“กอศ.” จัดประชุมวิชาการเกษตรระดับชาติ 9-12 ก.พ.นี้ ดันเด็กอาชีวะเรียนรู้เกษตรชุมชน เล็งพัฒนาทักษะ นศ.ให้ก้าวหน้าในวิชาชีพเกษตรกรรม ยกระดับเกษตรกรก้าวสู่อินเตอร์
วันนี้ (4 ก.พ.) นางสาวนริศรา ชวาลตันพิพัทธ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.) ร่วมกับ นายเฉลียว อยู่สีมารักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (เลขาธิการ กอศ.) แถลงข่าวเปิดงานการจัดประชุมวิชาการระดับชาติองค์การเกษตรในอนาคตแห่งประเทศไทย (อกท.)ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ครั้งที่ 30 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 9-12 กุมภาพันธ์ 2552 ณ วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีชลบุรี อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
นางสาวนริศรา กล่าวว่า เกษตรกรรมถือเป็นอาชีพที่มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ แต่ที่ผ่านมาอาชีพเกษตรกรรมเป็นอาชีพที่เหนื่อยยาก และมักจะประสบกับปัญหาด้านการผลิตและการตลาด ทาง สอศ.มีนโยบายให้วิทยาลัยที่จัดสอนด้านเกษตรกรรม มีบทบาทเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ภาคเกษตรกรรมของชุมชน ผลักดันอาชีพเกษตรกรรมให้บังเกิดผลเป็นต้นกำเนิดของวัตถุดิบ เพื่อก้าวสู่การเป็นแหล่งผลิตอาหารที่สำคัญของโลกต่อไป
“เรารู้ว่าภาคเกษตรกรรมมีปัญหาด้านการผลิตและการตลาดมาหลายยุคหลายสมัย ดังนั้นจะให้วิทยาลัยที่สอนด้านเกษตร วิเคราะห์วิจัย ตลอดจนขบวนการผลิตเพื่อให้ผลผลิตได้คุณภาพ สามารถนำไปจำหน่ายภายในประเทศและต่างประเทศ ขณะเดียวกันยกระดับเกษตรกรให้รู้ขบวนการตลาด และนำผลิตผลด้านการเกษตรมาแปรรูป ให้เป็นสินค้าใหม่ วิธีการนี้จะเพิ่มมูลค่าให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มมากขึ้น”
รมช.ศธ.กล่าวต่อว่า การจัดประชุมครั้งนี้ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ เป็นองค์ประธานในพิธีเปิดงานในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา 13.00 น. และพระราชทานโล่ให้เกษตรกรในอนาคตดีเด่น พร้อมทั้งทอดพระเนตรนิทรรศการทางวิชาการ และประทับรับฟังการสัมมานาผลงานทางวิชาการเรื่องการศึกษาการใช้ปริมาณน้ำเยื่อฟักข้าวที่มีผลต่อการหุงข้าวของสมาชิก อกท.
ด้านนายเฉลียว กล่าวเสริมว่า กิจกรรมดังกล่าวเป็นกลไกสำคัญในการเชื่อมโยงวิชาการและกิจกรรมของ นักศึกษาอาชีวเกษตรเข้าด้วยกัน เพื่อให้มีความก้าวหน้าต่อการพัฒนางานในวิชาชีพเกษตรกรรม ซึ่งจะเป็นการเพิ่มศักยภาพ และมาตรฐานของผู้เรียนให้มีความเข้มแข็ง ทั้งทักษะวิชาชีพ และทักษะชีวิต ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ทาง อกท.จึงจัดการประชุมทางวิชาการในระดับชาติขึ้นทุกปีเพื่อเป็นเวทีให้นักศึกษาได้แสดงความคิดเห็นและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในระหว่างการประชุมเสวนา
นางสาวปรียานุช ขัดเรียน และ นางสาวรัตนชาติ วงศ์ศรีเบอะ นักศึกษาจากวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีลำพูน เล่าผลงานวิจัยเกี่ยวกับฟักข้าวให้ฟังว่า ฟักข้าวเป็นพืชพื้นเมืองที่คนส่วนใหญ่ แต่ไม่ค่อยให้ความสนใจ เนื่องจากไม่รู้วามีคุณประโยชน์อย่างไร เมื่อนำฟักข้าวมาวิจัย เราค้นพบว่าเป็นพืชที่มีคุณค่าทางโภชนาการและสรรพคุณทางยาสมุนไพร ภายในเมล็ดจะมีสารเบตาแคโรทีนปริมาณมาก ซึ่งสารเบตาแคโรทีนนี้มีสรรพคุณบำรุงสายตา และป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมาก จากผลการวิจัยทางคณะผู้ศึกษานำน้ำเยื่อหุ้มเมล็ดฟักข้าวในการทำข้าวแต๋น และนำมาหุงข้าว ฯลฯ