xs
xsm
sm
md
lg

ความสุขของเด็กพิการ ที่ “โรงเรียนศรีสังวาลย์”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คุณหญิงอารยา อรุณานนท์ชัย
โรงเรียนศรีสังวาลย์ มูลนิธิอนุเคราะห์คนพิการในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ก่อตั้งเมื่อปี 2504 เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กที่มีความบกพร่องทางด้านร่างกาย เช่น สมอง แขน ขา ให้มีความรู้ความสามารถในการอยู่ร่วมกับคนปกติได้อย่างมีความสุข โดยจะมีการสอนในรายวิชาสายสามัญ แต่จะเน้นในเรื่องของการฝึกอาชีพ เช่น การวาดภาพระบายสี การทำบาติก โครงการเกษตรเพื่ออาชีพ การเลี้ยงปลา และทำถุงผ้า เพื่อให้เด็กเหล่านี้จบออกไปมีอาชีพเลี้ยงตัวเองได้

“อำนวย สีฟั้วฮาม” ผู้ช่วยผู้อำนวยฝ่ายวิชาการโรงเรียนศรีสังวาลย์  ให้ข้อมูลว่า การจัดการเรียนการสอนจะใช้หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2544 ของกระทรวงศึกษาธิการเช่นเดียวกับเด็กทั่วไป แต่จะมีการปรับหลักสูตรและนำสื่ออิเล็กทรอนิกส์หรือสื่อพิเศษเข้ามาช่วยในการสอน เพื่อให้สามารถเรียนรู้ได้เหมือนกับคนอื่นๆ
อำนวย สีฟั้วฮาม
สำหรับสื่อที่นำมาใช้ก็เป็นสื่อทั่วไป แต่จะมีการปรับขนาดตัวหนังสือให้ใหญ่ขึ้นกว่าปกติ ดินสอทำให้มีความเข้มขึ้น หรือมีการเสริมด้ามให้สามารถจับได้ง่ายขึ้น รวมไปถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่จะทำให้เด็กได้เข้าถึงการเรียนรู้ ส่วนกิจกรรมในการจัดการเรียนการสอนจะเน้นไปที่การบำบัดฟื้นฟูแก้ไขความพิการทางร่างกายเป็นอันดับแรก เพื่อให้เด็กนั้นสามารถช่วยเหลือตัวเองได้เมื่อออกไปข้างนอก แต่ในขณะที่ทำการบำบัดรักษานั้นต้องมีการเรียนการสอนควบคู่ไปด้วยจึงจะทำให้เด็กสามารถเรียนรู้ได้เหมือนกับเด็กทั่วๆ ไป

นอกจากนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ยังได้พระราชทานโครงการเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อให้เด็กได้ใช้คอมพิวเตอร์มาใช้ในการเรียนการสอนเพื่อเป็นประโยชน์แก่ตัวเด็กๆ อีกด้วย

“การนำสื่ออิเล็กทรอนิกส์จำพวกคอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยสอนและการสื่อสาร ทำให้เด็กได้เรียนรู้ได้เร็วขึ้น แต่ก็จะมีเด็กอยู่จำนวนหนึ่งที่มีการตอบสนองช้า ซึ่งตรงนี้ก็ต้องให้โอกาสและระยะเวลาในการเรียนรู้ของเด็กด้วย” คุณหญิงอารยา อรุณานนท์ชัย ประธานมูลนิธิ อนุเคราะห์คนพิการ ในพระราชูปถัมภ์ฯ ให้ข้อมูลเสริม
ครูอลิสาสอนน้องโดยใช้แผ่นกระดานในการสื่อสาร
ด้าน “อลิสา สุวรรณรัตน์”ผู้ช่วยนักวิจัยศูนย์เทคโนโลยีและคอมพิวเตอร์(NTEC) อธิบายเพิ่มเติมว่า โครงการตามพระราชดำริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มีประโยชน์อย่างมากสำหรับนักเรียนที่มีความพิการทางด้านร่างกายหรือสมองพิการ (Cerebral palsy) คือ จะมีปัญหาในเรื่องของการควบคุมทางด้านร่างกาย รวมไปถึงปัญหาในการพูดด้วย ซึ่งจะพบว่ามีเด็กอยู่หลายกลุ่มที่มีปัญหาในเรื่องของเปล่งเสียง คือจะพูดไม่ชัดหรือพูดไม่ได้เลย

ทั้งนี้ ได้จัดทำระบบคอมพิวเตอร์เพื่อช่วยในการสื่อสาร ขณะเดียวกัน ก็มีการใช้สัญลักษณ์เข้ามาเสริม โดยจัดทำแผ่นกระดานเล็กๆ หรือที่เรียกว่า แผ่นกระดานสื่อสาร ซึ่งภายในกระดานก็จะมีคำศัพท์ของแต่ละหมวดหมู่ โดยจะต้องมีการประเมินถึงสถานการณ์ในการสื่อสารก่อนว่าเด็กจะสื่อสารอะไร และคอยเติมคำศัพท์ใหม่ๆให้กับเด็กอยู่เรื่อยตามสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งแผ่นกระดานนี้สามารถนำไปใช้ได้ในชีวิตประจำวันได้อีกด้วย
แผ่นกระดานสื่อสาร
อลิสา ระบุเพิ่มว่า เครื่องมือที่ใช้สื่อสาร ทำให้เด็กมีการสื่อสารดีขึ้นสามารถโต้ตอบกับผู้อื่นได้ อีกทั้งการเรียนของเด็กก็มีการพัฒนาการที่ดีขึ้น จึงทำให้ครูมีความเข้าใจเด็กว่าต้องการอะไร แต่อุปสรรคที่พบบ่อยก็จะเป็นในเรื่องของความต่อเนื่องในการสื่อสาร เนื่องจากเด็กบางคนมีอาการเกร็ง ดังนั้นต้องทำความเข้าใจกับคนที่ดูแลว่าการสื่อสารมีความสำคัญในการช่วยเหลือเด็กอย่างไร   

นอกจากนี้ ทางโรงเรียนยังมีกิจกรรมต่างๆ เพื่อช่วยฟื้นฟูเด็กเหล่านี้ให้มีพัฒนาการที่ดีขึ้นอีกด้วย เช่น โครงการธนาคารขยะหรือการทำเทียน
 อาจารย์จอมขวัญ เครือหอม
“จิรัชยา” พิชัยฤกษ์"อาจารย์ดูแลโครงการธนาคารขยะ ให้ข้อมูลว่า จะให้เด็กนำขยะที่เหลือใช้มาทำเป็นกระเป๋า โดยจะให้ออกแบบว่าในการทำกระเป๋านั้นต้องมีขั้นตอนในการทำอย่างไร ตรงนี้เด็กจะได้ฝึกทักษะกระบวนการคิดทางคณิตศาสตร์และใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ รวมไปถึงได้สร้างความสามัคคี นอกจากนี้แล้วเด็กยังรู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดภาวะโลกร้อน

ส่วนวันเพ็ญ ภู่มาลา อาจารย์ผู้ดูแลซุ้มกลุ่มสาระวิทยาศาสตร์ ระบุว่า การทำเทียนเจล เป็นการสอนให้ฝึกปฏิบัติจริง ซึ่งจะทำให้เด็กเรียนรู้ได้ดีกว่าการเรียนในหนังสือ อีกทั้งเป็นการฝึกให้เด็กมีประสบการณ์ในวิชาชีพเพื่อเป็นการเสริมรายได้ ซึ่งจากการทำกิจกรรมตรงนี้ทำให้เด็กมีการพัฒนาในความกระตือรือร้นมากขึ้น 

และปิดท้ายกันที่ “จอมขวัญ เครือหอม” อาจารย์ที่ได้รับรางวัลครูดีศรีสังวาลย์ ประจำปีการศึกษา 2551 ที่ให้ความเห็นโดนใจว่า เด็กเหล่านี้ส่วนใหญ่น่ารักและเหมือนกับคนทั่วๆ ไป ดังนั้น อยากจะให้สังคมช่วยเหลือและเห็นใจในเวลาที่ไปเรียนร่วมกับเด็กปกติทั่วไป อย่าไปล้อเลียน เพราะเด็กเหล่านี้ก็เป็นคนเหมือนกับเราเพียงแต่เขามีความผิดปกติทางด้านร่างกายและสุขภาพเท่านั้นเอง
กำลังโหลดความคิดเห็น