พม.ดันเรื่องขอสนับสนุนงบปีละพันล้าน เวลา 5 ปี เพื่อกองทุนกู้ยืมในการแก้ปัญหาที่อยู่อาศัยคนจนในเมืองเข้า ครม.แล้ว พร้อมขออนุมัติกรอบวงเงินเป็นแบบอุดหนุนให้เปล่า จากที่ พอช.เคยเสนอแบบขอยืม และให้ พอช.ปล่อยสินเชื่อด้วยตนเองแทนสถาบันการเงิน คงดอกเบี้ยไม่เกินร้อยละ 4 ช่วยชาวบ้าน ด้าน “ประธานเครือข่ายสลัม 4 ภาค” วอนอนุมัติกรอบดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เหตุ พม.เปลี่ยนรัฐมนตรีบ่อย ทำชาวบ้านขาดความมั่นใจ
วันนี้ (2 เม.ย.) ที่ห้องพัชราวดี 1 โรงแรมปริ๊นพาเลซ นายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยและสินเชื่อของเครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทยว่า ที่ประชุมได้พิจารณาปัญหาชุมชนแออัด กรณีข้อเรียกร้องของเครือข่ายสลัม 4 ภาคที่ให้รัฐบาลสนับสนุนงบประมาณให้กับสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) เพื่อเป็นกองทุนกู้ยืมในการแก้ปัญหาด้านที่อยู่อาศัยของคนจนในเมือง โดยขออนุมัติสนับสนุนงบประมาณปีละ 1,000 ล้านบาทเป็นเวลา 5 ปี ซึ่งเรื่องกล่าวพอช.ได้เสนอเรื่องผ่าน พม.นำเข้าสู่การพิจารณาของครม.แล้วนั้น
นายอิสสระกล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมาตนได้ทำหนังสือถึงเลขาธิการ ครม.เพื่อเสนอข้อมูลเพิ่มเติ่มให้ ครม.พิจารณาโดยนำเสนอปัญหาและงบประมาณที่ต้องใช้เร่งด่วนเพื่อขออนุมัติงบกลางจาก ครม.ในการใช้แก้ปัญหาระหว่างที่ยังไม่ได้รับอนุมัติงบประมาณประจำปี 2553 และขออนุมัติกรอบวงเงินกองทุนในการแก้ปัญหาที่อยู่อาศัยของคนจนในเมืองเป็นแบบอุดหนุนให้เปล่าจากเดิมที่ พอช.เสนอเป็นแบบขอยืมปีละ 1,000 ล้านบาท ระยะ 5 ปี ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2553-2557 และขอให้ พอช.บริหารปล่อยสินเชื่อด้วยตนเองแทนการใช้สถาบันการเงิน นอกจากนี้ตนยังเห็นด้วยกับข้อเสนอของเครือข่ายฯ ที่ให้คงดอกเบี้ยสินเชื่อไม่เกินร้อยละ 4 เพื่อไม่ให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน
ด้านนางประทิน เวคะวากยานนท์ ประธานเครือข่ายสลัม 4 ภาค กล่าวว่า ชาวบ้านในเครือข่ายสลัม 4 ภาคเป็นแรงงานนอกระบบไม่ได้รับสวัสดิการจากรัฐ แม้แต่เช็คช่วยชาติก็ไม่ได้ ผู้ที่มีรายได้น้อยที่เป็นคนชราก็ได้เงินเบี้ยยังชีพไม่ครบทุกคน ดังนั้น รัฐบาลควรจะจัดสรรเงินแบบให้เปล่าในการสนับสนุนกองทุนในการแก้ปัญหาที่อยู่อาศัยของคนจนในเมือง และควรจะอนุมัติในหลักการเป็นกรอบให้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เนื่องจาก พม.มักจะเปลี่ยนรัฐมนตรีปล่อย ทำให้ชาวบ้านไม่มีความมั่นใจต่อการดำเนินงาน และเมื่อเปลี่ยนรัฐมนตรีทีก็ต้องมาเรียกร้องใหม่ รวมทั้งขอให้ พอช.เป็นผู้บริหารจัดการกองทุนและคงดอกเบี้ยเงินกู้ไม่เกิน 4%
