“อิสสระ” ค้านข้อเสนอสมัชชาสตรีออก กม.ทำแท้งเสรี ชี้สังคมรับไม่ได้ ร้ายแรงกว่าหวยบนดิน

“สมัชชาสตรี 4 ภาค” เสนอ 9 นโยบายต่อรัฐบาล เร่งผลักดัน พ.ร.บ.สุขภาพ ออกกฎหมายทำแท้งเสรี กำหนดสัดส่วนการเลือกตั้งหญิงชายทุกระดับ บรรจุเรื่องความเสมอภาคในหลักสูตรการสอนทุกระดับ สนับสนุน ช่วยเหลือหญิงหม้าย หญิงพิการ เด็กถูกกระทำความรุนแรง “อิสสระ” ติงข้อเสนอทำแท้งเสรี ระบุสังคมไทยยังรับไม่ได้ ชี้รุนแรงกว่าหวยบนดิน ด้าน “ปรียาภรณ์” เหยื่ออาจารย์ลวนลามแลกเกรด รับสตรีดีเด่นด้านปกป้องสิทธิของตนเอง เผยภูมิใจได้ทำสิ่งที่ถูกต้อง ฝากเพื่อน นศ.หญิง ที่ถูกกระทำออกมาเรียกร้องสิทธิ ส่วนเรื่องคดีอยู่ชั้นศาลรอสืบพยาน

วันนี้ (5 มี.ค.) ที่ห้องรอยัล จูบิลี บอลรูม อาคารชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี นายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เป็นประธานในพิธีเปิด งานวันสตรีสากล ประจำปี 2552 พร้อมทั้งมอบโล่ประกาศเกียรติคุณให้แก่ สตรี บุคคล หน่วยงาน องค์กรดีเด่น ภาครัฐและเอกชน

ทั้งนี้ ในส่วนขององค์กรสมัชชาสตรี 4 ภาค ได้นำข้อเสนอเชิงนโยบายเสนอต่อรัฐบาล ที่ได้จากเวทีสมัชชาสตรีแห่งชาติ ประจำปี 2552 โดยมีรายละเอียด 9 ข้อ ได้แก่ 1.ผลักดันให้มี พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ รวมทั้งการออกกฎหมายการยุติการตั้งครรภ์ 2.ผลักดันระเบียบ กฎหมาย หรือพระราชบัญญัติในการกำหนดสัดส่วนหญิง ชาย ในการเลือกตั้งทุกระดับอย่างชัดเจน โดยเริ่มจากการกำหนดสัดส่วนของสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) 3.ปลูกจิตสำนึกให้เยาวชนสนใจการเมือง และส่งเสริมให้มีการอบรมประชาธิปไตยในโรงเรียน 4.บรรจุเรื่องการส่งเสริมคาวมเสมอภาคหญิงชายไว้ในหลักสูตรการเรียนการสอนทุกระดับ
 
5.ผลักดันให้ท้องถิ่นมีนโยบายในการดำเนินงานด้านสตรีอย่างจริงจัง 6.สนับสนุนและช่วยเหลือหญิงหม้าย สตรีพิการ และเด็กที่ได้รับผลกระทบจากการถูกละเมิดสิทธิและถูกกระทำความรุนแรง 7.เฝ้าระวังการละเมิดสิทธิของสื่อต่างๆ เช่น โทรทัศน์ วิทยุ วารสาร และสื่อสิ่งพิมพ์ 8.ร่วมรณรงค์สร้างกระแสเรื่องความเสมอภาคหญิงชายอย่างต่อเนื่อง และ 9.ควรมีการควบคุมบริษัทค้าปลีกข้ามชาติให้อยู่เฉพาะในระดับจังหวัด

นายอิสสระเปิดเผยภายหลังรับข้อเสนอจากกลุ่มสมัชชาสตรี 4 ภาค ว่า ตนจะนำข้อเสนอทั้งหมด เสนอต่อนายกรัฐมนตรีต่อไป ทั้งนี้ในส่วนข้อเสนอที่มีประโยชน์ก็จะเร่งดำเนินการ ซึ่งเชื่อว่าแต่ละข้อเสนอล้วนแล้วแต่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนโดยเฉพาะสตรีแทบทั้งสิ้น อย่างไรก็ตาม ในส่วนข้อเสนอที่เรียกร้องให้มีการออกกฎหมายยุติการตั้งครรภ์อย่างเสรี นั้น ตนเห็นว่าเป็นสิ่งที่สังคมไทยยังรับไม่ได้ และหากพิจารณาดูแล้วจะเห็นว่าเป็นเรื่องที่ร้ายแรงกว่าเรื่องหวยบนดิน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่ตัวแทนสมัชชาสตรี 4 ภาค นำเสนอนโยบายต่อรัฐบาลแล้วจากนั้น ได้มีการมอบโล่ประกาศเกียรติคุณให้แก่ สตรี บุคคล หน่วยงาน องค์กรดีเด่น ภาครัฐและเอกชน เนื่องในวันสตรีสากล ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

1.บุคคลเกียรติยศดีเด่นด้านการส่งเสริมความเสมอภาคหญิงชายและการคุ้มครองสิทธิสตรี ได้แก่ นางสายสุรี จุติกุล สมาชิกคณะกรรมการประจำอนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีในทุกรูปแบบของสหประชาชาติ

2.สตรีดีเด่นในเวที/เครือข่ายระดับสากล ได้แก่ นางสุรภีร์ โรจนวงศ์ ผู้ก่อตั้งสมาคมส่งเสริมและพัฒนาหัตถกรรมอาเซียน

3.นักการเมืองท้องถิ่นสตรดีเด่น ประเภทองค์การบริหารส่วนจังหวัด ได้แก่ นางรัตนา จงสุทธนามณี นายก อบจ.จังหวัดเชียงราย

4.นักการเมืองท้องถิ่นสตรดีเด่น ประเภทเทศบาล ได้แก่ นางสาวเพ็ญภัค รัตนคำฟู นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลเกาะคา จ.ลำปาง

5.หน่วยงานภาครัฐดีเด่นด้านการส่งเสริมความเสมอภาคชายหญิง ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน สำนักนายกรัฐมนตรี, กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน, กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม

6.พนักงานสอบสวนหญิงดีเด่น ได้แก่ พันตำรวจโท (หญิง) จรีย์วรรณ พุทธานุรักษ์ พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรหางดง จ.เชียงใหม่

7.บุคคลภาคเอกชนดีเด่นด้านการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนของสตรี ได้แก่ นางสุนทรี หัตถี เซ่งกิ่ง เลขาธิการคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน

8.หน่วยงานภาคเอกชนดีเด่นด้านการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนของสตรี ได้แก่ มูลนิธิสร้างความเข้าใจเรื่องสุขภาพผู้หญิง

9.นักธุรกิจสตรีดีเด่น ได้แก่ นางศุกาญจน์ตา สุขไผ่ตา ประธานกลุ่มสหภาพแรงงานย่านรังสิต

10.สตรีดีเด่นด้านการส่งเสริมสัติภาพในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ นางบงกช ณ สงขลา นักวิชาการ ม.สงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี , นางยูไนดา มะดือเร๊ะ ประธานศูนย์ฝึกอาชีพพญาดา อ.ตากใบ จ.นราธิวาส, นางวาสือเมาะ เงาะ กำนันตำบลสะกำ อ.มายอ จ.ปัตตานี

11.สตรีนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมดีเด่น ได้แก่ นางฉลวย กะเหว่านาค นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมสตรี

12.สตรีดีเด่นด้านการปกป้องสิทธิของตนเอง ได้แก่ นางสาวปรียาภรณ์ มนัส นักศึกษาผู้ปกป้องตนเองจากการคุกคามทางเพศในสถานศึกษา

13.ยุวสตรีดีเด่น ได้แก่ นางสาวหฤทัย ไชยวงศ์ จากโรงเรียนจักรคำคณาทร จ.ลำพูน

14.สื่อมวลชนสตรีดีเด่น ประเภทสื่อโทรทัศน์ ได้แก่ นางสาวมณัชยา รักพานิชแสง ผู้ควบคุมและผลิตรายการวงเวียนชีวิต

15.สื่อมวลชนดีเด่นด้านการส่งเสริมศักยภาพสตรีและความเสมอภาคหญิงชาย ประเภทรายการโทรทัศน์ ได้แก่ รายการผู้หญิงถึงผู้หญิง

16.สื่อสารมวลชนสตรีดีเด่นด้านการส่งเสริมความเสมอภาคหญิงชาย สาขารายการโทรทัศน์ ได้แก่ ละครเรื่อง โบตั๋นกลีบสุดท้าย

17.สื่อสารมวลชนดีเด่นด้านการส่งเสริมศักยภาพสตรีและความเสมอภาคหญิงชาย ประเภทสื่อโฆษณา ได้แก่ โฆษณาชุด หนึ่งเสียงหยุดความรุนแรงต่อผู้หญิง โดย สสส.

18.บุคคลดีเด่นด้านการส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างหญิงชายและการคุ้มครองสิทธิสตรีภาคราชการ ได้แก่ พล.ต.ท.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.)

19.บุคคลดีเด่นด้านการส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างหญิงชายและการคุ้มครองสิทธิสตรีภาคเอกชน ได้แก่ นางสาวอุษา เลิศศรีสันทัด ผู้อำนวยการมูลนิธิเพื่อนหญิง

20.สตรีดีเด่นด้านธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ได้แก่ นางสุวรรณา หลั่งน้ำสังข์ จากร้านเลมอนฟาร์ม

21.ชุมชนดีเด่นด้านการคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิสตรี กรุงเทพมหานคร ได้แก่ ชุมชนสวนอ้อย เขตคลองเตย

22.ชุมชนดีเด่นด้านการคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิสตรี ภาคเหนือ ได้แก่ ชุมชนฟ้าใหม่ ตำบลช้างคลาน อ.เมือง จ.เชียงใหม่

23.ชุมชนดีเด่นด้านการคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิสตรี ภาคกลาง ได้แก่ ชุมชนไทยเกรียงพัฒนา ตำบลบางจาก อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ

24.ชุมชนดีเด่นด้านการคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิสตรี ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ ชุมชนหมู่บ้านคำกลาง ตำบลโนนหนามแท่ง อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ

25.ชุมชนดีเด่นด้านการคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิสตรี ภาคใต้ ได้แก่ ชุมชนท่ายาง ตำบลท่ายาง อ.เมือง จ.ชุมพร

26.ชุมชนดีเด่นด้านการคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิสตรี สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ ชุมชนตำบลบาโงย ตำบลบาโงย อ.ยะหา จ.ยะลา

ด้าน น.ส.ปรียาภรณ์ มนัส นักศึกษาผู้ปกป้องตนเองจากการคุกคามทางเพศในสถานศึกษา และได้รับรางวัลสาขาสตรีดีเด่นด้านการปกป้องสิทธิของตนเอง กล่าวว่า ตนดีใจกับรางวัลที่ได้รับ และเห็นว่าผู้หญิงที่เป็นนักศึกษายังไม่กล้าที่จะเปิดเผยในเรื่องของการถูกคุกคามทางเพศในสถานศึกษามากเท่าที่ควร ซึ่งเชื่อว่าเรื่องเหล่านี้ยังมีอีกหลายกรณีที่มีการกระทำที่ไม่ดีเกิดขึ้น แต่ก็ไม่มีใครกล้าออกมาเปิดเผย จึงอยากฝากว่าไม่ต้องอายเพราะเราทำในสิ่งที่ถูกต้อง

“ช่วงแรกๆ ที่ออกมาเรียกร้องสิทธิตรงนี้ยอมรับว่ามีผลต่อเรื่องของการเรียนมากเพราะเรียนไปก็ไม่มีสมาธิ ไม่อยากไปไหน ไม่อยากเจอหน้าใคร อยากอยู่กับบ้านเฉยๆ แต่ทั้งหมดนี้ที่ต้องอออกมาเรียกร้องสิทธิก็เพราะพ่อแม่ปลูกฝังมาตลอดว่าควรทำในสิ่งที่ดี สิ่งที่ถูกต้อง ก็ไม่ควรจะกลัวอะไรอีกต่อไป” น.ส.ปรียาภรณ์กล่าว

น.ส.ปรียาภรณ์กล่าวถึงความคืบหน้าในการดำเนินคดีกับอาจารย์มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ที่คุกคามทางเพศโดยใช้เกรดเป็นตัวล่อว่า ในการดำเนินคดีนั้นตอนนี้คดียังอยู่ในชั้นศาล อยู่ระหว่างการรอสืบพยาน ซึ่งตนก็ปล่อยให้เป็นไปตามเรื่องของกระบวนการยุติธรรม อย่างไรก็ตามอยากฝากถึงเพื่อนนักศึกษาด้วยกันที่กำลังถูกคุกคามในลักษณะนี้ว่าอยากให้มีกำลังใจต่อสู้กับเรื่องนี้ ถ้าเกิดเหตุการณ์ไม่ดีขึ้นก็ขอให้ตั้งสติ และปรึกษากับครอบครัวถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเพื่อหาทางป้องกัน และแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น และอยากให้ออกมาเปิดเผยสิ่งไม่ดีที่เกิดขึ้นจนถึงที่สุดเพื่อสิทธิของตัวเราเอง

นางบงกช ณ สงขลา นักวิชาการการศึกษา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ผู้ซึ่งได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณสาขาสตรีดีเด่นด้านการส่งเสริมสันติภาพใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ กล่าวว่า บทบาทหน้าที่ของตนในพื้นที่คือจะทำอย่างไรที่จะช่วยเหลือ พัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้ทุกคนมีโอกาส และมีความเท่าเทียมกันเกิดขึ้น โดยผ่านโครงการที่เกี่ยวข้องกับหลักการใช้ชีวิตที่มุ่งเน้นในหลักของเศรษฐกิจพอเพียง และมุ่งเน้นคุณธรรม นอกจากนี้สิ่งที่ต้องเร่งทำต่อไปในพื้นที่คือการพยายามพัฒนามิติระหว่างหญิงชาย เพราะทุกคนล้วนแล้วแต่มีคุณค่าในพื้นที่หากมีการร่วมมือกันมากกว่าที่เป็นอยู่ หากดึงพลังความร่วมมือตรงนี้ออกมาได้น่าจะเป็นทางออกในการนำสันติสุขกลับคืนสู่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

“อยากให้คืนภาวะสุนทรียภาวะหญิงชายกลับคืนสู่พื้นที่ อยากให้ทุกคนกลับมาทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต ความเป็นอยู่ การใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุข ทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกัน ไม่มีการแบ่งแยก อะไรที่เป็นทุกข์ก็อยากให้พูดคุยให้เข้าใจ จะได้ไม่ต้องมีเหตุที่ทำให้ต้องเกิดความขัดแย้งกัน นี้เองเป็นสิ่งที่ต้องกลับฟื้นคืนสู่ 3 จังหวัดชายแดนใต้เพื่อความสงบสุขจะได้เกิดตามมา” นางบงกชกล่าว