“จรัญ” จวกบิ๊กข้าราชการขี้หลีเพียบ ถือเป็นลักษณะด้อยของผู้บริหาร บี้ไล่พ้นตำแหน่ง จี้เหยื่อเรียกค่าเสียหายเชิงลงโทษได้ “อิสสระ” ขานรับคุ้มครองสิทธิสตรีให้มากขึ้น เน้น พม.ต้นแบบ ก.พ.เตรียมออกกฎ ก.พ.ว่าด้วยคุกคามทางเพศตั้งศูนย์จริยธรรมทุกหน่วยรัฐแก้ปัญหา
วันนี้ (6 มี.ค.) ที่โรงแรมปรินซ์ พาเลซ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) ร่วมกับ สมาคมบัณฑิตสตรีทางกฎหมายแห่งประเทศไทย จัดเสวนาวันสตรีสากล ประจำปี 2552 เรื่อง “กฎระเบียบข้าราชการ พนักงานรัฐกับการบังคับใช้ : คุ้มครองหรือละเมิดสิทธิสตรีทางเพศ” โดย นายจรัญ ภักดีธนากุล ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า ปัญหาการคุกคามทางเพศสตรีในหน่วยงานราชการยังไม่เป็นที่รับรู้มาก แม้แต่คนถูกคุกคามทางเพศยังไม่รู้ว่าตัวเองมีสิทธิในการปกป้องต่อสู้ ทั้งนี้ น่าจะทำให้ผู้บังคับบัญชาตระหนัก ว่า การทำพฤติกรรมสุนัขจิ้งจอกครองอำนาจไปคุกคามใครไม่ได้ หากทำให้เป็นเรื่องที่รับรู้กันทั้งองค์กรผู้บังบัญชาจะไม่กล้าทำ แต่ตอนนี้ยังกล้าทำกันอยู่เงียบๆ ลับๆ เนื่องจากโทษทางวินัยอาญาของภาครัฐยังอ่อนกว่าภาคเอกชนที่มีกฎหมายคุ้มครองแรงงานห้ามนายจ้างล่วงเกินทางเพศลูกจ้างมีโทษทางอาญาและเรื่องอยู่ที่ศาลแรงงานจำนวนมาก ขณะที่การคุกคามทางเพศในระบบราชการ ทำได้แค่ร้องขอความเป็นธรรมผู้บังคับบัญชา อย่างมากทำเพียงขอให้ระงับพฤติกรรม หากมีหลักฐานมัดแน่นก็มีความผิดวินัยไม่ร้ายแรง ทำอะไรไม่ได้ ส่วนใหญ่ก็มาขอให้รอมชอม ว่ากล่าวตักเตือน ภาคทัณฑ์หรือลดเงินเดือนแทบไม่มีให้เห็น
นายจรัญ กล่าวอีกว่า ตนคิดว่าถึงเวลาภาครัฐต้องมีกฎหมายคุกคามทางเพศโดยเฉพาะเหมือนภาคเอกชน และทำให้เข้มข้นจริงจัง ปรับโทษทางอาญาเพิ่มขึ้น และต้องมีโทษทางแพ่ง เพราะการคุกคามทางเพศเป็นการละเมิดทางแพ่งที่กดขี่ข่มเหงที่ชั่วร้าย คนกระทำต้องรับผิดชอบทางละเมิดจ่ายค่าเสียหาย มิฉะนั้นจะยับยั้งพฤติกรรมพวกนี้ไม่ได้ อย่างสหรัฐอเมริกา หากมีพฤติกรรมแบบนี้จะโดนค่าเสียหายแรงมาก และเอาผิดไปถึงผู้บังคับบัญชา หน่วยงาน กระทรวง ทบวง กรม บริษัทของผู้มีพฤติกรรมคุกคาม ฐานปล่อยปละละเลยให้มีการละเมิดในองค์กรหรือเอาคนไม่ดีเข้ามาทำงานก็ต้องร่วมรับผิดชอบด้วย เราจะปล่อยจิ้งจอกครองเมืองครองอำนาจกดขี่คนทำงานด้วยหยาดเหงื่อแลกเศษเงินไม่ได้ ตอนนี้การเรียกค่าเสียหายเชิงลงโทษไทยยังไม่มี จากนี้ต้องปรับใช้ให้เป็นประโยชน์กับคนในสังคม
“พรรคการเมืองมีอำนาจต้องแก้ปัญหาจริงจัง ไม่ใช่เฉยชาให้การยกย่องผู้บริหารนักรัก แบบผู้ชนะสิบทิศที่รบก็เก่งรักก็รอบทิศ ให้ถือเป็นลักษณะด้อยของผู้บริหาร ภาครัฐเจอเมื่อใดต้องตัดทิ้งไม่ให้ขึ้นสู่ตำแหน่ง หรือขึ้นมาแล้ว แววสุนัขจิ้งจอกออกมา ก็ต้องถูกตัดไม่ให้เป็นผู้บริหารราชการ เพราะใจคอพวกนี้จะคอยแต่งาบลูกน้อง ไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชาย เราจะปล่อยให้มีบิ๊กขี้หลีต่อไปไม่ได้ ต้องไปแก้ที่กิเลสตัณหาของตัวเอง ถ้ายังเสียสละความประพฤติหยาบๆ แบบนี้ไม่ได้ ก็เป็นผู้นำองค์กรเป็นบิ๊กไม่ได้ แนวทางทำงานเรื่องนี้ต้องยึดหลักคิดเรื่องศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของคนไทยไม่ว่าหญิงหรือชาย เป็นเรื่องใหญ่เพราะมีทั้งผู้บริหารนักรัก พวกนักไต่เต้า นักเต้าไต่ นายเลี้ยงต้อย รวมทั้งฝ่ายจัดหาประสานประโยชน์ทั้งนั้น ที่บั่นทอนศักดิ์ศรีความเป็นคนของสตรีไทย”นายจรัญ กล่าว
นายจรัญ กล่าวด้วยว่า สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ได้กำหนดให้หน่วยราชการทุกแห่งแต่งตั้งผู้บริหารด้านการเสริมสร้างบทบาทหญิงชาย (Chief Gender Equality Officer-CGEO) ตั้งแต่ปี 2545 พบว่า ส่วนใหญ่มีการตั้งคนไม่เหมาะสมทำงานไม่ได้ ทั้งที่งานสำคัญต้องมาเป็นที่พึ่งแก้ปัญหาคุกคามทางเพศในองค์กรด้วย อาจเป็นเพราะ CGEO ที่ตั้งมาไม่มีฐานะตำแหน่งชัดเจน ตนอยากเสนอว่าควรให้สิ่งตอบแทน เช่น การประกาศเกียรติคุณเหรียญตรา โอกาสรับการพิจารณาตำแหน่งงานเพิ่มขึ้นเพื่อเป็นแรงจูงใจให้ทำงานได้ผลจริง
นายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ กล่าวว่า ผู้บริหารหน่วยงานรัฐหรือเอกชน โดยเฉพาะรัฐต้องไม่ใช้อำนาจจากตำแหน่งไปล่วงเกินทางเพศสตรีที่เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้มักเกิดจากสันดาน ถือเป็นผู้ที่ไม่ควรได้รับการส่งเสริมให้ขึ้นเป็นผู้บริหาร รวมทั้งผู้ที่แสวงหาความก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่โดยใช้เรือนร่างตัวเอง ส่วนกรณีผู้บริหารของกระทรวง พม.คุกคามทางเพศตนก็ได้ยินแต่จากข่าวก่อนมาเป็นรัฐมนตรี ไม่ทราบว่า มีลักษณะอย่างไรแต่ตอนนี้คิดว่าไม่น่าจะมีอีก แต่หากมีผู้ร้องเรียนเข้ามาตนก็พร้อมจะตรวจสอบ อย่างไรก็ตามกฎหมายลงโทษมีทั้งทางอาญาวินัย ขึ้นอยู่กับผู้ใช้กฎหมายจะเอาจริงหรือไม่ ทั้งนี้ตนเน้นให้กระทรวงพม.คุ้มครองสิทธิสตรีให้มากขึ้น เพื่อเป็นต้นแบบการต่อต้านการละเมิดทางเพศและเอาเปรียบผู้หญิง
ด้านนางสุทธินี เมธีประภา นายกสมาคมบัณฑิตสตรีทางกฎหมายแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สมาคมได้รับการร้องขอความช่วยเหลือจากสตรีกรณีถูกละเมิดทางเพศในหน่วยงานรัฐจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้บังคับบัญชาละเมิดทางเพศลูกน้องสาว ที่เป็นข้าราชการหรือลูกจ้างชั่วคราว ซึ่งมีทั้งหลอกลวง ข่มขืน หรือใช้ข้ออ้างจะไล่ออก โดยเฉพาะเจ้านายกับลูกน้องที่เป็นลูกจ้างชั่วคราวหน้าตาดี จะใช้ข้ออ้างให้ลงพื้นที่ตรวจงานด้วยบ่อยๆ แล้วละเมิดทางเพศโดยหลอกจะบรรจุเป็นข้าราชการให้ บางรายสามีภรรยาเป็นข้าราชการทั้งคู่ สามีไปมีเพศสัมพันธ์กับลูกน้อง และจะขอเอาผู้หญิงใหม่เข้าบ้านด้วย ภรรยาไม่ยอมก็ขับรถพาภรรยากับลูกไปข่มขู่จะขับตกเหวบ้าง ทุบตีทำร้ายให้ยอมบ้างจนภรรยาต้องย้ายไปอยู่ที่อื่น เรื่องแบบนี้เมื่อร้องเรียนในระบบราชการมักอ้างว่าเป็นเรื่องส่วนตัว หน่วยงานจัดการปัญหาให้ไม่ได้ หากผู้ชายไม่ได้ทำงานเสีย ขณะที่ผู้หญิงลุกมาต่อสู้ต้องเป็นฝ่ายออกจากงาน ต้องอับอายจากการถูกมองเป็นเมียน้อย บางคนสภาพจิตเสียต้องอยู่โรงพยาบาลถาวรก็มี จากที่ระเบียบราชการไม่คุ้มครองเรื่องคุกคามทางเพศเลย
นายปรีชา นิศารัตน์ ที่ปรึกษาระบบราชการ สำนักงาน ก.พ.กล่าวว่า พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2535 จะรวมพฤติกรรมคุกคามละเมิดทางเพศไว้ในมาตรา 98 วรรคสอง ว่าเป็นการประพฤติชั่วร้ายแรง ไม่ได้แยกออกมาต่างหาก ซึ่งก็ต้องพิจารณาอีกว่าการมีเมียน้อย ข่มขืน เป็นการประพฤติชั่วร้ายหรือไม่ แต่ พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 จะกำหนดมาตรา 85 เรื่องความผิดวินัยร้ายแรง โดยเตรียมออกร่างกฎหมายเบื้องต้นเฉพาะเกี่ยวกับการคุกคามทางเพศ 5 กรณี ประกอบด้วย การละเมิดทางเพศโดยการสัมผัสทางกายหรืออวัยวะใดอวัยวะหนึ่ง การละเมิดทางวาจาโดยการวิพากษ์วิจารณ์รูปร่างหน้าตา หยอกล้อหยาบคายก้าวร้าว การละเมิดด้วยท่าทางกิริยา สายตาลวนลามทำสัญลักษณ์ทางเพศ การละเมิดด้วยรูปภาพลามก จดหมายอีเมล สื่ออื่นๆ และการละเมิดด้วยพฤติกรรมอันใดอันหนึ่งที่ผู้ถูกกระทำมาพึงปรารถนา เดือดร้อนรำคาญ ถือเป็นความผิดวินัยได้หมด จากนี้จะทำประชาพิจารณ์เพื่อเสนอก.พ.และเข้าครม.พิจารณาเห็นชอบต่อไป
“หลายตัวอย่างที่ ก.พ.ลงโทษข้าราชการคุกคามทางเพศที่ผ่านมา เช่น พนักงานควบคุมโรค 4 บุกรุกห้องนอนเจ้าหน้าที่การเงิน 5 โดยประทุษร้ายกอดปล้ำหวังข่มขืน ศาลสั่งจำคุกแต่รอลงอาญา ถูกลดขั้นเงินเดือน 1 ขั้น เจ้าหน้าที่สาธารณสุขชุมชน 2 ปลุกปล้ำพยายามข่มขืนเจ้าหน้าที่สาธารณสุขชุมชน 2 ที่เป็นหญิงที่บ้านพัก อัยการสั่งฟ้อง โทษปลดออกจากราชการ ผู้คุกคามส่วนใหญ่จะเห็นเป็นข้าราชการกระทรวงสาธารณสุขเพราะมีข้าราชการทั่วประเทศมากกว่าหน่วยอื่น คือ ประมาณ 1ใน 3 จากนี้เราจะออกเป็นกฎก.พ.ว่าด้วยการคุกคามทางเพศ และ ก.พ.กำลังทำประมวลจริยธรรม ตั้งศูนย์จริยธรรมประจำทุกกระทรวงทุกจังหวัดเพื่อให้มีหน่วยงานดูแลปัญหาคุกคามทางเพศโดยตรง” ที่ปรึกษาระบบราชการ สำนักงาน ก.พ.กล่าว
นางผุสดี ตามไท ส.ส.ประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นักการเมืองไม่ได้ให้คุณค่ากับเรื่องการคุกคามทางเพศ แม้แต่ประมวลจริยธรรมนักการเมืองตามรัฐธรรมนูญกว่าจะบรรบุเรื่องนี้ไว้ก็ยังร่อแร่ และพร้อมจะถูกตัดออกจากประมวลจริยธรรมตลอดเวลา สังคมต้องสร้างมาตรฐานเรื่องนี้เพราะเรารับไม่ได้กับพฤติกรรมนักรักของผู้บริหาร เพราะแม้แต่ไม่สภาเอง ผู้หญิงก็จะถูกมองด้วยสายตาทั้งชื่นชมและกระลิ้มกระเหลี่ยโดยเฉพาะนักการเมืองสาวๆ ต้องระวังว่าจะแต่งตัวอย่างไร วิถีชีวิตอย่างไร บรรยากาศในสภาก็แย่เหมือนกัน แต่ถ้าเราแก่หน่อยจะมีป้อมปราการให้ลุกขึ้นมาทำอะไรได้ แต่ก็จะถูกแซวถูกมองว่าเคลื่อนไหวแต่เรื่องของตัวเอง อยากให้สังคมช่วยกันรณรงค์ให้เกิดมนุษย์พันธุ์ใหม่ ที่เคารพคุณค่าความเป็นมนุษย์เสมอภาคกัน และรู้จักยับยั้งความปรารถนาด้านหยาบให้ได้