กยศ.คาดผู้กู้ กยศ.เพิ่มขึ้นทำยอดผู้กู้เกือบถึงล้านราย ต้องใช้งบประมาณ 4 หมื่นล้านบาท หลังรัฐบาลมีนโยบายขยายฐานผู้กู้ เปิดให้นักศึกษายื่นคำขอกู้ผ่านอินเตอร์เน็ต ตั้งแต่ 15 ก.พ.-10 มิ.ย.โดยให้ยื่นคำร้องเป็นรายบุคคลโดยไม่ต้องรอกลุ่ม
นพ.ธาดา มาร์ติน ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) กล่าวภายหลังการประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการระบบ e-Studentlone ประจำปี 2552 เมื่อวันที่ 12 ก.พ. ที่โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ว่า การให้กู้ยืมเงินในปีการศึกษา 2552 ทาง กยศ. เปิดให้นักศึกษาที่มีรหัสผ่านแล้ว ยื่นแบบคำขอกู้ยืมผ่านระบบ e-Studentlone ทางเว็บไซต์ www.studentloan.or.th ตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ.เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 10 มิ.ย. ซึ่งจะมีการพิจารณาคัดเลือกสำหรับผู้ที่ยื่นแบบคำร้องเข้ามาก่อนเป็นรายบุคคล ไม่ต้องรอเป็นกลุ่ม ซึ่งจะทำให้นักเรียน นักศึกษา สามารถทราบผลได้เร็วขึ้น โดยสถานศึกษาจะต้องพิจารณาคัดเลือกให้อยู่ในจำนวนจัดสรรตามที่ กยศ.กำหนดเท่านั้น โดยหลังจากนี้ภายใน 2 สัปดาห์สถานศึกษาแต่ละแห่งจะทราบจำนวนที่จะได้รับการจัดสรร
ทั้งนี้ นักเรียน นักศึกษาจะสามารถเบิก ถอนเงินค่าครองชีพงวดแรกได้ภายใน 3 วัน หลังจากที่สถานศึกษายืนยันข้อมูลผ่านระบบแล้ว และงวดต่อไปจะได้รับเงินในแต่ละเดือนตรงกับวันที่ได้รับเงินโอนวันแรก และสถานศึกษาจะได้รับเงินค่าเล่าเรียนภายใน 15 วัน นับจากวันที่สถานศึกษาจัดส่งสัญญากู้ยืมถึง บมจ.ธนาคารกรุงไทย ซึ่งหากทางผู้กู้ และสถานศึกษาดำเนินการถูกต้องตามขั้นตอน และวิธีการของระบบ ทาง กยศ.พร้อมจะโอนเงินให้ทันที
นพ.ธาดา กล่าวอีกว่า อยากให้สถานศึกษาแต่ละแห่งประกาศรายชื่อผู้ที่สิทธิกู้เป็นระยะๆ ซึ่งวันที่ 15 มิ.ย. จะเป็นวันสุดท้ายในการประกาศผล จากนั้นในวันที่ 30 มิ.ย.เป็นวันสุดท้ายที่สถานศึกษาจะยืนยันข้อมูลผ่านระบบ และสถานศึกษาจะต้องยืนยัน และส่งสัญญากู้ยืมไปยังธนาคารกรุงไทยภายในวันที่ 15 ก.ค. ซึ่งหมายความว่าภายในเดือน ก.ค.ทุกอย่างจะเรียบร้อย
อย่างไรก็ตาม การที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้ขยายฐานผู้กู้ และเพิ่มวงเงินกู้ยืมทั้งหมดเป็นประมาณ 36,000 ล้านบาท จะทำให้ในปีการศึกษา 2552 จะมียอดผู้กู้ 981,520 ราย ซึ่งจะส่งผลให้งบประมาณประจำปี 2553 จะต้องเพิ่มสูงขึ้นด้วยโดยคาดว่าจะถึงประมาณ 40,000 ล้านบาท ซึ่งตนได้หารือกับทางสำนักงบประมาณ เพื่อหาแนวทางรองรับแล้ว
ส่วนภาวะเศรษฐกิจตกต่ำที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนั้น นพ.ธาดา กล่าวว่า คงจะส่งผลกระทบต่อการชำระเงินคืน กยศ.ของนักศึกษาไม่มากนัก ซึ่งคาดว่าไม่น่าจะเกิน 10% ซึ่งในปี 2552 มียอดนักศึกษาที่จะต้องชำระเงินคืนกยศ. ทั้งหมด 2 ล้านคน ซึ่งจำนวนนี้เป็นผู้ที่ครบกำหนดชำระคืนในปีนี้เป็นปีแรก 4 แสนคน
สำหรับกรณีที่นางสาวนริศนา ชวาลตันพิพัทธ์ รมช.ศึกษาธิการ ติงว่างบประมาณที่ กยศ.ใช้ในการติดตามหนี้จำนวน 500 ล้านบาทในแต่ละปีมากเกินไปนั้น ผู้จัดการ กยศ. กล่าวว่า กยศ.พร้อมให้ติดตามตรวจสอบ เพราะดำเนินการทุกอย่างโปร่งใส และงบประมาณดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดีกับลูกหนี้ค้างชำระ ซึ่ง กยศ.ต้องเตรียมงบประมาณสำหรับเรื่องนี้ไว้ด้วยทุกปี โดยต้องเสียค่าใช้จ่ายในการฟ้องร้องดำเนินคดี 5,500 บาท/คดี โดยปีที่ผ่านมา กยศ.ต้องฟ้องร้องลูกหนี้ถึง 90,000 ราย จึงต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก
