xs
xsm
sm
md
lg

“สุขุมพันธุ์” จำใจจ่ายงวดที่ 5 รถดับเพลิงฉาว เผยยังไม่ฟ้องรอ “อสส.-ป.ป.ช.” สรุป

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร
“สุขุมพันธุ์” อดทนยังไม่ฟ้องศาลแพ่งยกเลิกสัญญาจัดซื้อรถดับเพลิง บอกขอรอคณะทำงานร่วม อสส-ป.ป.ช.ได้ข้อสรุปก่อนตัดสินใจอีกครั้ง พร้อมปล่อยให้ตัดงวดที่ 5 แต่ยันทำดีที่สุดแล้ว

หลังจากสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) ได้มีหนังสือด่วนที่สุด ที่ อส 0022/016 ลงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2552 เรื่องกรณีรถและเรือดับเพลิงฉาวถึงกรุงเทพมหานคร โดยมีความเห็นสรุปได้ว่า ขณะนี้กทม.ยังไม่สมควรที่จะฟ้องแพ่งยกเลิกสัญญากับ บ.สไตเออร์ฯ พร้อมทั้งตั้งคณะทำงานร่วมระหว่างผู้แทนจากสำนักงานอัยการสูงสุด และคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อหาข้อยุติในประเด็นดังกล่าวนั้น

วันนี้ (6 ก.พ.) ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า เมื่อตนได้รับหนังสือดังกล่าวก็ต้องมาพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไรเพราะกทม.เป็นหน่วยงานรัฐต้องรับฟังข้อคิดเห็นจาก อสส.ที่ระบุในหนังสือดังกล่าวนั้น และจำเป็นใช้เวลาในการพิจารณาประเด็นสำคัญ อีก 3 ประเด็น คือ

1. ในการพิจารณาพิพากษาคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา ศาลจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคดีส่วนอาญา ทั้งนี้ เป็นไปตามบทบัญญัติของมาตรา 46 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา

2. หาก กทม.จะยืนยันให้สำนักงานอัยการสูงสุดดำเนินการต่อไปโดยไม่รอผลการพิจารณาของคณะทำงานร่วมระหว่างผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุด และผู้แทน ป.ป.ช. อาจจะเกิดความเสียหายกับกทม.ได้ในภายหลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากผลคำวินิจฉัยของคณะทำงานร่วมฯ มีความเห็นต่างจากที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้เคยวินิจฉัยไว้ ดังนั้นจึงต้องรอฟังข้อสรุปของคณะทำงานร่วมก่อน

3. ตามหลักของการซื้อขาย เมื่อธนาคารหักเงินจากบัญชีเงินฝากของกทม.เพื่อชำระตามL/C หากปรากฏข้อยุติว่า สัญญาไม่มีผลตามกฎหมาย กทม.สามารถฟ้องเรียกเงินคืนได้ รวมทั้งไล่เบี้ยเอาจากผู้ต้องรับผิดชอบอีกด้วย ดังนั้น การจ่ายเงินงวดที่ 5 ในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ นี้ ไม่ได้เป็นการสูญเปล่าไม่ว่าคณะทำงานร่วมฯจะวินิจฉัยออกมาในทิศทางใด

“ผมขอยืนยันว่าผมยังมีเจตนาที่จะดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อกทม.และพี่น้องประชาชนชาว กทม. แต่ขณะเดียวกันเมื่อสำนักงานอัยการสูงสุดมีหนังสือมาซึ่งมีข้อกฎหมายที่ต้องพิจารณาประกอบควบคู่ผมจึงจำเป็นต้องชะลอการตัดสินใจ ผมเสียใจมากแต่ต้องทำใจ แต่ก็ถือว่าได้ทำทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำได้แล้ว และจะนำเรื่องนี้พิจารณาอีกครั้งเมื่อได้ข้อยุติจากคณะทำงานร่วมฯ โดยหวังว่าจะได้ข้อสรุปก่อนการจ่ายเงินงวดที่ 6 ในเดือนสิงหาคม 2552 ทั้งนี้กทม.ยื่นฟ้องเองได้แต่ในฐานะที่เราเป็นหน่วยงานของรัฐต้องให้สำนักงานอัยการสูงสุดเป็นผู้ดำเนินการมิฉะนั้นอาจเกิดปัญหาในภายภาคหน้าได้” ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ผู้ว่าฯ จนมุมที่ต้องจ่ายค่างวดแล้วหรือไม่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า “เมื่อวันก่อนที่ผมทำหนังสือถึงธนาคารกรุงไทยให้ยับยั้งการจ่ายเงิน 750 ล้านบาทแต่ไม่ได้คาดหวัง ผมบอกว่าผมพิจารณาดูทุกสิ่งทุกอย่างด้วยความรอบคอบใจผมต้องฝืนให้ได้หากกฎหมายไม่เอื้ออำนวย ผมไม่ใช่คนบ้าบิ่นเพียงแต่รอยยิ้มหายไปเล็กน้อย เซ็งเล็กน้อยที่วันที่ 10 ก.พ. นี้ต้องจ่ายเงินไปตามสัญญาแอลซี แต่ กทม.จะไม่ลงนามในฎีกาจ่ายเงิน แต่หากสัญญาแอลซีบังคับธนาคารต้องหักเงินจากบัญชีกทม.โดยอัตโนมัติก็ไม่เป็นไร เพราะถือว่าทำดีที่สุดแล้วแต่ยืนยันว่ายังมีเจตนาจะดำเนินการทุกวิธีทางไม่ให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชนผู้เสียภาษี และก็ต้องฟังความเห็นจาก อสส.ในฐานะทนายของแผ่นดิน ”

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่าในที่สุดกทม.จะฟ้องเลิกสัญญาจัดซื้อรถได้เพราะเชื่อมั่นในการพิจารณาของป.ป.ช.ที่เห็นว่าสัญญา AOU จัดซื้อครั้งนี้เป็นโมฆะเพราะตามอนุสัญญาฯ ต้องลงนามโดยนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเท่านั้นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยไม่มีอำนาจลงนาม จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ส่วนที่อัยการแย้งว่าที่ประชุมครม. ที่มีนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศในขณะนั้นรับทราบเรื่องสัญญา AOU ดังกล่าวหลายครั้งซึ่งน่าจะส่งผลให้สัญญา AOU สมบูรณ์ แต่ท้ายที่สุดแม้คณะทำงานร่วมฯ จะเห็นว่าสัญญามีผลสมบูรณ์ แต่ กทม.ก็สามารถเอาผิดฟ้องยกเลิกสัญญาได้หากที่มาที่ไปของสัญญาไม่ชอบมาพากล เช่น มีการทุจริตการจัดซื้อก็ยังฟ้องได้

ทั้งนี้ ตนยังยืนยันหากจะฟ้องเลิกสัญญาจะไม่มีการตั้งคณะทำงานเจรจาไกล่เกลี่ยตามหอการค้านานาชาติปารีส ที่ประเทศฝรั่งเศสเพื่อดำเนินการแต่งตั้งคณะอนุญาโตตุลาการตามที่อัยการแนะนำเพราะมีค่าใช้จ่ายสูงมาก และแก้ไขปัญหาได้ช้ามาก ควรฟ้องศาลทันทีกทม.ในฐานะผู้เสียหายมีสิทธิ์ตัดสินใจดำเนินการที่เห็นสมควร

ผู้สื่อข่าวถามว่า ดูเหมือนผู้ว่าฯจะมั่นใจในตัวป.ป.ช. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า นักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งมีสิทธิไม่มั่นใจใน ป.ป.ช.หรือ ทั้งนี้ ตนจะทำหนังสือขอบคุณสำนักงานอัยการสูงสุด และขอให้ช่วยพิจารณาเรื่องดังกล่าวโดยด่วน และจะแจ้งไปทางคณะกรรมการป.ป.ช.ว่าทางเราได้ทำตามที่ ป.ป.ช.แนะนำแต่ว่าได้เกิดอุปสรรคอย่างไร นอกจากนี้ ตนก็จะตั้งคณะทำงานมาศึกษาข้อกฎหมายเกี่ยวกับรถดับเพลิงอีกด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น