นายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยว่า ยอดผู้สูงอายุที่ไปลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุทั่วประเทศ ข้อมูล ณ วันที่ 13 มีนาคม ประมาณ 2.8 ล้านคนแล้ว ถ้ารวม 2 วันสุดท้ายคือเมื่อวานนี้กับวันนี้(15 มี.ค.) คาดว่าจำนวนจะได้เท่าที่ได้ประมาณไว้ว่าจะมีผู้สูงอายุมาลงทะเบียนประมาณ 3 ล้านคน จากผู้สูงอายุที่มีอายุครบ 60 ปี ที่มีสิทธิตามทะเบียนราษฎรกว่า 4 ล้านคน เนื่องจากอาจมีผู้สูงอายุที่มีฐานะดีและยอมเสียสละขอเบี้ยยังชีพ ตัวอย่างเช่น ในกรุงเทพมหานคร ที่มีผู้สูงอายุมีสิทธิ 600,000 คน แต่ถึงขณะนี้มีผู้มาลงทะเบียน 300,000 คน
อย่างไรก็ตาม ผู้สูงอายุที่ลงทะเบียนไม่ทันในรอบนี้ซึ่งวันนี้เป็นวันสุดท้าย จะไม่ยืดเวลาให้แล้ว เพราะหลังจากนี้จะต้องมีการตรวจสอบคุณสมบัติว่าเป็นผู้สูงอายุที่ได้รับเงินสงเคราะห์อื่นหรือเบี้ยบำนาญอยู่แล้วหรือไม่
นายอิสสระ กล่าวด้วยว่า มั่นใจจ่ายเบี้ยยังชีพงวดแรกได้ทันกลางเดือนเมษายน โดยนายกรัฐมนตรีจะกดปุ่มปล่อยเงินไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศวันที่ 9 เมษายน
ทั้งนี้ จากการออกติดตามการลงทะเบียนมีการแสดงความเห็นต่อชื่อเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุพบว่า หลายคนอยากให้เปลี่ยนชื่อ เนื่องจากผู้สูงอายุบางคนไม่ได้เดือดร้อนเรื่องการเลี้ยงดู แต่ต้องการนำเงินส่วนนี้ไปใช้จ่ายอย่างอื่นเช่น ทำบุญ ดังนั้นอาจเสนอคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติเปลี่ยนเป็นชื่ออื่น เช่น "เบี้ยกตัญญู" และผู้สูงอายุที่ลงทะเบียนไม่ทันในรอบนี้ สามารถลงทะเบียนได้ในรอบหน้า ซึ่งจะเป็นตามปีปฎิทินหรือปีงบประมาณ ต้องรอพิจารณาจากคณะกรรมการฯ
อย่างไรก็ตาม ผู้สูงอายุที่ลงทะเบียนไม่ทันในรอบนี้ซึ่งวันนี้เป็นวันสุดท้าย จะไม่ยืดเวลาให้แล้ว เพราะหลังจากนี้จะต้องมีการตรวจสอบคุณสมบัติว่าเป็นผู้สูงอายุที่ได้รับเงินสงเคราะห์อื่นหรือเบี้ยบำนาญอยู่แล้วหรือไม่
นายอิสสระ กล่าวด้วยว่า มั่นใจจ่ายเบี้ยยังชีพงวดแรกได้ทันกลางเดือนเมษายน โดยนายกรัฐมนตรีจะกดปุ่มปล่อยเงินไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศวันที่ 9 เมษายน
ทั้งนี้ จากการออกติดตามการลงทะเบียนมีการแสดงความเห็นต่อชื่อเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุพบว่า หลายคนอยากให้เปลี่ยนชื่อ เนื่องจากผู้สูงอายุบางคนไม่ได้เดือดร้อนเรื่องการเลี้ยงดู แต่ต้องการนำเงินส่วนนี้ไปใช้จ่ายอย่างอื่นเช่น ทำบุญ ดังนั้นอาจเสนอคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติเปลี่ยนเป็นชื่ออื่น เช่น "เบี้ยกตัญญู" และผู้สูงอายุที่ลงทะเบียนไม่ทันในรอบนี้ สามารถลงทะเบียนได้ในรอบหน้า ซึ่งจะเป็นตามปีปฎิทินหรือปีงบประมาณ ต้องรอพิจารณาจากคณะกรรมการฯ