xs
xsm
sm
md
lg

“คุณชาย” เล็งของบการศึกษาเพิ่ม หลังเด็ก ตจว.ทะลักเรียนโรงเรียน กทม.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพประกอบจากอินเทอร์เนต
“สุขุมพันธุ์” ห่วงงบไม่เพียงพอหลังเด็กต่างจังหวัดทะลักเข้าเรียนโรงเรียนของ กทม.สั่งสำรวจทะเบียนบ้านนักเรียน-ผู้ปกครองโรงเรียน กทม. เสนอรัฐบาลของบอุดหนุนด้านการศึกษา หลัง “ทยา” รับมีเด็ก 1.6% อ่านหนังสือไม่ออก เร่งแก้ให้เรียนพิเศษหลังเลิกเรียน

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวภายหลังเป็นประธานมอบนโยบายด้านการศึกษาไปยังโรงเรียนสังกัด กทม.ทั้ง 435 แห่ง ผ่านระบบออนไลน์บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ว่า
เมื่อเร็วๆ นี้ ตนได้สั่งให้สำนักการศึกษาสำรวจประวัติของนักเรียนและผู้ปกครองของนักเรียนในโรงเรียนสังกัด กทม.ว่า เป็นคนที่มีทะเบียนบ้านอยู่ในพื้นที่ กทม.หรืออยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัด เพื่อนำข้อมูลที่ได้เสนอต่อรัฐบาลและของบประมาณเพื่ออุดหนุนงานด้านการศึกษาในโรงเรียนสังกัด กทม.ต่อไป

เนื่องจากที่ผ่านมาพบว่ามีเด็กต่างจังหวัดเข้ามาเรียนในโรงเรียนสังกัด กทม.เป็นจำนวนมาก ซึ่งเท่ากับว่าหน่วยงานด้านการศึกษาของ กทม.ต้องรับภาระเด็กนักเรียนทั้งประเทศที่ไม่มีที่เรียน ซึ่งในปีงบประมาณหน้าทางรัฐบาลมีมติให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสนับสนุนงบประมาณด้านการศึกษาเอง ทำให้ตนกังวลว่างบประมาณของ กทม.อาจจะไม่เพียงพอ ซึ่งการสำรวจประวัติดังกล่าวนั้นได้เร่งให้สำรวจและรายงานให้ตนทราบภายในสิ้นเดือนนี้ จากนั้นผู้บริหารที่เกี่ยวข้องจะพิจารณาและนำเสนอต่อรัฐบาลต่อไป

ขณะที่นางทยา ทีปสุวรรณ รองผู้ว่าฯกทม. กล่าวถึงกรณีที่โรงเรียนในสังกัด กทม.ขาดแคลนครูสอนวิชาภาอังกฤษ ทำให้ต้องแก้ปัญหาด้วยการนำครูที่สอนในกลุ่มวิชาอื่นมาสอนแทนซึ่งอาจทำให้เด็กๆไม่ได้รับความรู้อย่างเต็มที่ ว่า

ตนได้สั่งการให้ผู้อำนวยการโรงเรียนทุกแห่งสำรวจจำนวนครู ว่า มีความต้องการครูเพิ่มเติมให้ตรงกับกลุ่มสาระวิชาจำนวนเท่าไหร่เพื่อส่งต่อให้สำนักการศึกษาพิจารณาในการเปิดรับจำนวนครูเพิ่มเติม แต่หากมีจำนวนครูไม่เพียงพอจริงๆอาจจะนำเรื่องศึกษาผ่านดาวเทียมมาใช้ในการเรียนการสอนเพิ่มเติม

ส่วนกรณีที่พบว่านักเรียนสังกัด กทม.อ่านหนังสือไม่ออกนั้น ส่วนหนึ่งแล้วเป็นนักเรียนต่างจังหวัดที่ย้ายเข้ามาเรียนในโรงเรียนของกทม. ซึ่งอาจจะไม่ได้รับการศึกษาอย่างต่อเนื่อง หรือเป็นเด็กเร่ร่อน เป็นเด็กต่างด้าว เพราะการที่เด็กมาสมัครเรียนนั้น โรงเรียนสังกัด กทม.ไม่สามารถที่จะปฏิเสธนักเรียนดังกล่าวได้ ซึ่งจากการสำรวจแล้วพบว่ามีมากถึงร้อยละ 1.6 ซึ่งตนให้แก้ไขปัญหาดังกล่าวด้วยการสอนพิเศษเพิ่มเติมหลังเลิกเรียน
กำลังโหลดความคิดเห็น