xs
xsm
sm
md
lg

“โย-ตือ” จูปปากเคลียร์ข่าวเกาเหลา ด้านโยรับผิดเพราะพูดไม่ชัดเจน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“โย-ตือ” จูงมือเคลียร์ข่าวเกาเหลา ลั่นเป็นความเข้าใจผิด ด้านโยขอโทษที่พูดไม่ชัดเจน ยันไม่เคยพูดเ้หน็บแนมเรื่องไม่ป้อนงาน บอกเข้าใจดีเพราะอยู่วงการมานาน ขณะที่ตือไม่ติดใจ เชื่อทำงานร่วมกันมานาน นางแบบสาวไม่มีนิสัยแบบนั้น ก่อนปฏิเสธสร้างข่าวเกาเหลาเพื่อโปรโมทงาน

หลังจากที่ออแกไนเซอร์ชื่อดัง “ตือ สมบัษร ถิระสาโรช” ออกมาฉะนางแบบสาว “โย ศวดี หัสดีวิจิตร” แบบไม่สบอารมณ์ กรณีที่นางแบบสาวไปให้ข่าวว่า บริษัทของตนงานหดหายจึงไม่มีงานป้อนนางแบบ ทำให้สาวโยที่เป็นนางแบบขาประจำได้รับผลกระทบ งานลดน้อยลงไปด้วย ทำเอาออแกไนเซอร์คนดังเคืองจัด ประกาศขอเคลียร์กับสาวโยกลางงานเปิดตัวผ้าห่ม Omazz ที่ สยามพารากอน ต่อหน้าสื่อมวลชน ซึ่งงานนี้ทั้งคู่ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ พร้อมกอดโชว์ว่าได้เคลียร์กันเข้าใจแล้ว เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นการสื่อสารไม่ตรงกันเท่านั้น

โย : “เรื่องแรกมันเป็นเรื่องคำพูด โยต้องยอมรับว่าคำพูดของโยมันไม่กระจ่างมันเป็นความผิดตรงนั้น เป็นคำพูดที่ไม่ค่อยชัดเจนในการให้สัมภาษณ์ในงานแฟชั่นโชว์งานหนึ่งนะคะ คือคำถามก็คืองานของโยปีนี้เป็นยังไงคือ ด้วยเวลาในการให้สัมภาษณ์ที่เราใช้เวลารวดเร็วในการคุย พอเห็นข่าวที่ออกไปก็ตกใจว่ามันไม่ใช่อย่างที่เราคิดเลย วันนี้ก็เลยมาทำงานให้ป้าด้วยความเต็มใจ ทีแรกบอกตรงๆ ว่าโยไม่ได้รู้สึกว่าต้องขอโทษ แต่เรารู้สึกว่าเราเกรงใจบุคคลที่ให้ความสำคัญกับเราเสมอ คือเราทำงานด้วยตั้งแต่เด็กมาจนโต”

“โยว่ารวมๆ นะ ที่รวมแล้วเป็นประโยคที่ทำให้หลายๆ คนฟังแล้วเป็นเหมือนโยน้อยใจ โยเหน็บแนม ซึ่งเรื่องนี้บอกตรงๆ ว่ามันไม่ใช่นิสัยโยเลย แต่การให้สัมภาษณ์วันนั้นคงเป็นการถามคำถามในเวลาเดียวกัน คือข่าวที่ออกมาว่าพี่ตือแบนโย ซึ่งมันไม่ใช่ความจริง กรณีนี้ทำให้โยต้องกลับมาทบทวน คือคงจะไม่ให้สัมภาษณ์อะไรรวดเร็วถ้าไม่มีเวลา เพราะโยเป็นคนพูดวนไปวนมาทำให้เข้าใจคนเดียว”

ตือ : “สงสัยวันนั้นคงทำงานแล้วเหนื่อย รีบตอบ แต่ก็ไม่ได้มีอะไรนะ เพราะโยกับพี่ตือก็ทำงานมาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว พี่ตือไม่ถืออะไรอยู่แล้ว เพราะพี่ตือคิดว่ามันน่าจะเป็นการเข้าใจผิดกันระหว่างโยกับนักข่าว หรือโยรีบพูดแล้วพี่ๆ เขาเอาไปเขียน โดยส่วนตัวแล้วก็ยังดูแลกันอยู่เหมือนเดิม ครั้งแรกที่เห็นข่าวก็ตกใจนิดหนึ่ง ก็บอกน้องๆ ที่ออฟฟิศว่าลองโทรไปถามโยสิว่ามันเกิดอะไรขึ้นแค่นั้นเอง พอมาเจออีกทีก็เห็นข่าวที่เค้าออกมาขอโทษเราแล้ว ก็รู้สึกว่าเออโยมันเก่งเนอะไวดี จริงๆ เราสองคนก็ไม่ได้มีอะไรอยู่แล้ว ก็ยังทำงานกันปกติ”

ออแกไนเซอร์ชื่อดังยืนยันว่าไม่ได้แบนโย
ตือ : “ไม่มีนะ แต่อย่างที่พี่บอกว่าเวลาการคัดเลือกนางแบบมันขึ้นอยู่กับสินค้า สินค้าไหนเหมาะสมกับเขา เหมาะสมกับนางแบบคนไหนหรือดาราคนไหนที่เคยมาร่วมงานกับเรา นางแบบก็เหมือนคนในครอบครัวเราอยู่แล้ว คือถามว่าพี่จะมาเลือกที่รักมักที่ชังไม่มี มาอยู่กับเราใหม่ๆ เราก็ต้องดูแลกัน แต่กับโยเราถือว่าเขาโตแล้ว ก็ปล่อยให้เขาไปทำงานเองได้ แต่ว่าคนที่เด็กเราก็ต้องดูแลกัน แต่ถามว่า ณ วันนี้ถ้ายังมีงานเราก็ยังเรียกกันมาทำงานอยู่ พอเขาเจอเราเขาก็เข้ามากอดมาขอโทษเรา เพราะเราก็ไม่ได้อะไรเพราะเราก็รักเอ็นดูเขาเหมือนลูกหลานอยู่แล้ว เราก็มีอยู่กันแค่นี้ ตื่นมาก็เจอกัน เจอนางแบบคนนั้นคนนี้”

โย : “เรียกว่าป้าเป็นคนแรกที่เอาโยมาเดิน ป้าเขาเห็นโยตั้งแต่โยเป็นเด็ก เพราะฉะนั้นไม่อยากให้ข่าวแบบนี้ออกมาทำให้หลายๆ คนคิดว่าเรามีปัญหากัน โยค่อนข้างซีเรียสที่ข่าวออกมาแบบนี้ ไม่อยากให้ป้าต้องกลุ้มใจกับเรื่องแบบนี้”

ตือยืนยันนางแบบสาวทำงานแบบมืออาชีพ ไม่เคยเรื่องมาก
ตือ : “ในการทำงานของโยอันนี้พี่บอกได้เลยพี่ไม่ได้เข้าข้างเขานะ พี่ตือพูดด้วยความจริงจะบอกว่าเขาไม่เคยเรื่องมากเลยในการทำงาน เวลาทำงานโยไม่เคยปฏิเสธเลย ว่าอันนี้หนูไม่ใส่ อันนี้ๆๆ หนูไม่ทำนะเขาไม่เคยไม่เคยเรื่องมาก เขาเป็นคนที่ถ้ารับงานแล้วเขาก็ทำ ถ้าเขามาไม่ได้หรือยังไงเขาก็จะไม่รับ เพราะว่าเขามาไม่ทัน กลัวเราเสีย อันนี้ก็คือสิ่งที่เราก็เชื่อใจกันมาตลอด ถามว่าการทำงานเป็นมืออาชีพ เขามีอยู่แล้วไม่งั้นเขาคงไม่อยู่มาถึงทุกวันนี้หรืออยู่มาเป็นสิบปีอย่างนี้ใช่มั้ยคะ”

โย : “การที่พี่ตือให้งานโยน้อยลง ถามว่าน้อยใจมั้ย จริงๆ ก็คงไม่ เพราะเราก็ต้องยอมรับว่าเราอยู่ในวงการมานาน โยก็พยายามคงคุณภาพงานไว้ ป้าตือเองก็สอนโยตลอด เหมือนที่ป้าพูดวันนี้ เขาไม่ได้สอนโยคนเดียว ก็ต้องยอมรับว่างานทุกงานกับพี่ตืองานออกมาดีและสวย ก็ต้องขอบคุณที่พี่ตือเข้าใจว่าโยไม่ได้ตั้งใจที่จะทำให้มันเกิดขึ้น แล้วเราก็เป็นเด็ก อะไรที่โยรู้สึกว่ามันไม่ถูกต้องโยก็ต้องแก้ไข โยต้องขอบคุณพี่ตือสำหรับครั้งนี้เพราะพี่ตือก็เหมือนคุณแม่คนที่สองสำหรับโยในการทำงาน”

ยันไม่ได้ปล่อยข่าวเพื่อโปรโมทกันและกัน ชี้ให้การทำงานพิสูจน์จะดีกว่า
ตือ : “พูดจริงๆ เลยนะ พูดต่อหน้าพี่ๆ สื่อมวลชนวันนี้เลย ไม่เคยคิดอะไรเลย พอเห็นข่าวก็รู้สึกว่าอืม..โยมันคงต้องรีบทำอะไรสักอย่าง คือบางทีเห็นข่าวที่โยให้สัมภาษณ์อะไรเนี่ย ฉันว่าเธอนี่ต้องนิ่งๆ หน่อยละนะ บางทีที่มีข่าวไม่เกี่ยวกับพี่ก็ยังโทรไปเตือนเขา ถ้าเป็นการโปรโมทพี่โปรโมทมาเป็นสิบกว่าปีแล้ว (หัวเราะ) นี่พูดตรงๆ นะ เราก็ไม่รู้จะโปรโมทอะไร แค่เราคิดว่าเราทำงานให้ดีที่สุด ลูกค้าได้งานจากเราดีที่สุด เราก็ทำทุกอย่างให้มันดี พี่ตือก็คิดแค่นี้ ถ้าจะหาชื่อเสียงจากการทำงาน เอาการทำงานมาพิสูจน์จะดีกว่า แล้วโยก็ทำงานของเค้าให้ดีที่สุด มันก็ทำให้วินๆ ด้วยกันทั้งคู่”




กำลังโหลดความคิดเห็น