ชาวพุทธสอบตกไม่เข้าวัดปฏิบัติกิจกรรมทางศาสนา ไม่ผ่านประเมิน จปฐ.รับมาฆบูชา มีเพียง 9 จว.ที่เข้าวัดเต็มร้อย ด้าน วธ.รณรงค์ 4 มุมเมืองชวน ปชช.ทำบุญรับวันเพ็ญเดือนสาม ขณะที่ “ธีระ” เตือนเด็กเข้าวัดช่วยให้มีสติยั้งใจก่อนวาเลนไทน์
วันนี้ (5 ก.พ.) เวลา 09.30 น.ที่กระทรวงวัฒนธรรม นายธีระ สลักเพชร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เป็นประธานปล่อยขบวนรถรณรงค์สัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนาเนื่องในวันมาฆบูชา เพื่อเชิญชวนให้เยาวชน และประชาชนลด ละ เลิก อบายมุขทุกประเภท และร่วมทำความดีระหว่างวันที่ 5-9 ก.พ.2552 โดยจัดขบวนรถรณรงค์จำนวน 4 เส้นทาง ไปตามแหล่งชุมชนห้างสรรพสินค้า และที่ทำการสื่อมวลชนในเขต กทม.โดยมีพุทธศาสนิกชน ข้าราชการ ศิลปินเข้าร่วม ทั้งนี้ได้จัดทำบัตรอวยพรวันมาฆบูชา พับแผ่น หนังสือมาฆบูชา และหนังสือธรรมนูญชีวิตเพื่อแจกจ่ายให้กับพุทธศาสนิกชนด้วย
นายธีระ กล่าวภายหลังเปิดงานว่า วันมาฆบูชา เป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา คือ เป็นวันที่พระสงฆ์มาประชุมพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย ความหมายของวันนี้ คือ การละความชั่ว ทำความดี การรณรงค์ปีนี้จึงมีความเข้มข้น และเน้นไปที่เด็กและเยาวชน ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับอบายมุข ทำแต่ความดี ที่สำคัญ เป็นการเตือนสติให้กับเด็กก่อนจะถึงวันวาเลนไทน์ ว่า จะต้องใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง ในการประพฤติปฏิบัติตัวอยู่ในครรลองคลองธรรมที่ดีเพราะวันวาเลนไทน์ เป็นวันที่มอบความรักที่ดีต่อกัน ไม่ใช่เป็นวันเสียตัว อยากให้เที่ยววาเลนไทน์อย่างมีสิติ
“ปีนี้นับเป็นโชคดีที่วันมาฆบูชา ตรงกับวันที่ 9 ก.พ.และมาถึงก่อนวันวาเลนไทน์เป็นโอกาสที่ผู้ปกครองจะพาลูกหลานเยาวชนเข้าวัด ฟังธรรม ตนเชื่อว่าการทำบุญและการปฏิบัติธรรมจะช่วยให้เยาวชนมีสติ และยับยั้งชั่งใจได้มากขึ้นในวันวาเลนไทน์ เพราะเป็นที่น่าสังเกตว่าวัยรุ่นในปัจจุบันให้ความสำคัญของวันวาเลนไทน์มากกว่าวันมาฆบูชา จึงเป็นหน้าที่ของภาคีทุกภาคส่วนกระตุ้นรณรงค์ให้เยาชนเห็นความสำคัญและเข้าร่วมกิจกรรมในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา” รมว.วัฒนธรรม กล่าว
นายสด แดงเอียด อธิบดีกรมการศาสนา (ศน.) เปิดเผยว่า ปีนี้ ศน.ได้เปิดศูนย์จริยศึกษาในงานวันมาฆบูชาขึ้น ระหว่างวันที่ 5 – 9 ก.พ.แบ่งเป็นส่วนกลาง และภูมิภาค โดยส่วนกลางจัด ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร วัดยานนาวา และวัดต่างๆ ในเขต กทม.ส่วนภูมิภาค สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดร่วมกับวัดและหน่วยงานต่างๆ จัดขึ้นทั่วประเทศ โดยมุ่งเน้นให้เด็กและเยาวชนเข้าร่วมกิจกรรมเป็นการปลูกฝังศีลธรรม จริยธรรมให้เด็ก มีการสวดประกวดสวดสรภัญญะ ประกวดบรรยายธรรม ร้องเพลงธรรมะ แข่งขันตอบปัญหาธรรมะ และการแสดงตนเป็นพุทธมามกะ โดยบริเวณรอบมณฑลพิธีท้องสนามหลวงจะมีหน่วยงาน และองค์กรเครือข่ายพระพุทธศาสนา ร่วมจัดกิจกรรม และนิทรรศการวันมาฆบูชาเต็มพื้นที่ ขณะเดียวกัน มีประชาชน นักเรียน นักศึกษา เข้าร่วมกิจกรรมกันอย่างคับคั่ง
ขณะที่ นายกฤษศญพงษ์ ศิริ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาคุณธรรมจริยธรรม เปิดเผยข้อมูลสรุปผลการจัดเก็บข้อมูลความจำเป็นพื้นฐาน รวมทั้งประเทศ พ.ศ. 2551 ของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งมีตัวชี้วัดความจำเป็นพื้นฐาน (จปฐ.) ของคนไทย 42 ข้อ ซึ่งความจำเป็นขั้นพื้นฐานข้อที่ 35 กำหนดไว้ว่า คนอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไปปฏิบัติกิจกรรมศาสนาจากผลสำรวจคนไทยทั้งประเทศจำนวน 7,726,308 ครัวเรือน ผ่านเกณฑ์ 7,525,115 ครัวเรือน ไม่ผ่านเกณฑ์ 201,193 ครัวเรือน คิดเป็น 97.40 % จาก 100 % เต็ม แสดงว่า คนไทยยังสอบตกในเรื่องของการปฏิบัติกิจกรรมทางศาสนา
และเมื่อเจาะลึกลงไปในแต่ละศาสนาแล้ว พบว่า ศาสนาอิสลามมีการละหมาดทุกวัน ศาสนาคริสต์มีการเข้าโบสถ์ทุกวันอาทิตย์ แต่ศาสนาพุทธถือว่าไม่ผ่านการประเมิน เพราะขาดการเข้าวัด และฟังธรรม ทั้งนี้ จำนวนจังหวัดที่ผ่านเกณฑ์ จปฐ. คนในครัวเรือนที่มีอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไปทุกคนได้ปฏิบัติกิจกรรมทางศาสนาอย่างใดอย่างหนึ่งอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ในปี 2551 จากการสำรวจทั้งหมด 75 จังหวัด มีจังหวัดที่ผ่าน 100% คือ จังหวัดนนทบุรี อ่างทอง กำแพงเพชร มหาสารคาม ร้อยเอ็ด นครพนม ยโสธร บุรีรัมย์ และนครศรีธรรมราช
