ขี้เมาลั้ลลา "เสธหนั่น" ปล่อยก๊งสนุกสนานเต็มคราบ อนาจ! คุมเหล้าสงกรานต์แท้งแล้วแท้งอีก คกก.นโยบายฯ ไม่เอาคุมดื่มบนยานพาหนะบนถนน เกรงลิดรอนสิทธิส่วนบุคคล “มานิต” ยันทำเต็มที่แล้ว รับสภาพไม่ดึงดันออกมาตรการกะทันหันให้คนด่า ขณะที่ห้ามดื่ม-ขายเหล้าวันพระ ใหญ่ไม่พ้นเตะถ่วงตั้งอนุกก.พิจารณาอีกรอบ เครือข่ายต้านเหล้า สิ้นหวังรอ ปาฏิหาริย์นายกรัฐมนตรีตัดสินใจลงนามคุมเหล้าช่วงสงกรานต์เฮือกสุดท้าย ลั่นคนบาดเจ็บล้มตายไม่ลดรัฐบาลต้องรับผิดชอบ โดยเฉพาะ “เสธหนั่น” – “อภิสิทธิ์” แฉหลังรองนายกฯ ดองคุมเหล้าเสร็จ บินทัวร์นอก
วันที่ 2 เมษายน นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ทีมงานเลขานุการรองนายกรัฐมนตรีได้เสนอท้วงติงการออกประกาศตามพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 ในการกำหนดสถานที่ห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนยานพาหนะทุกชนิดบนท้องถนนให้สธ.กลับมาพิจารณาอีกครั้ง เนื่องจากเกรงว่าการห้ามดื่มบนยานพาหนะบนถนนจะเป็นการลิดรอนสิทธิของประชาชนและใช้อำนาจเกินกว่าอำนาจของพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์พ.ศ.2551
“เกรงว่าในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ คงไม่สามารถออกมาตรการใดๆในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ได้ทัน เรื่องดังกล่าวเป็นอุทาหรณ์ของสธ.ในการดำเนินการออกมาตรการใดๆ ต้องมีการเตรียมความพร้อมแต่เนิ่นๆ โดยเฉพาะการเตรียมความพร้อมในข้อกฎหมายให้สามารถตอบข้อซักถามและข้อท้วงติงได้ทั้งหมด ที่ผ่านมาผมทำหน้าที่อย่างเต็มที่แล้ว ส่วนฝ่ายอื่นก็ต้องไปถามกันเอง ในเมื่อสธ.เห็นว่าต้นตออยู่ที่ผู้บาดเจ็บ ผู้เสียชีวิตเกิดจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และพยายามที่จะจัดการกับต้นตอ แต่ฝ่ายอื่นไม่เห็นด้วยเราก็ต้องทำหน้าที่ต่อไป เทศกาลปีใหม่ยังมีโอกาสให้ดำเนินการต่อ”นายมานิต กล่าว
นายมานิต กล่าต่อว่า ในฐานะสธ.เป็นฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จึงต้องนำข้อเสนอแนะและท้วงติงกลับมาหารือในทีมฝ่ายกฎหมายอีกครั้ง เพื่อให้การออกมาตรการใดๆไม่มีข้อโต้แย้ง ก่อนเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายฯอีกครั้ง ซึ่งยังไม่มีกำหนดว่าจะประชุมเมื่อใด แต่จนถึงวันนี้ก็ไม่น่าจะทันสำหรับการออกมาตรการสำหรับใช้ในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ได้ เพราะปกติจะต้องเหลือเวลาให้ประชาสัมพันธ์ได้อย่างน้อย 7 วัน หากจะออกมาตรการในวันที่ 12 เม.ย. แต่ไม่ได้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบก็จะมีแต่เสียงด่าเท่านั้น
“สธ.จะหันกลับมาใช้กฎหมายเดิมที่มีอยู่ให้เข้มงวดขึ้น รวมถึงการใช้เครื่องมือที่มีอยู่ อย่างอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.)ในการช่วยรณรงค์ให้ผู้ขับขี่ ผู้ประกอบการร้านค้า ฯลฯ ปฏิบัติตามกฎหมาย”นายมานิต กล่าว
นายมานิต กล่าวด้วยว่า ในส่วนของประกาศที่ขอให้คณะกรรมการนโยบายฯ มีมติเรื่องการห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันพระใหญ่ ได้แก่ วันมาฆบูชา วันอาสาฬหบูชา วันวิสาขบูชาและวันเข้าพรรษานั้นคณะกรรมการนโยบายฯได้มีมติให้มีการตั้งคณะอนุกรรมการฯขึ้นมา 1 ชุดมาพิจารณาเรื่องดังกล่าวให้เกิดความเรียบร้อยไม่มีข้อท้วงติงต่อไป
นายคำรณ ชูเดชา ประสานงานเครือข่ายป้องกันภัยแอลกอฮอล์ กล่าวว่า รู้สึกสิ้นหวังกับคณะกรรมการนโยบายฯ ชุดนี้มาก แต่ยังหวังลึกๆ ว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ซึ่งกฎหมายให้อำนาจในการตัดสินใจสุดท้าย อาจจะไม่เชื่อตามมติของคณะกรรมการนโยบายฯ ก็ได้ และมีทางออกหรือเสนออะไรใหม่ให้กับสังคม โดยหลังจากนายกฯเดินทางกลับมาจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ เครือข่ายฯ จะนำเสนอข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอุบัติเหตุช่วงสงกรานต์เข้าชี้แจงแต่คงไม่มีมาตรการกดดัน หากนายกฯ ตัดสินใจอย่างไรก็คงต้องเป็นไปตามนั้น แต่ผลที่เกิดขึ้นรัฐบาลคงไม่สามารถหนีความรับผิดชอบได้
“การห้ามดื่มเหล้าท้ายระกระบะ ถือเป็นมาตรการที่อ่อนสุดๆ แล้วก็ยังไม่เอาอีก หากอุบัติเหตุสงกรานต์ปีนี้ไม่ลดลงบอร์ดก็ควรที่จะพิจารณาตัวเองว่าเข้ามาเป็นนักการเมืองทำไมถ้าไม่ได้ปกป้องดูแลประชาชน หรือแค่เห็นว่า ความคิดลื้อก็ดีแต่อั๊วะจะได้อะไร ถือเป็นความคิดของนักการเมืองรุ่นเก่าที่เข้ามาทำการเมืองเพื่ออะไร คงต้องตอบคำถามประชาชน”นายคำรณ กล่าว
นายคำรณ กล่าวต่อว่า ตนไม่เห็นว่ามาตรการนี้จะกระทบกระเทือนใครได้อีก นอกจากจะกระเทือนธุรกิจแอลกอฮอล์ ซึ่งก่อนหน้านี้เครือข่ายฯ พยายามคัดค้านการที่ พล.ต.สนั่น มานั่งเป็นประธานคณะกรรมการนโยบายฯแล้วว่า ไม่เหมาะสมเพราะมีธุรกิจที่เกี่ยวกับพันกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แต่ก็ไม่สนใจ นายกรัฐมนตรียังเชื่อมั่นและมอบหมายให้พล.ต.สนั่นเป็นประธานคณะกรรมนโยบายฯ อีกทั้งในการลงมติโหวตมาตรการห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รัฐมนตรีทั้ง 8 กระทรวงก็รู้เห็นเป็นใจกันโดดเดี่ยวกระทรวงสาธารณสุขก็ต้องร่วมกันรับผิดชอบ ดังนั้น ความชัดเจนที่สุดคือคำตอบหลังสงกรานต์นี้
นายสงกรานต์ ภาคโชคดี ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้พล.ต.สนั่น รับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นหากตัวเลขอุบัติเหตุสงกรานต์ในปีนี้ไม่ลดลง รวมถึงนายอภิสิทธิ์ ที่ให้มอบหมายให้พล.ต.สนั่น รับผิดชอบกระทรวงด้านสังคมก็ต้องรับผิดชอบด้วย เพราะถือว่าไม่เห็นความสำคัญของชีวิตคน อ้างว่ากระทบการท่องเที่ยวโดยไม่มีข้อมูล ขณะเดียวกันนายชุมพล ศิลปะอาชา รัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ก็คิดสั้นๆ ห่วงขายเหล้าไม่ได้เกรงจะกระทบการท่องเที่ยวแต่การปล่อยปละให้ดื่มอย่างเสรีกลับเป็นการทำลายวัฒนธรรมไทยอย่างถาวร หากเกิดเหตุคนเมาลวนลามหรือข่มขืนนักท่องเที่ยว หรือนักท่องเที่ยวประสบอุบัติเหตุตายหมู่เพราะคนขับเมาเหล้า เพราะแม้แต่ครอบครัวคนไทยเองก็ไม่กล้าให้ลูกสาวไปเที่ยวเล่นเทศกาลสงกรานต์แล้วเพราะมีแต่ความไม่ปลอดภัย
“กฎหมายทุกฉบับล้วนแต่ลิดรอนสิทธิ์ส่วนบุคคลทั้งนั้น แต่เป็นออกกฎหมายเพื่อป้องกันไม่ให้ไปละเมิดสิทธิ์ส่วนรวมหรือทำให้ผู้อื่นเดือนร้อน ดังนั้น หากกฎหมายเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะก็สามารถทำได้อยู่แล้ว”นายสงกรานต์กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้เป็นที่แน่นอนแล้วว่ารัฐบาลจะไม่มีออกมาตรการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ โดยทีมที่ปรึกษาพล.ต.สนั่น ได้ทำหนังสือแจ้งคณะกรรมการนโยบายฯ ว่า พล.ต.สนั่น มีภารกิจต่างประเทศ ตั้งแต่วันที่ 4 -11 เมษายนนี้ โดยในระหว่างนี้หากจะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบาย จะมอบหมายให้รองประธานคณะกรรมการนโยบายคนที่ 1 ซึ่งก็คือนายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ทำหน้าที่ตัดสินใจแทน ซึ่งบทบาทของนายวิทยาที่ผ่านมา ไม่ให้ความสนใจเรื่องนี้แต่อย่างใด โดยได้มอบหมายหน้าที่ให้กับนายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขทำหน้าที่แทนมาโดยตลอด