“คุณหญิงกษมา” รับคะแนนโอเน็ตเด็กต่ำ เกิดจากเด็กตั้งใจ-ไม่ตั้งใจทำ คุณภาพของโรงเรียนเหลื่อมล้ำ เด็กสอบข้อสอบไม่ถนัด เพราะเรียนแยกสายวิทย์-สายศิลป์ แต่จะขอข้อมูลจาก สทศ. ไปวิเคราะห์และปรับปรุงคุณภาพ แย้มเวิล์ดแบงค์ยื่นมือช่วยวิเคราะห์เป็นกลุ่ม
คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวภายหลังการประชุมผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ว่า ที่ประชุมได้หารือเกี่ยวกับผลคะแนนการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน (โอเน็ต) วิชาหลักต่ำกว่าปีที่ผ่านมาว่า จากข้อมูลผลการประเมินคุณภาพการศึกษาระดับชาติ (NT) เปรียบเทียบย้อนหลัง 3 ปี ระดับชั้น ป.3 วิชาภาษาไทย และคณิตศาสตร์ คะแนนมีแนวโน้มสูงขึ้น ระดับชั้น ป.6 ทั้ง NT และผลโอเน็ตของ สทศ.ปี 2550-2551 พบว่าคะแนนวิชาภาษาไทยเท่าเดิม ส่วนคณิตศาสตร์ลดลง วิทยาศาสตร์และภาษาอังกฤษมีแนวโน้มดีขึ้น ระดับชั้น ม.3 ของ สทศ.ปี 2550-2551 วิชาภาษาไทยคะแนนลดลง วิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์เท่าเดิม ส่วนสังคมศึกษามีแนวโน้มสูงขึ้น ระดับชั้น ม.6 คะแนนโอเน็ต วิชาภาษาไทยคะแนนลดลง คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์เท่าเดิม อังกฤษมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ส่วนสังคมศึกษาลดลง
คุณหญิงกษมากล่าวด้วยว่า จากการวิเคราะห์คะแนนในเบื้องต้น เห็นความตั้งใจและไม่ตั้งใจของเด็ก และยอมรับว่าคุณภาพโรงเรียนของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) มีความเหลื่อมล้ำกันมาก สาเหตุหนึ่งมาจากครูเก่งลาออก จึงเกิดความขาดแคลนครู ขาดแคลนสื่อการเรียนการสอน
พร้อมกันนี้ หลักสูตรการเรียนการสอนในปัจจุบันกำหนดให้เด็กที่เรียนสายวิทย์ และสายศิลป์ ต้องเรียน 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้เหมือนกัน เพียงแต่ความเข้มข้นในแต่ละวิชาต่างกัน ด้วยเหตุนี้เด็กนี้เองส่งผลให้สายศิลป์จะทำคะแนนวิทย์ได้น้อย ขณะเดียวกันเด็กสายวิทย์ ทำคะแนนสายศิลป์ได้น้อย
คุณหญิงกษมา กล่าวว่า สพฐ.จะวิเคราะห์ในรายละเอียดมากยิ่งขึ้น ลดลง คงเท่า เพิ่มขึ้น เพราะสาเหตุใด ซึ่งเวิล์ดแบงค์จะมาช่วยวิเคราะห์ปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ดูตามขนาดโรงเรียน ดูโรงเรียนในส่วนภูมิภาค ในเมือง ดูพื้นฐานความรู้ของแม่ จำนวนหนังสือที่บ้าน ฐานะความยากจน พร้อมกันนี้ สพฐ.จะวิเคราะห์ด้วยว่ากลุ่มโรงเรียนในฝัน สสวท. อย่างไรก็ตามวิเคราะห์เป็นรายโรง เขตพื้นที่ จะทำให้ทราบว่าความพยายามที่จะปรับปรุงการเรียนการสอน ดูว่าอะไรบ้างที่ได้ผล และอะไรที่ยังไม่ได้ผล เราจะได้ปรับปรุงต่อไป แต่สิ่งหนึ่ง ที่ทำให้เรามีกำลังใจขึ้นเล็กน้อย สพฐ.ได้ทำแผนภาษาอังกฤษมา 4-5 ปีก่อน และเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงของครู แม้ว่าคะแนนยังต่ำเตี้ยอยู่ แต่มีแนวโน้วผงกหัวได้ ถ้าเราสามารถลงทุนในวิชาอื่นๆ จะทำให้ผลการเรียนดีขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม จะขอข้อมูลจาก สทศ.เพื่อไปวิเคราะห์แล้วนำไปปรับปรุงต่อไป
นายสมเกียรติ ชอบผล รองเลขาธิการ กพฐ. ในฐานะกรรมการบอร์ด สทศ.ด้วย กล่าวว่า ได้รับข้อมูลเบื้องต้นจากเด็กที่เข้าสอบ ทำให้ทราบว่ามีการใช้มาตรฐานค่อนข้างกว้างในการออกข้อสอบ ขณะที่โรงเรียนแต่ละแห่งใช้กรอบมาตรฐานและเลือกหนังสือเรียนต่างกัน อาจส่งผลให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบ ดังนั้น ข้อสอบต้องแจ้งให้เห็นชัดเจนเรื่องความจำ ความเข้าใจ วิเคราะห์ สังเคราะห์ การใช้ประโยชน์ ซึ่งมีเด็กสะท้อนว่ามีข้อสอบความจำที่เด็กไม่คุ้นเคย อย่างเช่น ถามว่ารูปปั้นหน้าศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เป็นฝีมือของใคร ข้อสอบลักษณะนี้เด็กต่างจังหวัดจะเสียเปรียบเด็กกรุงเทพฯ
นายสมเกียรติ กล่าวอีกว่า ผลการจัดอันดับ 50 โรงเรียนแรกที่มีผลคะแนนสอบโอเน็ต สูงสุดของประเทศเมื่อปีการศึกษา 2549 มีคะแนนเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 46-73% ส่วนใหญ่เป็นโรงเรียนดังในเขตกรุงเทพฯ 25 โรง ที่เหลือเป็นโรงเรียนดังที่กระจายอยู่ตามเมืองใหญ่ๆ
คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวภายหลังการประชุมผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ว่า ที่ประชุมได้หารือเกี่ยวกับผลคะแนนการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน (โอเน็ต) วิชาหลักต่ำกว่าปีที่ผ่านมาว่า จากข้อมูลผลการประเมินคุณภาพการศึกษาระดับชาติ (NT) เปรียบเทียบย้อนหลัง 3 ปี ระดับชั้น ป.3 วิชาภาษาไทย และคณิตศาสตร์ คะแนนมีแนวโน้มสูงขึ้น ระดับชั้น ป.6 ทั้ง NT และผลโอเน็ตของ สทศ.ปี 2550-2551 พบว่าคะแนนวิชาภาษาไทยเท่าเดิม ส่วนคณิตศาสตร์ลดลง วิทยาศาสตร์และภาษาอังกฤษมีแนวโน้มดีขึ้น ระดับชั้น ม.3 ของ สทศ.ปี 2550-2551 วิชาภาษาไทยคะแนนลดลง วิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์เท่าเดิม ส่วนสังคมศึกษามีแนวโน้มสูงขึ้น ระดับชั้น ม.6 คะแนนโอเน็ต วิชาภาษาไทยคะแนนลดลง คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์เท่าเดิม อังกฤษมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ส่วนสังคมศึกษาลดลง
คุณหญิงกษมากล่าวด้วยว่า จากการวิเคราะห์คะแนนในเบื้องต้น เห็นความตั้งใจและไม่ตั้งใจของเด็ก และยอมรับว่าคุณภาพโรงเรียนของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) มีความเหลื่อมล้ำกันมาก สาเหตุหนึ่งมาจากครูเก่งลาออก จึงเกิดความขาดแคลนครู ขาดแคลนสื่อการเรียนการสอน
พร้อมกันนี้ หลักสูตรการเรียนการสอนในปัจจุบันกำหนดให้เด็กที่เรียนสายวิทย์ และสายศิลป์ ต้องเรียน 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้เหมือนกัน เพียงแต่ความเข้มข้นในแต่ละวิชาต่างกัน ด้วยเหตุนี้เด็กนี้เองส่งผลให้สายศิลป์จะทำคะแนนวิทย์ได้น้อย ขณะเดียวกันเด็กสายวิทย์ ทำคะแนนสายศิลป์ได้น้อย
คุณหญิงกษมา กล่าวว่า สพฐ.จะวิเคราะห์ในรายละเอียดมากยิ่งขึ้น ลดลง คงเท่า เพิ่มขึ้น เพราะสาเหตุใด ซึ่งเวิล์ดแบงค์จะมาช่วยวิเคราะห์ปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ดูตามขนาดโรงเรียน ดูโรงเรียนในส่วนภูมิภาค ในเมือง ดูพื้นฐานความรู้ของแม่ จำนวนหนังสือที่บ้าน ฐานะความยากจน พร้อมกันนี้ สพฐ.จะวิเคราะห์ด้วยว่ากลุ่มโรงเรียนในฝัน สสวท. อย่างไรก็ตามวิเคราะห์เป็นรายโรง เขตพื้นที่ จะทำให้ทราบว่าความพยายามที่จะปรับปรุงการเรียนการสอน ดูว่าอะไรบ้างที่ได้ผล และอะไรที่ยังไม่ได้ผล เราจะได้ปรับปรุงต่อไป แต่สิ่งหนึ่ง ที่ทำให้เรามีกำลังใจขึ้นเล็กน้อย สพฐ.ได้ทำแผนภาษาอังกฤษมา 4-5 ปีก่อน และเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงของครู แม้ว่าคะแนนยังต่ำเตี้ยอยู่ แต่มีแนวโน้วผงกหัวได้ ถ้าเราสามารถลงทุนในวิชาอื่นๆ จะทำให้ผลการเรียนดีขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม จะขอข้อมูลจาก สทศ.เพื่อไปวิเคราะห์แล้วนำไปปรับปรุงต่อไป
นายสมเกียรติ ชอบผล รองเลขาธิการ กพฐ. ในฐานะกรรมการบอร์ด สทศ.ด้วย กล่าวว่า ได้รับข้อมูลเบื้องต้นจากเด็กที่เข้าสอบ ทำให้ทราบว่ามีการใช้มาตรฐานค่อนข้างกว้างในการออกข้อสอบ ขณะที่โรงเรียนแต่ละแห่งใช้กรอบมาตรฐานและเลือกหนังสือเรียนต่างกัน อาจส่งผลให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบ ดังนั้น ข้อสอบต้องแจ้งให้เห็นชัดเจนเรื่องความจำ ความเข้าใจ วิเคราะห์ สังเคราะห์ การใช้ประโยชน์ ซึ่งมีเด็กสะท้อนว่ามีข้อสอบความจำที่เด็กไม่คุ้นเคย อย่างเช่น ถามว่ารูปปั้นหน้าศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เป็นฝีมือของใคร ข้อสอบลักษณะนี้เด็กต่างจังหวัดจะเสียเปรียบเด็กกรุงเทพฯ
นายสมเกียรติ กล่าวอีกว่า ผลการจัดอันดับ 50 โรงเรียนแรกที่มีผลคะแนนสอบโอเน็ต สูงสุดของประเทศเมื่อปีการศึกษา 2549 มีคะแนนเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 46-73% ส่วนใหญ่เป็นโรงเรียนดังในเขตกรุงเทพฯ 25 โรง ที่เหลือเป็นโรงเรียนดังที่กระจายอยู่ตามเมืองใหญ่ๆ
