xs
xsm
sm
md
lg

สปสช.ของบกลาง 700 ล้าน รับมือคนตกงานย้ายใช้สิทธิบัตรทองเพิ่ม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สปสช.เตรียมของบประมาณ 700 ล้าน รับมือคนตกงาน ย้ายมาใช้สิทธิบัตรทอง คาด ต้องรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลเดือนละ 7-8 หมื่นคน พร้อมของบกลางเพิ่ม เหตุคนเลิกจ่ายเงินเอง หันมารักษาฟรีมากขึ้น ขณะที่ “วิทยา” เบรกสั่งสปสช.ทบทวนงบใหม่ เหตุสูงเกินจริง

นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกอาจส่งผลกระทบให้เกิดภาวะการว่างงานในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก จากเดิมที่ผู้ประกันตนซึ่งใช้สิทธิประกันสังคม หากตกงานย่อมต้องย้ายสิทธิรักษาพยาบาลมามาใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (บัตรทอง) ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของ สปสช.ซึ่งคาดการณ์ว่า ภายในปี 2552 จะมีผู้ประกันตนที่ว่างงานย้ายมาใช้สิทธิบัตรทองเพิ่มมากขึ้น โดยในช่วงวิกฤตจะเพิ่มขึ้นประมาณเดือนละ 7-8 หมื่นคนต่อเดือน จากเดิมที่มีการย้ายสิทธิเป็นปกติประมาณ 1.2แสนคนต่อเดือน สปสช.จึงเตรียมเสนอของบประมาณ 700 ล้านบาท ดูแลประชากรในกลุ่มที่เพิ่มขึ้น

นพ.วินัย กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ในช่วงปกติเมื่อมีผู้ย้ายเข้ามาใช้สิทธิบัตรทอง จะมีประชากรที่มีสิทธิบัตรทองแต่ได้งานทำแล้วย้ายไปใช้สิทธิประกันสังคม แต่เนื่องจากเศรษฐกิจไม่ดี คาดว่า กลุ่มคนที่จะย้ายสิทธิบัตรทองออกไปประกันสังคมจะมีแนวโน้มลดลง ซึ่งจำเป็นต้องเสนอของบกลางเพื่อดูแลคนสองกลุ่มนี้โดยงบประมาณดังกล่าวจะเป็นการดูแลประชากรที่มีสิทธิบัตรทองถึงเดือน ก.ย.หมดปีงบประมาณ 2552 ทั้งนี้ หากสำนักงบประมาณ กระทรวงการคลังอนุมัติงบให้น้อยกว่าที่เสนอไม่มาก คือ ประมาณ 600 ล้านบาท หรือมากกว่านี้ สปสช.ก็สามารถบริหารจัดการได้ แต่หากอนุมัติงบน้อยกว่าที่เสนออาจทำให้มีปัญหาในการบริหารจัดการได้

“ขณะนี้ สปสช.ได้ทำหนังสือสรุปข้อมูลดังกล่าวเสนอไปยัง นายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุข เมื่อวันที่ 8 ม.ค.ที่ผ่านมา เพื่อเสนอ ครม.พิจารณาเสนอของบกลางในส่วนของ สปสช.พร้อมกับการเสนองบกลางของกระทรวงสาธารณสุขที่จำเป็นต้องขอเพิ่มเช่นเดียวกัน ” นพ.วินัย กล่าว

นพ.วินัย กล่าวอีกว่า ส่วนงบเหมาจ่ายรายหัวปีงบประมาณ 2553 หากข้อมูลผู้ว่างงานเป็นไปตามที่คาดการณ์อาจต้องคำนวณงบประมาณรายหัวในโครงการหลักประกันใหม่ ให้สอดคล้องตามความเป็นจริงกับจำนวนประชากรที่ สปสช.ต้องดูแล

“ในส่วนของกลุ่มประชากรที่มีสิทธิบัตรทองอยู่แล้ว แต่เดิมที่ไม่เคยใช้สิทธิ อาจไปจ่ายเงินเอง แต่เมื่อเศรษฐกิจไม่ดีอาจหันมาใช้สิทธิบัตรทองเพิ่มขึ้นนั้น สปสช.ไม่สามารถเสนอของบกลางเพิ่มขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า จำนวนประชากรที่มีพฤติกรรมดังกล่าวจะมีไม่มาก ภาพรวมน่าจะเพิ่มประมาณ 2-3% ของผู้ใช้สิทธิในปีที่ผ่านมา เนื่องจากโดยปกติการใช้สิทธิบัตรทองของผู้ป่วยในมีประมาณ 90% หากจะเพิ่มก็คงไม่มากนัก ซึ่งไม่กระทบอะไร ในส่วนของผู้ป่วยนอกที่มีการใช้สิทธิประมาณ 70% อาจมีการใช้สิทธิบัตรทองเพิ่มขึ้นมากสุดเป็น 80% ซึ่งก็ไม่น่าจะเกิดปัญหาอะไรเช่นกัน” นพ.วินัย กล่าว

ด้านนายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ได้รับรายงานดังกล่าวแล้ว เบื้องต้นคงจะต้องให้ สปสช.กลับไปทบทวนการคำนวณอัตราเงินใหม่ เพราะบอร์ด สปสช.ได้เสนองบของงบกลางต่อเนื่อง 2 ปี ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2552-2553 รวม 700 ล้านบาท เป็นวงเงินที่สูงเกินไป อาจไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง ประกอบกับขณะนี้เข้าสู่ปีงบประมาณ 2552 เป็นเดือนที่ 4 แล้ว และยังไม่มีผู้ประกันตนย้ายสิทธิมาอยู่บัตรทองแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ตนจะหารือร่วมกับรัฐมนตรีเศรษฐกิจเพื่อขอความชัดเจนเรื่องนี้อีกครั้ง
กำลังโหลดความคิดเห็น