xs
xsm
sm
md
lg

สพฐ.เผยเงินสละสิทธิ์ชุด นร.ช่วย ร.ร.เล็กได้ 700 แห่ง ยังเปิดให้แสดงความจำนงเพิ่มอีก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สพฐ.ยังเปิดให้ผู้ปกครองแสดงความจำนงสละสิทธิ์รับการอุดหนุนเครื่องแบบนักเรียนและอุปกรณ์การเรียน เผยเงินสละสิทธิ์ขณะนี้ช่วย ร.ร.เล็กได้ 700 แห่ง เตือนผู้ปกครองให้ใช้เงินตามวัตถุประสงค์ให้ครบถ้วนอย่าลิดรอนสิทธิบุตรหลาน แจงงบและวิธีการจัดซื้อหนังสือเรียนตามนโยบายเรียนฟรี 15 ปี ต้องเป็นไปตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ.2535 ทุกประการ และตามมติของภาคี 4 ฝ่าย คือ ผู้แทนครู นักเรียน ผู้ปกครอง และชุมชน

นายสมเกียรติ ชอบผล รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวถึงส่วนตัวเลขนักเรียนที่แสดงความจำนงขอสละสิทธิ์รับเงินค่าชุดนักเรียนและอุปกรณ์การเรียน โรงเรียนสังกัด สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ล่าสุดมีประมาณร้อยละ 0.5 มากที่สุดเป็นนักเรียนในเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) กรุงเทพมหานครเขต 1 ประมาณ 4,000 คน คิดเป็นร้อยละ 4 ของจำนวนนักเรียน

ทั้งนี้ ยังเปิดให้โรงเรียบทบทวนตัวเลขสละสิทธิ์ฯ เพิ่มเติมได้ และจะดำเนินการรณรงค์อีกครั้งในกลุ่มนักเรียนที่เข้าใหม่ สำหรับยอดเงินสละสิทธิ์ฯ ขณะนี้ สามารถนำไปช่วยโรงเรียนด้อยพัฒนา ที่มีประมาณ 600 แห่ง โดยจัดซื้อชุดนักเรียนและอุปกรณ์การเรียนให้ได้แห่งละ 70 คน ซึ่ง สพฐ.จะแจ้งเพิ่มเติมว่าการสละสิทธิ์ในแต่ละเขตพื้นที่การศึกษาใด จะนำไปช่วยโรงเรียนในเขตนั้น พร้อมกำชับโรงเรียนว่าไม่ให้ใช้วิธีบังคับให้สละสิทธิ์ แต่ให้เป็นความสมัครใจเพื่อเป็นความภาคภูมิใจ โดยโรงเรียนจะออกประกาศเกียรติคุณให้ผู้ปกครองที่สละสิทธิ์ฯ ด้วย


ส่วนผู้ปกครองที่ได้รับเงินสนับสนุนซื้อชุดนักเรียนและอุปกรณ์การเรียน ต้องนำใบเสร็จหรือชุดที่ซื้อมาแสดงต่อโรงเรียน โดยขออย่าลิดรอนสิทธิบุตรหลานของตน เช่น ใช้เงินไม่ครบจำนวน ขอให้ใช้เงินตามวัตถุประสงค์ให้ครบถ้วน และยอมรับว่าอาจมีวิธีการหลีกเลี่ยงไม่แสดงใบเสร็จจริง หรือหลักฐานจริง แม้จะตรวจสอบได้ยาก แต่ก็ยังมั่นใจว่าผู้ปกครองจะไม่ทำเช่นนั้น และวิธีการดังกล่าวถือว่าเป็นการทำผิดกฎหมายด้วย

นายสมเกียรติกล่าวถึงงบประมาณการจัดซื้อหนังสือเรียนตามนโยบายเรียนฟรี 15 ปี อย่างมีคุณภาพว่า ยืนยันว่ากระแสข่าวที่ให้โรงเรียนใช้งบประมาณจัดซื้อหนังสือเรียนโดยแบ่งซื้อเป็นรายชั้นไม่เป็นความจริง ไม่สามารถกระทำได้ เนื่องจากผิดระเบียบการจัดซื้อ ของสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ.2535 ดังนั้น ทุกแห่งจะต้องซื้อหนังสือเรียนตามระเบียบฯ ทุกประการ

ทั้งนี้ โรงเรียนส่วนใหญ่จะมีนักเรียนไม่เกิน 200 คน จะได้รับงบจัดซื้อหนังสือเรียนไม่เกิน 100,000 บาท ให้จัดซื้อด้วยวิธีการตกลงราคา ส่วนโรงเรียนที่มีนักเรียนเกิน 200 คน จะได้รับงบฯ จัดซื้อหนังสือเรียนเกิน 100,000 บาท มีประมาณ 10,000 แห่ง จะใช้วิธีประกาศสอบราคา

สำหรับโรงเรียนขนาดใหญ่ที่มีกว่า 200 แห่งจะได้รับงบจัดซื้อตำราเรียนมากกว่า 2 ล้านบาท จะใช้วิธีการซื้อด้วยวิธีการประมูลด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-auction)


ทั้งนี้ การเลือกว่าจะใช้หนังสือเรียนเล่มใด ให้เป็นมติของภาคี 4 ฝ่าย คือ ผู้แทนครู ผู้แทนนักเรียน ผู้แทนผู้ปกครอง และผู้แทนชุมชน ตกลงร่วมกับคณะกรรมการโรงเรียน โดยจะตรวจสอบราคาตำราเรียนที่โรงเรียนแต่ละแห่งจัดซื้อให้มีความเหมาะสม เช่น ซื้อจำนวนมากจะต้องได้ราคาถูกกว่า โรงเรียนที่ซื้อจำนวนน้อย
กำลังโหลดความคิดเห็น