xs
xsm
sm
md
lg

เตรียมฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ให้กลุ่มเสี่ยง 7 โรค ดีเดย์ 1 ก.ค.นี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
เตรียมฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ให้ประชากรกลุ่มเสี่ยง ทั้งสิทธิข้าราชการ ประกันสังคม และบัตรทอง ที่ป่วยโรคเรื้อรัง 7 โรค จำนวน 1.8 ล้านคน สร้างภูมิคุ้มกันโรค ป้องกันอันตรายจากโรคแทรกซ้อน เตรียมดีเดย์ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่พร้อมกันทั่วประเทศ 1 ก.ค.นี้

นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ในแต่ละปีประเทศไทยมีผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ 7-9 แสนราย ในจำนวนนี้มีภาวะแทรกซ้อนรุนแรง เช่น ปอดบวม ต้องรับไว้โรงพยาบาล 12,000-75,000 รายต่อปี อัตราป่วยตายของโรคไข้หวัดใหญ่ที่มีภาวะแทรกซ้อนอยู่ที่ร้อยละ 2.5 ซึ่งก่อให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจจำนวนมหาศาลคิดเป็นมูลค่าปีละ 913-2,453 ล้านบาท ตามการรับรู้ของสังคมจะมองว่าเป็นโรคที่ไม่รุนแรง แต่สำหรับประชากรกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้สูงอายุ เด็ก ผู้ป่วยโรคเรื้อรังนั้น หากป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่ซ้ำซ้อนก็มีความเสี่ยงต่อชีวิตมาก ดังนั้นแนวทางป้องกันที่ดีที่สุด คือ การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ซึ่งเป็นวัคซีนที่มีประสิทธิภาพในการสร้างภูมิคุ้มกันโรคได้

นพ.วินัย กล่าวว่า ที่ผ่านมาคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ มีมติเห็นชอบการขยายสิทธิประโยชน์การให้วัคซีนไข้หวัดใหญ่แก่ประชากรกลุ่มเสี่ยงตั้งแต่ปี 2551 โดยเริ่มให้วัคซีนกับประชากรอายุมากกว่า 65 ปี ที่ป่วยด้วยโรคเรื้อรังจำนวน 120,000 คนทั่วประเทศไทย และในปี 2552 ได้ขยายเป็นทุกกลุ่มอายุ ทุกสิทธิการรักษาพยาบาล ไม่ว่าจะเป็น สวัสดิการข้าราชการ ประกันสังคม และหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าหรือบัตรทอง ที่ป่วยด้วยโรคเรื้อรั้ง 7 โรค ได้แก่ หอบหืด ปอดอุดกั้นเรื้อรัง หัวใจ ไตวาย หลอดเลือดสมอง มะเร็งที่ได้รับยาเคมีบำบัด และเบาหวาน จำนวนประมาณ 1,800,000 คน ซึ่งจะใช้งบประมาณดำเนินการ 357 ล้านบาท

นพ.จักรกริช โง้วศิริ ผู้จัดการกองทุนสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ซึ่งรับผิดชอบโครงการวัคซีนไข้หวัดใหญ่ สปสช. กล่าวเพิ่มเติมว่า ในการดำเนินการจะร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขโดยกรมควบคุมโรค และองค์การเภสัชกรรม ซึ่งจะมีการรณรงค์ให้ประชาชนกลุ่มเป้าหมายได้รับทราบ และกำหนดให้มีวันดีเดย์ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ให้ประชากรกลุ่มเสี่ยงทั้ง 7 โรคพร้อมกันในวันที่ 1 กรกฎาคม 2552 นี้ เชื่อว่าจะทำให้ประชากรกลุ่มเสี่ยงเข้าถึงการฉีดวัคซีนได้มากขึ้น ขณะเดียวกันโรงพยาบาลซึ่งเป็นด่านแรกก็จะให้ข้อมูลความรู้กับประชาชน และนัดหมายเพื่อมารับการฉีดวัคซีนต่อไป จึงขอเชิญชวนประชาชนที่ป่วยด้วยโรคเรื้อรัง 7 โรคดังกล่าวสามารถสอบถามเพื่อเข้ารับการฉีดวัคซีนที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่สายด่วน สปสช.โทร.1330

“การขยายสิทธิประโยชน์วัคซีนไข้ไข้หวัดใหญ่มีประโยชน์มาก เพราะเมื่อรับวัคซีนป้องกันโรคแล้วก็จะลดการเจ็บป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่หรือภาวะแทรกซ้อนจากโรคไข้หวัดใหญ่ คนไข้และญาติก็ไม่ต้องเสียเวลาค่าใช้จ่ายมาหาหมอ ไม่ต้องมีการตรวจรักษา หรือจ่ายยา และไม่มีค่าเดินทางมาโรงพยาบาล ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ขณะที่ภาครัฐก็ลดภาระการรักษาพยาบาลลงได้เช่นกัน”นพ.จักรกริช กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น