“อิสสระ” เผย เตรียมสั่งจ่ายเงินสงเคราะห์ช่วยคุณตาวัย 73 ปี ที่เสียชีวิตคาโต๊ะลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพ ที่สำนักงานเขตบางพลัด ยันหลัง 15 มี.ค.ถ้าเป้าไม่ถึง 3 ล้าน จะไม่ขยายเวลาลงทะเบียน ระบุ พระ-อสม.ได้สิทธิ์ด้วย
วันนี้ (10 มี.ค.) นายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีชายสูงอายุเสียชีวิตระหว่างไปรอลงทะเบียนขอรับเบี้ยผู้สูงอายุ ที่สำนักงานเขตบางพลัด ว่า จากการตรวจสอบทราบว่าผู้เสียชีวิตดังกล่าวชื่อนายสำเริง ทัดเทียมสุข อายุ 73 ปี อยู่บ้านเลขที่ 356 ถนนจรัญสนิทวงศ์ เขตบางพลัด ซึ่งสาเหตุการเสียชีวิตไม่ได้เป็นเพราะความแออัดของสถานที่ หรือมีผู้สูงอายุไปลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพกันมาก แต่เกิดจากการที่ นายสำเริง เกิดหน้ามืดและเป็นลมหมดสติไป เบื้องต้นมีพยาบาลปฐมพยาบาลให้ แต่ไม่ทันการณ์ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ทั้งนี้ ในทางกฎหมายนั้น ต้องถือว่าสิทธิ์ในเบี้ยยังชีพ 500 บาทของนายสำเริง ยังไม่เกิดขึ้น เนื่องจากรัฐบาลจะเริ่มจ่ายเบี้ยยังชีพดังกล่าวให้ช่วงเดือนเมษายนเป็นต้นไป อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ พม.ที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือในรูปเงินสงเคราะห์ครอบครัว 2 พันบาท ให้กับครอบครัวนายสำเริง แทนไปแล้ว
“จนถึงขณะนี้มีผู้สูงอายุทั่วประเทศมาลงทะเบียนเพื่อรับเบี้ยยังชีพ 500 บาท เพียง 1.96 ล้านคน จากเป้าที่รัฐบาลตั้งไว้ว่าจะมีผู้อายุมาลงทะเบียน 3 ล้านคน ใช้งบประมาณทั้งสิ้น 9,000 ล้านบาท แต่หากหลังวันที่ 15 มี.ค.ไปแล้วยังมีผู้สูงอายุมาลงทะเบียนไม่ถึง 3 ล้านคน จะไม่มีการขยายระยะเวลาให้อีก ได้แค่ไหนก็เอาแค่นั้น ส่วนงบที่เหลือรัฐบาลก็จะนำไปใช้โครงการอื่นๆ ต่อไป” นายอิสสระ กล่าว
รมว.พม.กล่าวอีกว่า การจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุครั้งนี้ รัฐบาลได้ให้สิทธิ์ไปถึงพระภิกษุที่มีอายุ 60 ปีด้วย ยกเว้นพระเถระชั้นผู้ใหญ่ที่มีเงินเดือน หรือนิตยภัคจะไม่ได้รับสิทธิ์เบี้ยยังชีพในส่วนนี้ แตกต่างจากกรณี อสม.ที่มีอายุ 60 ปี และได้ค่าตอบแทนจากภาครัฐนั้นมีสิทธิ์ได้เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เนื่องจากค่าตอบแทนของ อสม.ไม่ถือเป็นเงินเดือน แต่เป็นเงินเหมาจ่ายให้คนละ 600 บาท