xs
xsm
sm
md
lg

พม.มอบเงินเหยื่อ 7 ตุลา 4 แสนให้ 4 ครอบครัว เมีย “เจนกิจ” ลั่นพร้อมชุมนุมอีก ญาติ “น้องโบว์” ไม่ขอรับเงินรัฐบาล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เจนกิจ กลัดสาคร เหยื่อผู้ถูกทำร้ายจากการชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
พม.มอบเงินช่วยเหลือเหยื่อ 7 ตุลาฯ เพิ่มอีก 4 ครอบครัวๆ ละ 400,000 บาท ด้านภรรยา “เจนกิจ” เผยเงินที่ได้รับเทียบไม่ได้กับความสูญเสีย ยืนยันพร้อมกลับมาร่วมชุมนุมอีก ส่วนครอบครัวของ น.ส.อังคณา ระดับปัญญาวุฒิ หรือ “น้องโบว์” ปฏิเสธรับเงินช่วยเหลือจากทางรัฐบาล

วันนี้ (16 มี.ค.) ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้มีการมอบเงินช่วยเหลือผู้ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ความไม่สงบเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 และเหตุการณ์ที่เกี่ยวเนื่อง โดย นางพนิตา กำภู ณ อยุธยา อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กล่าวว่า สืบเนื่องจากที่คณะรัฐมนตรีได้มอบหมายให้กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ให้การช่วยเหลือผู้ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ความไม่สงบวันที่ 7 ตุลาคม 2551 และเหตุการณ์ที่เกี่ยวเนื่อง จนถึงวันที่ 6 มีนาคม 2552 ตามหลักเกณฑ์ของคณะกรรรมการเยียวยาและช่วยเหลือผู้ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ความไม่สงบฯ ซึ่งมีจำนวนผู้เสียหายจากเหตุการณ์รวมทั้งสิ้น 389 ราย แบ่งเป็นผู้ที่ได้รับความบาดเจ็บเล็กน้อย 286 ราย บาดเจ็บธรรมดา 60 ราย บาดเจ็บสาหัส 31 ราย พิการ/ทุพพลภาพ 10 ราย และเสียชีวิต 2 ราย ซึ่งได้ให้การช่วยเหลือไปแล้ว รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 15,300,000 บาท

ทั้งนี้ กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการได้รวบรวมนำเสนอคณะกรรมการเยียวยาและช่วยเหลือผู้ได้รับความเสียหายฯ ส่วนที่เหลือ ซึ่งที่ประชุมมีมติเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2552 เห็นชอบให้ช่วยเหลือฯ จำนวน 169 ราย และเนื่องจากครอบครัวของผู้เสียชีวิตมีความเดือดร้อน และจำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน จึงได้ดำเนินการเบิกเงินช่วยเหลือให้แก่ครอบครัวในรายที่เสียชีวิตก่อน จำนวน 4 รายๆ ละ 400,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,600,000 บาท ได้แก่ 1.น.ส.ปิญชาน์ สุขภูตานนท์ อายุ 36 ปี ภรรยาของนายเจนกิจ กลัดสาคร ผู้เสียชีวิต 2. นายคมสันต์ ไชยศรี อายุ 33 ปี ญาติของนายรณชัย ไชยศรี ผู้เสียชีวิต 3.นายวิชาญ หมื่นหนู อายุ 50 ปี บิดาของ น.ส.กมลวรรณ หมื่นหนู ผู้เสียชีวิต และ 4.นายชุมพล เสมอภาพ อายุ 44 ปี บิดาของ นายยุทธพงษ์ เสมอภาพ ผู้เสียชีวิต
ภาพเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ความรุนแรงในการทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 51
นายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวภายหลังการมอบเงินช่วยเหลือว่า ในนามของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ และในนามของรัฐบาล รู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์เป็นอย่างมาก ซึ่งเชื่อว่าไม่มีใครอยากจะให้เกิดขึ้น การมาแสดงออกตามหลักประชาธิปไตยของประชาชนกลุ่มหนึ่ง ก็เป็นความรู้สึกนึกคิดของเขา ในเมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นมาแล้วก็อยากให้ทุกฝ่ายถือไว้เป็นบทเรียน ซึ่งเหตุการณ์ก็ผ่านมากว่า 5 เดือน รัฐบาลเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจในการให้ความช่วยเหลือและตรวจสอบข้อเท็จจริง

“เชื่อว่าเงินที่ให้ความช่วยเหลือไปจำนวน 400, 000 บาทนั้นเทียบไม่ได้กับความสูญเสียในชีวิตของคนอันเป็นที่รักในครอบครัว แต่รัฐบาลก็ได้ให้ความช่วยเหลือบรรเทาแม้ว่าเงินจะมาทดแทนชีวิตใครไม่ได้ แต่ก็ถือเป็นส่วนหนึ่งในความช่วยเหลือที่รัฐบาลดำเนินการให้ ที่จะมาแบ่งเบาภาระความเป็นอยู่ในครอบครัวผู้สูญเสียได้” รมว.พม.กล่าว

ด้าน น.ส.ปิญชาน์ สุขภูตานันท์ ภรรยาของ นายเจนกิจ กลัดสาคร ผู้ที่เสียชีวิตระหว่างการชุมนุมร่วมกับกลุ่มพันธมิตรฯ กล่าวทั้งน้ำตาว่า เงินที่รัฐบาลให้การช่วยเหลือมานั้นเทียบไม่ได้กับความสูญเสียที่ครอบครัวได้รับ ครอบครัวเคยอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข แต่ตอนนี้ครอบครัวเปลี่ยนไป ไม่เหมือนเดิม ตนจึงต้องใช้ชีวิตในฐานะทั้งเป็นพ่อและแม่ของลูกในเวลาเดียวกัน หากเลือกได้ตนไม่อยากต้องมารับเงินช่วยเหลือจากเหตุการณ์เช่นนี้ แต่อยากขอให้ได้แฟนกลับคืนมามากกว่า
ภาพเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ความรุนแรงในการทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 51
“อยากให้ทุกครอบครัวในสังคมไทยดูแล เอาใจใส่ รักใคร่กันให้ดีที่สุด เพราะหากเกิดอะไรขึ้นในอนาคตจะไม่มีโอกาสได้ทำ เวลาก็ไม่มีวันย้อนกลับ อยากให้ครอบครัวรักกันมากๆ สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับครอบครัวนั้นถึงแม้จะเสียใจแค่ไหนแต่หากต้องมีเหตุให้ต้องเข้าร่วมชุมนุมฯ ก็จะกลับไปอีก แต่ต้องอยู่ที่ว่าตัวเองจะทำใจได้มากน้อยแค่ไหนเมื่อต้องกลับไปเห็นบรรยากาศเดิมๆ แต่ไม่มีแฟนอยู่ด้วยแล้ว ในส่วนของลูกสาวเขาก็อยากจะไปมาก อยากทำหน้าที่เช่นเดียวกับพ่อซึ่งลูกก็บอกกับเราเสมอว่าพ่อไม่ได้ไปไหน ยังอยู่ด้วยกันที่บ้าน แต่ความรู้สึกอยากเจอพ่อ อยากกอดพ่อ คงไม่มีโอกาสเช่นนั้นอีก เมื่อเขาเห็นภาพในละคร หรือเห็นภาพของครอบครัวที่มีครบทั้งพ่อ แม่ ลูก เขาก็จะดูเงียบไป ทั้งหมดก็คงมาจากความคิดพ่อของเขาที่ไม่มีวันจางหาย” น.ส.ปิญชาน์กล่าว

ทั้งนี้จากเหตุการณ์สลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 นั้น มีผู้เสียชีวิต 2 ราย พร้อมทั้งผู้ที่เสียชีวิตในระหว่างการชุมนุมฯ อีก 5 ราย รวมยอดผู้เสียชีวิตระหว่างการชุมนุมฯ ทั้งสิ้น 7 ราย โดยก่อนหน้านี้ได้มอบเงินช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตไปแล้ว 2 ราย และในวันนี้ได้ทำการมอบเงินช่วยเหลือให้แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตอีก 4 รายที่เหลือ ส่วนครอบครัวของ น.ส.อังคณา ระดับปัญญาวุฒิ ปฏิเสธรับเงินช่วยเหลือจากทางรัฐบาล
กำลังโหลดความคิดเห็น