รับวันสตรีสากล ศูนย์คุณธรรมเผยผลวิจัย ประเทศไทย มี ผอ.หญิง จำนวนน้อย แต่รับรางวัลดีเด่นมากกว่าชาย ชี้ เพราะใช้หลักศาสนาบริหาร แนะ สพฐ.ส่งเสริมผู้บริหารใช้คุณธรรม จริยธรรม บริหารสถานศึกษา พร้อมค้นหาผู้บริหารสตรีต้นแบบ เป็นตัวอย่างสังคม
น.ส.นราทิพย์ พุ่มทรัพย์ ผอ.ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาพลังแผ่นดินเชิงคุณธรรม (ศูนย์คุณธรรม) กล่าวว่า ในวันที่ 8 มี.ค.นี้ จะเป็นวันสตรีสากลทางศูนย์คุณธรรม ได้หยิบยกงานวิจัยเชิงคุณภาพของ วลัยพร ศิริภิรมย์ นักวิชาการ เรื่อง เส้นทางสู่ความสำเร็จในวิชาชีพของผู้บริหารสตรีในสถานศึกษาตามวิถีพุทธ ซึ่งได้ทำการศึกษาจากกลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้บริหารสถานศึกษา 5 คน และผู้ที่เกี่ยวข้อง 29 คน สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ระหว่างเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2551 มานำเสนอเพื่อเป็นแบบอย่างแก่ครูสตรีตามโรงเรียนต่างๆ ทั่วประเทศ และสตรีทั่วไปได้ศึกษา ซึ่งงานวิจัยดังกล่าวได้อ้างอิงถึงข้อมูลของสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) เมื่อปี 2549-2550 ว่า ถึงแม้จะมีสตรีเข้ารับราชการมาก แต่ข้าราชการระดับ 9-11 เป็นเพศชายมากกว่าเพศหญิง โดยผู้บริหารระดับ 11 มีเพศหญิงเพียงร้อยละ 12.12 ขณะที่ ครูเพศหญิง สมัครสอบตำแหน่ง ผอ.โรงเรียนเพียงร้อยละ 1.09 ส่วนเพศชายสมัคร ร้อยละ 7.45 ของจำนวนผู้บริหารทั้งหมด แต่ผู้บริหารหญิงกลับได้รับรางวัลดีเด่นมากกว่าผู้บริหารชาย
น.ส.นราทิพย์ กล่าวต่อไปว่า งานวิจัยได้ระบุอีกว่า แนวทางที่ทำให้ผู้บริหารหญิงประสบความสำเร็จในชีวิต คือ การนำหลักธรรมทางพระพุทธศาสนามาใช้ในการบริหารงาน ได้แก่ มรรคมีองค์ 8 พรหมวิหาร 4 ซื่อสัตย์สุจริต กตัญญู กรุณา เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ อ่อนน้อมถ่อมตน เชื่อ ในเรื่องบาป บุญ คุณ โทษ และเชื่อว่าศีล 5 ทำให้บุคคลเป็นคนดี ส่วนปัจจัยที่ทำสนับสนุนความสำเร็จของวิชาชีพ ได้แก่ สถานภาพการสมรส ระดับการศึกษา การสนับสนุนจากครอบครัว ภาวะผู้นำ ความฉลาดทางอารมณ์ การสนับสนุนจากผู้บังคับบัญชาและใต้บังคับบัญชา ในขณะเดียวกัน งานวิจัยยังระบุว่า ผู้บริหารสตรีส่วนใหญ่ มีความสุขุมเยือกเย็น มีสติในการควบคุมอารมณ์ต่างๆ ยินดีรับฟังเหตุผลของบุคลากรในโรงเรียน รวมทั้งเป็นผู้ถ่ายทอดนโยบายจากต้นสังกัดได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังพบว่า ผู้บริหารสตรีส่วนใหญ่ใช้มรรคมีองค์ 8 อาทิ สัมมาวาจา สัมมาอาชีวะ สัมมาสติ มาบริหารงานจนทำให้งานประสบผลสำเร็จ
“กลุ่มตัวอย่างยังได้มีข้อเสนอแนะว่า หน่วยงานต้นสังกัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมของผู้บริหารสตรีในสถานศึกษา และส่งเสริมให้ใช้หลักมรรคมีองค์ 8 มาประยุกต์ใช้ในการบริหารงาน เพื่อสนับสนุนให้สตรีก้าวขึ้นสู่ความสำเร็จ ตลอดจนควรแสวงหาผู้บริหารสตรีต้นแบบในการประยุกต์ใช้หลักธรรมทางศาสนาที่ตนนับถือมาใช้ในการดำเนินชีวิต และนำมาใช้ในการบริหารงานจนประสบความสำเร็จ นำมาเป็นแบบอย่างแก่สตรีและบุคคลอื่นๆ ต่อไป”ผอ.ศูนย์คุณธรรม กล่าว
น.ส.นราทิพย์ พุ่มทรัพย์ ผอ.ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาพลังแผ่นดินเชิงคุณธรรม (ศูนย์คุณธรรม) กล่าวว่า ในวันที่ 8 มี.ค.นี้ จะเป็นวันสตรีสากลทางศูนย์คุณธรรม ได้หยิบยกงานวิจัยเชิงคุณภาพของ วลัยพร ศิริภิรมย์ นักวิชาการ เรื่อง เส้นทางสู่ความสำเร็จในวิชาชีพของผู้บริหารสตรีในสถานศึกษาตามวิถีพุทธ ซึ่งได้ทำการศึกษาจากกลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้บริหารสถานศึกษา 5 คน และผู้ที่เกี่ยวข้อง 29 คน สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ระหว่างเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2551 มานำเสนอเพื่อเป็นแบบอย่างแก่ครูสตรีตามโรงเรียนต่างๆ ทั่วประเทศ และสตรีทั่วไปได้ศึกษา ซึ่งงานวิจัยดังกล่าวได้อ้างอิงถึงข้อมูลของสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) เมื่อปี 2549-2550 ว่า ถึงแม้จะมีสตรีเข้ารับราชการมาก แต่ข้าราชการระดับ 9-11 เป็นเพศชายมากกว่าเพศหญิง โดยผู้บริหารระดับ 11 มีเพศหญิงเพียงร้อยละ 12.12 ขณะที่ ครูเพศหญิง สมัครสอบตำแหน่ง ผอ.โรงเรียนเพียงร้อยละ 1.09 ส่วนเพศชายสมัคร ร้อยละ 7.45 ของจำนวนผู้บริหารทั้งหมด แต่ผู้บริหารหญิงกลับได้รับรางวัลดีเด่นมากกว่าผู้บริหารชาย
น.ส.นราทิพย์ กล่าวต่อไปว่า งานวิจัยได้ระบุอีกว่า แนวทางที่ทำให้ผู้บริหารหญิงประสบความสำเร็จในชีวิต คือ การนำหลักธรรมทางพระพุทธศาสนามาใช้ในการบริหารงาน ได้แก่ มรรคมีองค์ 8 พรหมวิหาร 4 ซื่อสัตย์สุจริต กตัญญู กรุณา เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ อ่อนน้อมถ่อมตน เชื่อ ในเรื่องบาป บุญ คุณ โทษ และเชื่อว่าศีล 5 ทำให้บุคคลเป็นคนดี ส่วนปัจจัยที่ทำสนับสนุนความสำเร็จของวิชาชีพ ได้แก่ สถานภาพการสมรส ระดับการศึกษา การสนับสนุนจากครอบครัว ภาวะผู้นำ ความฉลาดทางอารมณ์ การสนับสนุนจากผู้บังคับบัญชาและใต้บังคับบัญชา ในขณะเดียวกัน งานวิจัยยังระบุว่า ผู้บริหารสตรีส่วนใหญ่ มีความสุขุมเยือกเย็น มีสติในการควบคุมอารมณ์ต่างๆ ยินดีรับฟังเหตุผลของบุคลากรในโรงเรียน รวมทั้งเป็นผู้ถ่ายทอดนโยบายจากต้นสังกัดได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังพบว่า ผู้บริหารสตรีส่วนใหญ่ใช้มรรคมีองค์ 8 อาทิ สัมมาวาจา สัมมาอาชีวะ สัมมาสติ มาบริหารงานจนทำให้งานประสบผลสำเร็จ
“กลุ่มตัวอย่างยังได้มีข้อเสนอแนะว่า หน่วยงานต้นสังกัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมของผู้บริหารสตรีในสถานศึกษา และส่งเสริมให้ใช้หลักมรรคมีองค์ 8 มาประยุกต์ใช้ในการบริหารงาน เพื่อสนับสนุนให้สตรีก้าวขึ้นสู่ความสำเร็จ ตลอดจนควรแสวงหาผู้บริหารสตรีต้นแบบในการประยุกต์ใช้หลักธรรมทางศาสนาที่ตนนับถือมาใช้ในการดำเนินชีวิต และนำมาใช้ในการบริหารงานจนประสบความสำเร็จ นำมาเป็นแบบอย่างแก่สตรีและบุคคลอื่นๆ ต่อไป”ผอ.ศูนย์คุณธรรม กล่าว