค่างวดอย่างสม่ำเสมอ 6 เดือนขึ้นไปทางธนาคารจะปรับลดดอกเบี้ยให้เหลือร้อยละ 0.5 ต่อเดือน
ขณะที่ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย คิดค่าตอบแทนร้อยละ 1 ต่อเดือน ทั้งนี้ ในระยะยาวจะดำเนินการให้ดอกเบี้ยถูกลงเท่ากับการการรีไฟแนนซ์หนี้บัตรเครดิตให้กับข้าราชการ กทม.ที่คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 7.25 ต่อปี แต่จะต้องมีเงื่อนไขว่าบริษัท ห้างร้านจะต้องตัดบัญชีให้ อย่างไรก็ตาม ในเดือนหน้านี้ กทม.จะดำเนินโครงการแก้หนี้ให้กับข้าราชการ กทม.และในอนาคตจะมีการขยายผลไปยังต่างจังหวัดด้วย ทั้งนี้ ตนคาดว่าจะมีประชาชนมาเข้าโครงการแก้หนี้นับแสนคนโดยโครงการดังกล่าวไม่ได้ใช้งบประมาณของ กทม.แต่เป็นความร่วมมือจากธนาคารทั้ง 2 แห่ง
นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะผู้บริหาร กทม.เกี่ยวกับสรุปยอดโครงการยิ้มสู้กู้สร้างอาชีพ ว่า นับแต่ที่ กทม.เปิดให้ประชาชนที่สนใจเข้าร่วมโครงการฯ ลงทะเบียนแสดงความประสงค์ที่จะยื่นกู้ตั้งแต่วันที่ 12-18 พ.ค.ปรากฏว่ามีผู้มายื่นขอกู้จำนวน 10,825 ราย วงเงิน 574,966,494 ล้านบาท โดยเขตที่ขอวงเงินกู้มากสุด 5 อันดับแรกได้แก่ เขตหนองจอก จำนวน 801 ราย วงเงินรวม 52,482,000 ลานบาท เขตดอนเมือง จำนวน 470 ราย วงเงินรวม 29,350,000 ล้านบาท เขตคลองเตยจำนวน 395 ราย วงเงิน 22,885,000 ล้านบาท เขตสายไหม จำนวน 383 ราย วงเงิน 22,807,000 ล้านบาท และเขตดุสิตจำนวน 375 รายวงเงิน 22,745,000 ล้านบาท ซึ่งผู้ที่ยื่นแสดงความประสงค์ไว้แล้วให้นำเอกสารประกอบการขอสินเชื่อมายื่นให้กับธนาคารเพื่อรับบัตรอนุมัติเร็ว (Fast Track) ให้ธนาคารพิจารณาใน 2 สัปดาห์ ภายในงานมหกรรมยิ้มสู้...กู้สร้างอาชีพ ณ อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) ตั้งแต่เวลา 09.00-20.00 น. ในวันที่ 30 พ.ค.นี้
รวมถึงผู้ที่ไม่ได้ลงทะเบียนที่เขตก็สามารถมาขอสินเชื่อได้ที่งานเช่นกันเพียงแค่เตรียมเอกสารมาให้ครบนำมาลงทะเบียนตรวจสอบสิทธิ์ที่หน้างานได้ และในวันดังกล่าวจะมีการอนุมติสินเชื่อเป็นกรณีพิเศษให้กับผู้ลงทะเบียนกู้จำนวน 100 รายโดยไม่ต้องรอการอนุมัติอีกด้วย
นายธีระชน กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ในวันดังกล่าวจะเปิดโอกาสให้ประชาชนที่มีรายได้ประจำไม่น้อยกว่า 7,000 บาทที่เป็นหนี้นอกระบบ หรือหนี้บัตรเครดิตสามารถยื่นเอกสารประกอบด้วยหลักฐานเอกสารการรับรองเงินเดือน การรับรองการทำงาน 1 ปีขึ้นไป สามารถขอรีไฟแนนซ์ได้วงเงินเงินไม่เกิน 100,000 บาท โดยวงเงิน 50,000 บาทจะต้องมีผู้ค้ำประกัน 2 คน วงเงิน 100,000 บาทต้องมีผู้ค้ำประกัน 3 คน มีระยะเวลาให้ผ่อนชำระสูงสุดไม่เกิน 5 ปี หรือ 60 งวด ในอัตราดอกเบี้ยพิเศษโดยของธนาคารออมสินคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.75 ต่อเดือน และถ้าหากมีการส่งเงินค่างวดอย่างสม่ำเสมอ 6 เดือนขึ้นไปทางธนาคารจะปรับลดดอกเบี้ยให้เหลือร้อยละ 0.5 ต่อเดือน
ขณะที่ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย คิดค่าตอบแทนร้อยละ 1 ต่อเดือน ทั้งนี้ ในระยะยาวจะดำเนินการให้ดอกเบี้ยถูกลงเท่ากับการการรีไฟแนนซ์หนี้บัตรเครดิตให้กับข้าราชการ กทม.ที่คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 7.25 ต่อปี แต่จะต้องมีเงื่อนไขว่าบริษัท ห้างร้านจะต้องตัดบัญชีให้ อย่างไรก็ตาม ในเดือนหน้านี้ กทม.จะดำเนินโครงการแก้หนี้ให้กับข้าราชการ กทม.และในอนาคตจะมีการขยายผลไปยังต่างจังหวัดด้วย ทั้งนี้ ตนคาดว่าจะมีประชาชนมาเข้าโครงการแก้หนี้นับแสนคนโดยโครงการดังกล่าวไม่ได้ใช้งบประมาณของ กทม.แต่เป็นความร่วมมือจากธนาคารทั้ง 2 แห่ง