xs
xsm
sm
md
lg

อสม.ดีเด่นปัตตานีมอบ "หลวงปู่ทวด" นายกฯ หยอดคำหวานขอให้นั่งเก้าอี้นานๆ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
อภิสิทธิ์" กดปุ่มเปิดงานวัน อสม. หยอดคำหวานมีความสำคัญต่อระบบสาธารณสุขไทย อสม.ดีเด่นปัตตานีมอบพระหลวงปู่ทวดกลางเวทีรับรางวัล ขอให้แคล้วคลาดอันตราย รอดศึกซักฟอกอยู่บริหารประเทศนานๆ ด้าน "วิทยา" เผย เม.ย.นี้จ่ายเงินถึงมือแน่นอน

วันที่ 20 มีนาคม ที่อาคาชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในการเป็นประธานเปิดงานวันอาสาสมัครสาธารณสุขแห่งชาติ และมอบรางวัลอสม.ดีเด่นระดับชาติประจำปี 2552 ใน 12 สาขา จำนวน 15 คน โดยมีตัวแทนอสม.จากทั่วประเทศเข้าร่วมงานกว่า 12,000 คน ว่า อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.) เป็นตัวอย่างของการมีส่วนร่วมของประชาชนในการพัฒนางานด้านสาธารณสุข ตามนโยบายสาธารณสุขมูลฐานมาเป็นเวลานานถึง 30 ปี จนทำให้การสาธารณสุขไทยเป็นที่ชื่นชมและยอมรับในประชาคมโลก

“ที่ผ่านมาอสม.มีบทบาทที่สำคัญในด้านสาธารณสุข ทั้งช่วงเวลาปกติและช่วงวิกฤติของโรคและภัยพิบัติทางธรรมชาติ อสม.ทำหน้าที่ให้ความรู้ในการป้องกันโรคแก่ประชาชน เฝ้าระวัง ส่งเสริมสุขภาพประชาชน อีกทั้งช่วงเทศกาลต่างๆก็มีบทบาทสำคัญในการช่วยป้องกันและลดอุบัติเหตุอย่างไม่รู้จักเหนื่อย เป็นการเสียสละทั้งกำลังกาย ใจ และทุนทรัพย์ ซึ่งผมดีใจที่อสม.มีครอบคลุมอยู่ในทุกหมู่บ้านและมีคนรุ่นใหม่เข้ามาทำงานมากขึ้น เชื่อว่าจะเป็นกำลังสำคัญในการช่วยส่งเสริมสุขภาพของประชาชน”นายอภิสิทธิ์กล่าว

นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า อนาคตอสม.จะต้องทำภารกิจอย่างหนักมากขึ้น ในการรับมือกับโรคจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศและภัยพิบัติ ซึ่งเป็นปัญหาที่เห็นได้ชัดเจนทั่วโลก อีกทั้งจะต้องดูแลเด็กตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดาจนเติบโต เพื่อให้เป็นอนาคตที่สำคัญของชาติที่มีความพร้อมทั้งกาย ใจและสติปัญญา รวมถึงดูแลผู้สูงอายุที่ถือเป็นผู้มีพระคุณของคนในสังคม รัฐบาลมองเห็นความสำคัญและตระหนักถึงภารกิจที่เพิ่มมากขึ้นมาก จึงได้จ่ายค่าตอบแทนที่ไม่ถือเป็นเงินเดือนให้กับอสม.ทั่วประเทศกว่า 987,019 คน เพื่อสนับสนุนการทำงานของอสม.ที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายส่วนตัวในการทำกิจกรรมส่วนรวมและเสียเวลาการประกอบอาชีพส่วนตัว โดยไม่ได้มีเจตนาไปทำลายจิตวิญญาณที่ดี ที่เสียสละต่อส่วนรวมของอสม.

ด้านนายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวว่า การจ่ายเงินค่าตอบแทนให้กับอสม.เดือนละ 600 บาท รัฐบาลได้จัดสรรเงินงบประมาณในส่วนนี้ผ่านไปยังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด(สสจ.)ทุกจังหวัด เพื่อจัดสรรจ่ายค่าตอบแทนให้กับอสม.ที่ได้ลงทะเบียนไว้ โดยจะเริ่มจ่ายในเดือนเมษายน และสิ้นสุดในเดือนกันยายน 2552 รวมเป็นเวลา 6 เดือน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนายอภิสิทธิ์กล่าวเปิดงานเสร็จได้มีการมอบรางวัลให้กับอสม.ที่มีผลงานดีเด่นระดับชาติประจำปี 2552 นั้น นางพยอม แก้ววงษ์จันทร์ อสม.ดีเด่นสาขาการปฏิบัติงานดีเด่นในพื้นที่ที่มีภาวะวิกฤติ จ.ปัตตานี ได้ขึ้นรับรางวัล ซึ่งระหว่างที่รับรางวัลได้หยิบพระออกจากกระเป๋าเสื้อมอบให้กับนายกรัฐมนตรี

โดยนางพยอม กล่าวในภายหลังว่า พระที่มอบให้นายกรัฐมนตรีเป็นพระหลวงปู่ทวดเนื้อว่าน ซึ่งตนนำมาจากวัดช้างไห้ จ.ปัตตานีถือเป็นของศักดิสิทธิ์ ตั้งใจนำมามอบให้กับนายอภิสิทธิ์เป็นการเฉพาะ เนื่องจากรู้สึกนับถือและชื่นชอบในอัธยาศัยที่ดี บุคลิกที่สุขุมเยือกเย็น คิดอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจและมีความเป็นตัวของตัวเองของนายอภิสิทธิ์มาเป็นเวลานาน โดยหวังว่าหลวงปู่ทวดจะช่วยคุ้มครองให้นายอภิสิทธิ์ปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง และรอดพ้นจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจอยู่ทำหน้าที่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลไปนานๆ

นางพยอมกล่าวอีกว่า การทำงานส่งเสริมสุขภาพประชาชนในพื้นที่จ.ปัตตานี ต้องมีสติอย่างมากในการทำงานเพื่อให้งานออกมามีคุณภาพช่วยลดความเจ็บป่วยของประชาชนให้ได้มากที่สุด เพราะเป็นพื้นที่ที่ไม่มีใครอยากลงไปทำงาน เมื่อเราอยู่ในพื้นที่ก็ต้องทำงานให้ดีที่สุดให้คนมีสุขภาพดี ส่วนการที่รัฐบาลจ่ายค่าตอบแทนให้เดือนละ 600 บาท แม้จะไม่ได้มากมาย แต่เป็นกำลังใจในการทำงาน เพราะเป็นการสะท้อนให้เห็นว่ารัฐให้ความสำคัญและเห็นคุณค่าของงานที่อสม.ทำ

สำหรับ อสม.ดีเด่นระดับชาติประจำปี 2552 จำนวน 12 สาขา 15 รางวัล จะได้รับเข็มทองคำเชิดชูเกียรติ พร้อมใบประกาศเกียรติคุณ ดังนี้ สาขาการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมโรคติดต่อ ได้แก่ นายนิพน สารทรานนท์ จ.ฉะเชิงเทรา สาขาสุขภาพจิตชุมชน ได้แก่ นายสำรวย อำนวย จ.ศรีษะเกษ สาขาการแก้ไขปัญหายาเสพติดในชุมชน ได้แก่ นายบุญเรือง คำไพ จ.ยโสธร สาขาการบริการในศูนย์สาธารณสุขมูลฐานชุมชน (ศสมช.) ได้แก่ นางนภาพร ภูมิเรศสุนทร จ.สระแก้ว สาขาการคุ้มครองผู้บริโภค ได้แก่ นายคำ บุญลือชา จ.กาฬสินธุ์

สาขาการแพทย์แผนไทยและภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านสุขภาพ ได้แก่ นางเครือ เนตรภักดี จ.อุดรธานี สาขาเอดส์ในชุมชน ได้แก่ นางธวัลรัตน์ คงรอด จ.มุกดาหาร สาขาการส่งเสริมสุขภาพ ได้แก่ นางสุนีย์ สุขสันต์สิริมา จ.สมุทรสาคร สาขาการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมโรคไม่ติดต่อ ได้แก่ นางยุพารักษ์ พรหมนอก จ.ขอนแก่น สาขาการจัดการสุขภาพชุมชน ได้แก่ นายบุญกอง ตราชู จ.ยโสธร สาขาอนามัยแม่และเด็ก นางสุดารัตน์ จันทร์ทอง จ.ตรัง และสาขาการปฏิบัติงานดีเด่นในพื้นที่ที่มีภาวะวิกฤติ 4 รางวัล ได้แก่ 1.นายอัดนัน เซ็ง จ.นราธิวาส 2.นางพะยอม แก้ววงศ์จันทร์ จ.ปัตตานี 3.นายเจ๊ะอูมา ดือราแม จ.ยะลา และ 4.นายหมัดอุเส็น สามารถ จ.สงขลา

ส่วน อสม.ดีเด่นระดับภาค 33 คน อสม.ดีเด่นระดับเขต 154 คน ได้รับเข็มเชิดชูเกียรติ สำหรับอสม.กฟผ. 2 คน และอสม.ดีเด่น กทม. 10 คน และอสม.ดีเด่นระดับจังหวัด 671 คน จะได้รับโล่พร้อมใบประกาศเกียรติคุณ
กำลังโหลดความคิดเห็น