“สุขุมพันธุ์” เล็งบินไปอเมริกาเจรจา บ.เจเนอรัล ไดนามิกส์ หาทางออกรถดับเพลิง ก่อนสินค้าแปรสภาพเป็นเศษเหล็ก รักษาผลประโยชน์ให้ กทม.-ผู้บริหารเมืองกรุงต้องไม่ติดคุก
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาโครงการจัดซื้อรถเรือ และอุปกรณ์ดับเพลิง กทม.มูลค่า 6,687 ล้านบาท ว่า หลังจากที่ตนได้เจรจากับ ฯพณฯ อาร์โน เรเดล ( Arno Riedel) เอกอัครราชทูตออสเตรียประจำประเทศไทย เกี่ยวกับปัญหาในเรื่องดังกล่าวและท่านก็มองว่าการจัดซื้อโครงการนี้ไม่ได้เป็นการซื้อขายระหว่างรัฐต่อรัฐ (G to G) ซึ่งหมายความว่าไม่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลออสเตรีย รวมถึงท่านทูตยังได้หารือกับปลัดกระทรวงการต่างประเทศของไทยถึงเรื่องดังกล่าวแล้วก็ไม่เป็นไร แต่ตนในฐานะผู้ว่าฯ กทม.ก็กำลังศึกษาแนวทางอื่นอยู่เพื่อที่จะรักษาผลประโยชน์พี่น้องประชาชนชาว กทม. และผู้บริหาร กทม.จะต้องไม่ติดคุกจากเหตุการณ์ดังกล่าว
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ อยู่ระหว่างการจัดเตรียมข้อมูลให้พร้อมก่อนที่จะมีการเจรจาอีกครั้งก่อนการจ่ายค่างวดรถดับเพลิงงวดที่ 6 ในเดือนสิงหาคมนี้ อย่างไรก็ตาม แม้ทางท่านทูตออสเตรียจะระบุชัดเจนว่าไม่ใช่เป็นการซื้อขายระหว่างรัฐต่อรัฐ ทาง กทม.ก็จะไม่เจรจาในเรื่องนี้ ส่วนจะมีการฟ้องยกเลิกสัญญาหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่ที่การเจรจา ทั้งนี้ตนอยากให้การฟ้องร้องเป็นทางเลือกสุดท้ายเพราะไม่มีใครอยากเป็นคดีความและการฟ้องร้องใช้เวลานานมากซึ่งกว่ามีคำวินิจฉัยออกมารถดับเพลิงที่ กทม.จ่ายค่างวดไปแล้วก็จะกลายเป็นเศษเหล็กเพราะฉะนั้นต้องเจรจาให้รู้เรื่องแต่หากไม่รู้เรื่องก็ต้องฟ้อง
นอกจากนี้ ตนยังได้หารือกับเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ถึงการหาทางออกในเรื่องดังกล่าวด้วยเช่นกัน เนื่องจากบริษัทเจเนอรัล ไดนามิกส์ ของสหรัฐอเมริกา เป็นบริษัทแม่ของบริษัท สไตเออร์ เดมเลอร์ พุค สเปเชียล ฟาห์รซอยก์ ประเทศออสเตรียเพื่อขอความร่วมมือซึ่งหากจำเป็นตนก็จะเดินทางไปเจรจากับบริษัท เจเนอรัลฯ ด้วยตนเองที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ไม่เช่นนั้นอาจถือว่าละเว้นการปฏบัติหน้าที่ ส่วนประเด็นที่จะหารือขอพิจารณาอีกครั้งแต่โดยหลักการกทม.จะต้องไม่เสียเปรียบจากงานนี้ เพราะสัญญาทำให้ กทม.เสียเปรียบแล้วดังนั้นตนจะยอมให้พี่น้องชาวกทม.เสียเปรียบซ้ำไม่ได้ข้อยุติที่ได้จากการเจรจาจะต้องเป็นธรรม
ต่อข้อถามที่ว่า สำหรับเงินค่างวดรถดับเพลิงที่จ่ายไปแล้ว 5 งวดแต่รัฐบาลยังไม่ได้จ่ายงบอุดหนุนให้ กทม.ตามที่ตกลงกันไว้ 60:40 นั้น ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า ก็ต้องขอไปทางรัฐบาล แต่ต้องเป็นไปตามระเบียบราชการคือกระทรวงการคลังจะเบิกจ่ายงบอุดหนุนให้ได้ก็ต่อเมื่อ กทม.ได้รับมอบของแล้ว แต่เรื่องนี้ก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยยังมีเวลามากกว่าครั้งที่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามด้วยว่า ช่วงเช้าที่นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.3 ) เดินทางมาที่ศาลาว่าการ กทม.นั้นได้มีการหารือรถดับเพลิงหรือไม่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า ท่านให้กำลังใจ และท่านบอกว่ากำลังหาลู่ทางอยู่ ไม่มีปัญหา เตรียมการอยู่ ส่วนที่ท่านเห็นว่า กทม.ควรที่จะตรวจรับรถดับเพลิงมาใช้นั้นในขั้นตอนสุดท้าย กทม.จะต้องเป็นผู้ตัดสินใจเพราะว่าความรับผิดชอบทางกฎหมายอยู่ที่ กทม. ดังนั้น ตนต้องเป็นผู้ตัดสินใจ
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาโครงการจัดซื้อรถเรือ และอุปกรณ์ดับเพลิง กทม.มูลค่า 6,687 ล้านบาท ว่า หลังจากที่ตนได้เจรจากับ ฯพณฯ อาร์โน เรเดล ( Arno Riedel) เอกอัครราชทูตออสเตรียประจำประเทศไทย เกี่ยวกับปัญหาในเรื่องดังกล่าวและท่านก็มองว่าการจัดซื้อโครงการนี้ไม่ได้เป็นการซื้อขายระหว่างรัฐต่อรัฐ (G to G) ซึ่งหมายความว่าไม่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลออสเตรีย รวมถึงท่านทูตยังได้หารือกับปลัดกระทรวงการต่างประเทศของไทยถึงเรื่องดังกล่าวแล้วก็ไม่เป็นไร แต่ตนในฐานะผู้ว่าฯ กทม.ก็กำลังศึกษาแนวทางอื่นอยู่เพื่อที่จะรักษาผลประโยชน์พี่น้องประชาชนชาว กทม. และผู้บริหาร กทม.จะต้องไม่ติดคุกจากเหตุการณ์ดังกล่าว
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ อยู่ระหว่างการจัดเตรียมข้อมูลให้พร้อมก่อนที่จะมีการเจรจาอีกครั้งก่อนการจ่ายค่างวดรถดับเพลิงงวดที่ 6 ในเดือนสิงหาคมนี้ อย่างไรก็ตาม แม้ทางท่านทูตออสเตรียจะระบุชัดเจนว่าไม่ใช่เป็นการซื้อขายระหว่างรัฐต่อรัฐ ทาง กทม.ก็จะไม่เจรจาในเรื่องนี้ ส่วนจะมีการฟ้องยกเลิกสัญญาหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่ที่การเจรจา ทั้งนี้ตนอยากให้การฟ้องร้องเป็นทางเลือกสุดท้ายเพราะไม่มีใครอยากเป็นคดีความและการฟ้องร้องใช้เวลานานมากซึ่งกว่ามีคำวินิจฉัยออกมารถดับเพลิงที่ กทม.จ่ายค่างวดไปแล้วก็จะกลายเป็นเศษเหล็กเพราะฉะนั้นต้องเจรจาให้รู้เรื่องแต่หากไม่รู้เรื่องก็ต้องฟ้อง
นอกจากนี้ ตนยังได้หารือกับเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ถึงการหาทางออกในเรื่องดังกล่าวด้วยเช่นกัน เนื่องจากบริษัทเจเนอรัล ไดนามิกส์ ของสหรัฐอเมริกา เป็นบริษัทแม่ของบริษัท สไตเออร์ เดมเลอร์ พุค สเปเชียล ฟาห์รซอยก์ ประเทศออสเตรียเพื่อขอความร่วมมือซึ่งหากจำเป็นตนก็จะเดินทางไปเจรจากับบริษัท เจเนอรัลฯ ด้วยตนเองที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ไม่เช่นนั้นอาจถือว่าละเว้นการปฏบัติหน้าที่ ส่วนประเด็นที่จะหารือขอพิจารณาอีกครั้งแต่โดยหลักการกทม.จะต้องไม่เสียเปรียบจากงานนี้ เพราะสัญญาทำให้ กทม.เสียเปรียบแล้วดังนั้นตนจะยอมให้พี่น้องชาวกทม.เสียเปรียบซ้ำไม่ได้ข้อยุติที่ได้จากการเจรจาจะต้องเป็นธรรม
ต่อข้อถามที่ว่า สำหรับเงินค่างวดรถดับเพลิงที่จ่ายไปแล้ว 5 งวดแต่รัฐบาลยังไม่ได้จ่ายงบอุดหนุนให้ กทม.ตามที่ตกลงกันไว้ 60:40 นั้น ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า ก็ต้องขอไปทางรัฐบาล แต่ต้องเป็นไปตามระเบียบราชการคือกระทรวงการคลังจะเบิกจ่ายงบอุดหนุนให้ได้ก็ต่อเมื่อ กทม.ได้รับมอบของแล้ว แต่เรื่องนี้ก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยยังมีเวลามากกว่าครั้งที่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามด้วยว่า ช่วงเช้าที่นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.3 ) เดินทางมาที่ศาลาว่าการ กทม.นั้นได้มีการหารือรถดับเพลิงหรือไม่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า ท่านให้กำลังใจ และท่านบอกว่ากำลังหาลู่ทางอยู่ ไม่มีปัญหา เตรียมการอยู่ ส่วนที่ท่านเห็นว่า กทม.ควรที่จะตรวจรับรถดับเพลิงมาใช้นั้นในขั้นตอนสุดท้าย กทม.จะต้องเป็นผู้ตัดสินใจเพราะว่าความรับผิดชอบทางกฎหมายอยู่ที่ กทม. ดังนั้น ตนต้องเป็นผู้ตัดสินใจ