xs
xsm
sm
md
lg

“อภิสิทธิ์” มั่นใจเรียนฟรี 15 ปี มีคุณภาพทำได้จริง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“อภิสิทธิ์” มั่นใจเรียนฟรี 15 ปี มีคุณภาพ ทำได้จริง เผยตั้งงบเรียนฟรีปี 53 แล้ว มุ่งให้ทุกคนได้โอกาสเรียนเพิ่ม ด้าน “จุรินทร์” เผยประชาชนอยากให้จัดเรียนฟรีถึงปริญญาตรี พร้อมแจง ร.ร.เรียกเก็บเงินเพิ่มได้แต่ต้องผ่านมติของ ร.ร. และ คณะ กก.สถานศึกษา โดยไม่ลิดรอนสิทธิ์คนที่ไม่มีเงินจ่าย ใครมีปัญหาร้องเรียนได้ที่สายด่วน ศธ.1579 ขณะที่ ปลัด ศธ.เผยยอดสั่งตำราสูงถึง 2 พันล้าน




วันที่ 17 พฤษภาคม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานให้โอวาทเรื่องเรียนฟรี 15 ปี อย่างมีคุณภาพ ทำได้จริง ในโอกาสเปิดเทอมที่โรงเรียนหอวัง มีผู้บริหาร ข้าราชการ ผู้แทนนักเรียน ผู้ปกครอง ครู อาจารย์ กว่า 1,000 คนเข้าร่วม

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญเป็นพิเศษ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่า ตน ผู้บริหารฝ่ายการเมือง และฝ่ายประจำ ได้ผลักดันมายาวนาน ซึ่งอยากเรียนว่า การเรียนฟรี ต้องมองย้อนหลังกลับไป 10 ปี รัฐบาลในอดีตต้องการขยายการศึกษาขั้นพื้นฐาน ภาคบังคับมาตลอดจน จนกระทั่งช่วงทำรัฐธรรมนูญปี 2540 ได้มีการเขียนว่า เป็นสิทธิของปวงชนชาวไทย เด็กไทย ต้องได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐานไม่น้อยกว่า 12 ปี ซึ่งรัฐต้องจัดให้อย่างทั่วถึง อย่างมีคุณภาพ และไม่เก็บค่าใช้จ่าย ขณะที่หลายฝ่ายผลักดันเรื่องนี้ และศึกษาภาระค่าใช้จ่าย ว่า ถ้าจะทำให้เป็นจริง จะเป็นเท่าไหร่ การใช้จ่ายที่จะเพิ่มขึ้นในแต่ละปี น่าจะเพิ่มขึ้น 1 หมื่นถึง 3 หมื่นล้านบาท เป็นต้น

เมื่อปี 2540-2544 ประเทศประสบวิกฤต รัฐบาลต้องมีการปรับลดงบประมาณ ซึ่งมีคนไปเทียบเคียงว่าประเทศของเราอยู่ในขั้นล้มละลาย ตนจำได้ชัดว่าช่วงนั้น นายชวน หลีกภัย เป็นนายกฯ ตนทำงานด้านเศรษฐกิจและศึกษา ผลกระทบที่ชัดเจนเรื่องเศรษฐกิจต้องไม่ให้กระทบการศึกษาของลูกหลานของเรา สุดท้ายรัฐบาล จัดหาเงินมาก้อนหนึ่งเพื่อให้เด็กที่มีรายได้น้อย เพื่อสนับสนุนผู้ปกครองลดปัญหาเด็กออกจากโรงเรียน และทุกครั้งที่เกิดปัญหาเศรษฐกิจ จะต้องมีการปรับลด แต่ผมให้ความสำคัญด้านการศึกษา พัฒนาคนเป็นสำคัญ ซึ่งไม่เห็นผลวันนี้ พรุ่งนี้ แต่จะเห็นผลอีก 3-4 ปีข้างหน้า

“พรรคการเมืองให้ความสนใจเรื่องการศึกษา จำเป็นต้องมีนโยบายเกี่ยวกับการศึกษา ซึ่งบางพรรคชูนโยบายให้เรียนฟรี จนถึงปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก ซึ่งข้อเท็จจริงขณะนี้ยังทำได้ไม่ได้ถึงขั้นนั้น แต่ในอนาคตคงทำได้”

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนเข้ามาบริหารประเทศ นับว่าโชคไม่ได้ เกิดวิกฤศเศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจประเทศ แต่รัฐบาลได้ปรึกษาหารือกันว่าแม้ว่าในภาวะเศรษฐกิจมีปัญหา ต้องใช้จ่ายการศึกษาอย่างคุ้มค่า ลดค่าใช้จ่ายผู้ปกครอง และให้ผู้ปกครองฝันฝ่าอุปสรรควิกฤตครั้งนี้ได้ และในปีการศึกษา 2553 รัฐบาลตั้งงบประมาณสานต่อโครงการเรียนฟรีไว้เรียบร้อยแล้ว

นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า การนำเรื่องนี้เป็นนโยบายเร่งด่วนทำให้ให้ทุกคนได้รับโอกาสเรียนฟรี 15 ปีอย่างมีคุณภาพ เพิ่มโอกาสการเรียนรู้ของเยาวชน โดยโรงเรียนสังกัดรัฐบาลจะได้รับอุดหนุนค่าเล่าเรียน 100 เปอร์เซ็นต์ โรงเรียนเอกชนได้ 70 เปอร์เซ็นต์ ส่วนเด็กที่สละสิทธิ์ก็จะนำเงินดังกล่าวไปพัฒนาโรงเรียนยากจนและด้อยโอกาสซึ่งมีอยู่เกือบ 600 โรงเรียนทั่วประเทศ นโยบายนี้มุ่งจะเพิ่มโอกาสการเรียนรู้พัฒนาคุณภาพเยาวชน

ด้านนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลได้ประกาศนโยบายด้านสังคมและคุณภาพชีวิตที่ระบุว่าให้ทุกคนมีโอกาสได้รับการศึกษาฟรี 15 ปี ตั้งแต่ระดับอนุบาลถึงมัธยมศึกษาตอนปลายทั้สายสามัญและสายอาชีพ พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการให้เกิดความเสมอภาคและความเป็นธรรมในโอกาสทางการศึกษาแก่ประชาชนในกลุ่มผู้ด้อยโอกาส ทั้งผู้ยากไร้ ผู้พิการ หรือทุพพลภาพ นั้น ในการดำเนินการดังกล่าว รัฐบาลได้จัดงบประมาณค่าเล่าเรียน หนังสือเรียน อุปกรณ์การเรียน เครื่องแบบนักเรียนและกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนให้กับผู้เรียนทุกคน ตั้งแต่ระดับอนุบาล 1-3 จนถึงระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ โดยจัดให้สถานศึกษาในสังกัด ศธ.กระทรวงมหาดไทย กระทรวงวัฒนธรรม สำนักนายกรัฐมนตรี ทั้งใน ร.ร.รัฐบาลและเอกชน ทั้งนี้ ปีงบประมาณ 2552 ศธ.ได้รับงบประมาณโครงการเรียนฟรี 15 ปี อย่างมีคุณภาพ จำนวน 18,258 ล้านบาท

ทั้งนี้ ตั้งแต่เดือนมีนาคม จนถึง 15 พ.ค.นี้ สถานศึกษา ร้อยละ 99.78 ได้จ่ายเงินให้นักเรียน นักศึกษา และผู้ปกครอง เรียบร้อยแล้ว สถานศึกษา ร้อยละ 98.99 ได้จัดซื้อหนังสือเรียนและส่งมอบช่วงเปิดภาคเรียน ทั้งหมดนี้จะเห็นว่า นโยบายเรียนฟรี 15 ปีอย่างมีคุณภาพ ทำได้จริง พร้อมกันนี้ ศธ.มีนโยบายที่นักเรียนมีความพร้อม รวมกันสละสิทธิ์ ค่าชุดนักเรียน อุปกรณ์การเรียน ขณะนี้มียอดสละสิทธิ์ 40 ล้านบาท ซึ่งจะมอบให้โรงเรียนห่างไกลที่มีคุณภาพต้องปรับปรุง จำนวน 591 โรงต่อไป อย่างไรก็ดี ผลการสำรวจจากหลายสถาบัน ผู้ปกครองมีความพึ่งพอใจตามโครงการเรียนฟรี สูงถึงร้อยละ 85 และช่วยให้นักเรียนกระตือรือร้นมาเรียนมากขึ้น นอกจากนี้ ประชาชนอยากให้ทุกรัฐบาลจัดให้มี โครงการเรียนฟรี 15 ปี อย่างมีคุณภาพตลอดไป สูงถึง 95.92

“โครงการเรียนฟรี 15 ปีของรัฐบาล ใช่ว่าจะเป็นแค่โครงการเรีนฟรีที่มุ่งเน้นการลดภาระ นร.ผู้ปกครอง ในเรื่องค่าเล่าเรียน ชุดนักเรียน ตำราเรียน อุปกรณ์การเรียน และกิจกรรมผู้เรียน แต่ยังมุ่งเน้นในเรื่องพัฒนาคุณภาพด้วย” นายจุรินทร์กล่าว

นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า ศธ.เตรียมแผนพัฒนาคุณภาพไว้อย่างเป็นระบบในทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาขั้นพื้นฐาน อาชีวะ อุดมศึกษา หรือแม้แต่การศึกษานอกระบบและตามอัธยาศัย ทั้งการศึกษาภาครัฐและเอกชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งงบประมาณ ศธ.ได้รับ 136,000 ล้านบาท ซึ่ง ศธ.มุ่งเน้นเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา 10 โครงการ

นายจุรินทร์ กล่าวว่า สำหรับปัญหาการดำเนินโครงการเรียนฟรี 15 ปีนั้น ต้องยอมรับว่า ที่ผ่านมาในทางปฏิบัติย่อมมีปัญหามาก เนื่องจากเป็นปีแรก แต่ขณะนี้ ศธ.และโรงเรียนมีความพร้อมเกือบ 100% เชื่อว่า เด็กทุกคนจะมีหนังสือเรียน และอุปกรณ์การเรียนใช้ในวันเปิดภาคเรียนอย่างแน่นอน รวมทั้งในวันที่ 18 พฤษภาคมนี้ ซึ่งเป็นวันเปิดเทอมวันแรกคิดว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร ส่วนกรณีที่บางโรงเรียนเรียกเก็บเงินค่าบำรุงการศึกษาจากนักเรียนคนละ 1,000 บาทนั้น สามารถทำได้ แต่จะต้องไม่ซ้ำซ้อนกับ 5 รายการที่ ศธ.จัดให้ และหากผู้ปกครองหรือนักเรียนคนใด พบว่ามีการเก็บค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมซ้ำซ้อนกับ 5 รายการดังกล่าวสามารถร้องเรียนมายังสายด่วน ศธ.โทร.1579 หรือทำหนังสือร้องเรียนมาถึงตนโดยตรงได้

นายชินภัทร ภูมิรัตน ปลัดประทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ตำราเรียนขององค์การค้าได้ส่งถึงโรงเรียนเมื่อวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมาเรียบร้อยแล้ว แต่มีโรงเรียนจากองค์การบริหารส่วนตำบล และเทศบาล จำนวนหนึ่ง เพิ่งสั่งซื้อเข้ามาเมื่อสัปดาที่ผ่านมา จึงเร่งเพิ่มหนังสื่อที่สั่ง แต่คาดว่าจะส่งให้ครบภายในสิ้นเดือนพฤษภาคมนี้ อย่างไรก็ตาม ปีนี้องค์การค้าฯมียอดสั่งซื้อตำราเข้ามาสูงถึง 2 พันล้านบาท ปีที่แล้วมียอดสั่งเพียง 1.3 พันล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากให้โอวาทแล้ว นายอภิสิทธิ์ ใช้ปากกาเลเซอร์ เขียนข้อความ “เรียนฟรี 15 ปีอย่างมีคุณภาพทำได้จริง” พร้อมกับเซ็นชื่อกำกับ ฉายขึ้นบนจอโปรเจกเตอร์ให้ผู้เข้าร่วมงานได้เห็นกันถ้วนหน้า รวมทั้งมีการถ่ายทอดสดผ่านทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยด้วย จากนั้นผู้แทนผู้บริหาร นักเรียนและผู้ปกครองจากภูมิภาคต่างๆ มอบบัตรขอบคุณและกล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรี










กำลังโหลดความคิดเห็น