“มท.1” กำชับ กทม.ให้คุมเข้มข้าราชการสายโยธาอย่าทำงานหย่อนยานจนเกิดเหตุแบบโศกนาฏกรรมซานติก้า ผับ พร้อมเสนอแก้ปัญหาจราจรไม่จำเป็นต้องใช้เมกะโปรเจกต์ แต่สามารถใช้วิธีบริหารจัดการแก้จราจรเมืองกรุงได้ ห่วงการขยายตัวของเมือง ส่วนเรื่องส่วนต่อขยายรถไฟฟ้า ที่ กทม.ยื่นเรื่องขอเปลี่ยนมติ ครม.น่าให้รฟม.ดูแล เพราะเป็นเจ้าของ ด้าน “ธีระชน” เผย เรื่องยังไม่ถึง มท.1 แต่อยู่คณะทำงานกลั่นกรองงานของ รมต.
วันนี้ (12 มี.ค.) ที่ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และคณะ ได้มาตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานพร้อมกับมอบนโยบายและแนวทางการทำงานให้กับคณะผู้บริหารและหัวหน้าหน่วยงาน กทม.จำนวน 5 ข้อด้วยกัน คือ 1.ด้านการเมืองการปกครอง ขอให้กทม.จัดกิจกรรมรวมพลังมวลชนเพื่อสร้างความเกิดความรู้รักสามัคคี เกิดความจงรักภักดีต่อสถาบัน 2.ด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม ถ้าอยากให้ กทม.น่าอยู่น่าอาศัยก็ต้องเร่งแก้ไขปัญหาขยะ น้ำเสีย เร่งเพิ่มพื้นที่สีเขียวโดยเฉพาะสวนสาธารณะ รวมถึงจัดระเบียบชุมชนแออัดให้มีสุขาภิบาลที่เหมาะสม ตลอดจนการจัดระเบียบหาบเร่แผงลอยที่จะต้องไม่เกะกะทางเดินเท้า ไม่ให้มีผู้อิทธิเรียกผลประโยชน์ได้
3.ด้านการพัฒนาเมือง กทม.มีหน้าที่รับผิดชอบการวางผังเมือง การควบคุมอาคาร การสร้างอาคาร ดังนั้น การพัฒนาเมืองหรือผังเมืองให้เติบโตไปในทิศทางใดก็ไม่น่าจะเกินกำลังและความสามารถของทุกคน และที่สำคัญ อยากให้มีการบังคับใช้กฎหมายผังเมืองและการควบคุมอาคารไม่ให้มีการก่อสร้างผิดแบบ หรือไม่มีการขออนุญาตแต่กลับก่อสร้างเพราะเรื่องดังกล่าวเกี่ยวข้องกับความมั่นคงปลอดภัยของประชาชนและผู้ใช้อาคารซึ่งมีตัวอย่างของโศกนาฏกรรมกรณีซานติก้าผับ ที่เป็นผลเนื่องมาจากการต่อเติมอาคาร และใช้อาคารผิดประเภท จึงขอให้ผู้บริหารกทม.ได้เข้มงวดกับเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบโดยตรงในเขตต่างๆ ให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็ง จริงจัง และกวดขัน เพราะความหย่อนยานของเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานหมายถึงชีวิตบริสุทธิ์ของประชาชนที่ไม่ทราบเรื่องแต่ต้องมาประสบเคราะห์กรรม
4.ด้านการจราจร ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นปัญหาอยู่กับมหานคร หรือเมืองใหญ่ๆ เสมอ แต่การแก้ไขปัญหาเรื่องนี้อาจจะไม่จำเป็นต้องพึ่งพาโครงการเมกะโปรเจกต์เสมอไป โดยสามารถแก้ไขด้วยการใช้ระบบบริหารจัดการที่เหมาะสม เช่น ปัญหาพื้นที่จอดรถให้กับรถขนส่งสาธารณะในบริเวณที่เหมาะสม และไม่กีดขวางเส้นทางการจราจรโดยเฉพาะสถานที่ที่พี่น้องประชาชนไปใช้ร่วมกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้การจราจรติดขัด นอกจากนั้น ตนอยากให้ กทม.ประสานกับผู้ที่รับผิดชอบการตีเส้นจราจรห้ามจอดในบริเวณทางเข้าซอยหรือสถานที่อาคารต่างๆ เพราะบางครั้งการตีเส้นจราจรห้ามจอดในบริเวณดังกล่าวอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัดก็ได้
5.ด้านการบริหารการปกครอง ระหว่างกระทรวงมหาดไทยและกทม. อยากให้มีการประสานงานกันอย่างใกล้ชิด อย่ามองอย่างคนไม่รู้จัก ขอให้มองว่าเรามีเป้าหมายเดียวกันคือการทำงานให้กับพี่น้องประชาชน ทั้งนี้ ตนได้มอบนโยบายการทำงานให้กับข้าราชการกระทรวงมหาดไทยตั้งแต่วันแรกที่เข้ารับตำแหน่งโดยขอให้ยึดถือประชาชนเป็นศูนย์กลางของการทำงานหรือเป็นหัวใจของการปฏิบัติงาน ดังนั้น เมื่อเรามีเป้าหมายในการทำงาเช่นเดียวกัน งานทุกอย่างที่ต้องปฏิบัติร่วมกันก็สามารถเป็นไปได้อย่างสอดคล้องมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล
นายชวรัตน์ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมภายหลังว่า ตนมีความเป็นห่วงเรื่องการขยายตัวของเมืองกทม.ในขณะที่มีพื้นที่อย่างจำกัด แต่กลับมีประชากรเพิ่มมากขึ้นซึ่งเราสามารถที่สร้างสาธารณูปโภครองรับเพิ่มเติมได้แต่ในปัจจุบันกลับไม่มีที่จะให้สร้าง ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีการขยายตัวของเมืองออกไปยังพื้นที่ใกล้เคียงเพื่อรองรับการขยายตัวของเมืองซึ่งต้องหารือกับจังหวัดใกล้เคียงก่อน
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ กทม.ได้ส่งหนังสือขอให้ มท.1 นำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เพื่อขออนุมัติให้ยกเลิกมติ ครม.ที่ให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) รับผิดชอบสายสีเขียวส่วนต่อขยายช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ และช่วงหมอชิต-สะพานใหม่ กลับมาให้ กทม.ดำเนินการทั้งหมด รวมถึงให้ กทม.ดำเนินการส่วนต่อขยายสายสีเขียวทั้งปัจจุบันและในอนาคต นั้น นายชวรัตน์ กล่าวว่า เรื่องนี้จะต้องมีการหารือกับกระทรวงคมนาคม ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้มีการพดคุยกัน แต่โดยส่วนตัวเมื่อมีมติให้ รฟม.รับผิดชอบแล้วหน่วยงานนั้นก็เป็นเจ้าของโครงการเขาก็น่าจะหวงโครงการของเขาซึ่งก็น่าที่จะให้ รฟม.ทำต่อไปส่วน กทม.รอทำส่วนต่อขยายหากมีการขยายเมืองเพิ่มเติม
ด้านนายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าฯ กทม.ที่กำกับดูงานด้านการจราจร กล่าวว่า ขณะนี้เรื่องที่กทม.ส่งไปเพื่อให้ มท.1 นำเข้าสู่ที่ประชุม ครม.ในการขอเปลี่ยนแปลงมติ ครม.ดังกล่าวยังที่อยู่คณะทำงานกลั่นกรองงานให้ มท.1อยู่โดยคาดว่าจะเสนอเรื่องให้ มท.1 รับทราบเร็วๆ นี้
ผู้สื่อข่าวถามด้วยว่า หาก มท.1 ยังยืนว่า น่าจะให้ รฟม.ทำ กทม.จะดำเนินการอย่างไร นายธีระชน กล่าวว่า ขอให้ใจเย็นๆ ให้ท่าน มท.1 ได้พิจารณาเรื่องที่ กทม.เสนอไปก่อน เพราะตอนนี้ท่านยังไม่เห็นเรื่องแต่อย่างใด