xs
xsm
sm
md
lg

สธ.เร่งสรุปพื้นที่เคอร์ฟิวห้ามกินเหล้า แย้ม “ฉิ่งฉับทัวร์” มีสิทธิ์โดน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สธ.เร่งสรุปพื้นที่ห้ามดื่มเหล้า-เบียร์ ช่วงสงกรานต์ ไม่เฉพาะท้ายกระบะ มอเตอร์ไซค์ แต่รวมถึงยานพาหนะบนถนนทุกชนิด ส่งให้ “สนั่น” ภายในวันที่ 3 เม.ย.นี้ ก่อนเรียกผู้ว่าฯ ตำรวจ สสจ.ทั่วประเทศชี้แจงรายละเอียด ยันรัฐบาลไม่เอื้อบริษัทเหล้าแค่ไม่อยากให้กระทบเศรษฐกิจ แย้มหากมาตรการเข้มปีนี้เหลว ปีหน้า สธ.เตรียมชงห้ามขายใหม่อีกรอบ

จากกรณีที่คณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ ที่มีพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน มีมติไม่ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ แต่ให้ออกมาตรการรองรับโดยการออกประกาศเพิ่มเติม 2 ฉบับ คือ 1.ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันสำคัญทางศาสนา 4 วัน ได้แก่ วันมาฆบูชา วิสาขบูชา อาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษา ตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่มีเงื่อนไข และ 2.พื้นที่ห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เช่น ท้ายรถกระบะและรถจักรยานยนต์ เนื่องจากบางคนดื่มจนมึนเมา คลองสติไม่ได้ ทั้งยังชักชวนให้ผู้บังขี่ดื่มด้วยเป็นสาเหตุให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย

วันที่ 31 มีนาคม นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขอยู่ระหว่างการจัดทำรายละเอียดของประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ตามพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 โดยเฉพาะการกำหนดสถานที่ หรือบริเวณที่ห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งจะมีการพิจารณาว่า จะห้ามจำหน่ายแอลกอฮอล์ทุกวันตลอดช่วงเทศกาลสงกรานต์หรือไม่ หรือจะห้ามเป็นเวลากี่วัน หรือจะห้ามตลอดไปหรือไม่ และจะห้ามในยานพาหนะใดบ้าง ซึ่งแน่ชัดแล้วว่า จะกำหนดให้ห้ามดื่มบนรถกระบะและรถจักรยานยนต์ แต่จะพิจารณาให้รอบคอบว่าในประกาศจะใช้ถ้อยคำใด เพราะหากใช้คำว่ายานพาหนะ อาจจะกระทบกับเรือ รถไฟ และเครื่องบินด้วย

“เบื้องต้นในประกาศอาจจะใช้คำว่าห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในยานพาหนะบนท้องถนน ซึ่งจะรวมถึงรถประเภทอื่นๆ ที่วิ่งบนถนนด้วย ไม่เฉพาะแต่รถกระบะและมอเตอร์ไซค์เท่านั้น แต่อาจรวมถึงกลุ่มฉิ่งฉาบทัวร์ด้วย เนื่องจากส่วนใหญ่ที่เกิดอุบัติเหตุเป็นผลจากการสนุกสนานเฮฮาแล้วผู้โดยสารยื่นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้คนขับดื่ม ทั้งนี้ หลังร่างประกาศแล้วเสร็จจะเสนอให้ พล.ต.สนั่นพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ก่อนออกเป็นประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี โดยไม่ต้องนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการ เพราะมีมติในเรื่องนี้เรียบร้อยแล้ว”นายมานิต กล่าว

นายมานิต กล่าวต่อว่า สำหรับบทลงโทษของผู้ที่ฝ่าฝืนประกาศทั้ง 2 ฉบับนั้น จะมีการหารือร่วมกันอีกครั้ง โดยจะสรุปรายละเอียดมาตรการต่างๆ รวมถึงประกาศทั้ง 2 ฉบับ ให้แล้วเสร็จภายในวันศุกร์ที่ 3 เมษายนนี้ เนื่องจาก พล.ต.สนั่น จะเชิญผู้ว่าราชการจังหวัด นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด และนายตำรวจระดับผู้บังคับการทั่วประเทศเข้าร่วมประชุมหารือถึงแผนการรณรงค์การลดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลสงกรานต์ รวมถึงจะมีการชี้แจงเกี่ยวกับมาตรการการห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วย

“หากมีการกำหนดโทษที่ค่อนข้างสูงในปีแรก ประชาชนอาจจะอ้างได้ว่ายังไม่รู้ ทำไมรัฐบาลไม่ประกาศแต่เนิ่นๆ ดังนั้น บทลงโทษอาจจะต้องค่อยๆ เพิ่มความเข้มข้น เพราะไม่อยากให้ประชาชนที่กลับบ้านหมดความ ซึ่งมาตรการลดอุบัติเหตุจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในปีนี้ถือว่าฉีดยาแรง เพราะไม่เพียงออกประกาศทั้ง 2 ฉบับเท่านั้น แต่จะมีการเพิ่มจุดตรวจวัดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในทุกหมู่บ้านบนถนนสายรองและการรณรงค์ที่เข้มขึ้นกว่าเดิมควบคู่ไปด้วยสนุกสนาน” นายมานิต กล่าว

นายมานิต กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ในช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์จะมีการประเมินผลมาตรการต่างๆ ว่า ประสบความสำเร็จในการลดอุบัติเหตุหรือไม่ ถ้าอุบัติเหตุยังอยู่ในระดับที่สูงหรือไม่ลดลงในระดับที่น่าพอใจ สธ.ก็จะนำปัญหาไปชี้ให้คณะกรรมการนโยบายฯ รับทราบ โดย สธ.จะนำมาตรการห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เคยเสนอไปก่อนหน้านี้มาพิจารณาใหม่ แต่หากประสบผลสำเร็จดีก็จะนำมาตรการเหล่านี้ไปใช้ในเทศกาลอื่นๆ ด้วย

“การที่เครือข่ายต้านเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตั้งข้อสังเกตว่า รัฐบาลทำเพื่อประโยชน์ของบริษัทน้ำเมานั้น ผมว่าอย่าไปพูดขนาดนั้น เพราะการบังคับอะไรในกฎหมาย จะต้องดูภาพรวมประชาชนทั้งประเทศด้วย ซึ่งช่วงเทศกาลสงกรานต์เป็นช่วงเวลาที่คนไทยโดยเฉพาะคนภาคเหนือและอีสานรอคอย การจะทำอะไรจึงควรค่อยๆ ทำดีกว่า ถ้าทำแรงไปก็จะกระทบการท่องเที่ยวและคนที่กลับบ้านจะหมดความสนุกสนาน”นายมานิต กล่าว
พล.ต.สนั่น ขจร ประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี
กำลังโหลดความคิดเห็น