ขรก.หนาว เชื่อหลังผลสอบซานติก้าจบ มีชื่อจ่อคิวเชือดตรึม

คาดผลสอบข้อเท็จจริงซานติก้า ผับ ของ กทม.เหมือนของยุติธรรม แม้ขยายเวลาสอบไปอีก 15 วัน ขณะที่ ผอ.เขตวัฒนา-ปทุมวัน เข้ารายงานตัวแล้ว ปลัด กทม.เตรียมเรียก ผอ.เขตที่เหลือ กำชับไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ 2 ผอ.คาดหลังผลสอบสิ้นสุดมี ขรก.จ่อคิวถูกเชือดอีกหลายราย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) ลงนามในคำสั่งย้ายนายวรพจน์ อินทุลักษณ์ ผอ.เขตวัฒนา และนายสุรเกียรติ ลิ้มเจริญ ผอ.เขตปทุมวัน อดีต ผอ.เขตวัฒนา ให้มาช่วยราชการสำนักปลัด กทม.ชั่วคราว จนกว่าผลการสอบสวนของคณะกรรมการ กทม.กรณีเหตุเพลิงไหม้ซานติก้า ผับ จะมีข้อสรุปนั้น ล่าสุด ในวันนี้ (29 ม.ค.) ผอ.เขตทั้ง 2 ราย ได้เข้ารายงานตัวกับนางวรรณวิไล พรหมลักขโณ รองปลัด กทม.แล้ว

นายพงศ์ศักติฐ์ กล่าวถึงกรณีดังกล่าว ว่า ขณะนี้ถือว่าการสอบสวนของคณะกรรมการชุดที่มีนายชาตินัย เนาวภูต ผอ.สำนักการโยธา เป็นประธาน ยังไม่แล้วเสร็จสรุปออกมา เนื่องจากมีการขอขยายเวลาสอบเพิ่มอีก 15 วัน อย่างไรก็ตาม คงต้องรอให้คณะกรรมการสรุปรายงานผลสอบมาก่อน ซึ่งหากผลสอบของ กทม.สรุปความผิดสอดคล้องไปกับผลสอบของคณะทำงานจากกระทรวงยุติธรรม กทม.คงต้องมีการตั้งคณะกรรมการสอบวินัยขึ้นมาอีกครั้ง แต่หากไม่ผิดก็สามารถกลับมาปฏิบัติงานในตำแหน่งเดิมได้

นายพงศ์ศักติฐ์ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ตนได้พูดคุยกับ ผอ.เขตทั้ง 2 รายแล้ว และได้ชี้แจงทำความเข้าใจแล้วว่าการดำเนินการสั่งย้ายครั้งนี้ เป็นไปตามคำสั่งทางปกครอง เพื่อให้การดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงเป็นไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งตนเชื่อว่า ทั้ง 2 คน จะเข้าใจสถานการณ์ที่ต้องรับผิดชอบในฐานะเป็นหัวหน้าหน่วยงาน แต่ขอยืนยันว่า ในชั้นนี้ยังไม่ได้มีการกล่าวหาใคร คงต้องรอให้ผลการสอบสวนสิ้นสุดก่อน เมื่อถึงเวลานั้นคงจะมีเจ้าหน้าที่อื่นอีกที่ต้องรับผิดชอบ ขณะเดียวกัน ต่อกรณีที่เกิดขึ้นตนจะเชิญผู้อำนวยการเขตทั้ง 50 เขต มาประชุมเพื่อกำชับการปฏิบัติงาน เนื่องจากต้องยอมรับว่างานบางอย่าง ผอ.เขตอาจคิดไม่ถึง ปล่อยให้เจ้าหน้าที่ทำงานโดยไม่กำกับดูแล เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องในลักษณะนี้ซ้ำอีก

แหล่งข่าว กทม.กล่าวว่า สำหรับคำสั่งย้ายดังกล่าวนี้ สาเหตุมาจากคณะทำงานของกระทรวงยุติธรรม ได้ส่งสำนวนการสอบสวนมาให้ปลัด กทม.พิจารณา ซึ่งมีการระบุความผิดของเจ้าหน้าที่เขตอย่างชัดเจน 4-5 ประเด็น เช่น การละเลยปล่อยให้ผู้ประกอบการใช้อาคารผิดประเภท ไม่ดำเนินการตรวจสอบภายหลังว่ามีการเปลี่ยนแปลงอาคารพักอาศัยมาเป็นสถานประกอบการโดยไม่ได้รับอนุญาต มีการปลอมลายเซ็นของวิศวกรผู้ควบคุมการก่อสร้าง ไม่มีการเสียภาษีประกอบกิจการ เป็นต้น ทั้งนี้ เชื่อว่า ผลการสอบสวนของ กทม.จะเป็นไปในทิศทางเดียวกับของกระทรวงยุติธรรม เนื่องจากเพิ่งมีการแต่งตั้งคณะกรรมการจากกระทรวงยุติธรรมอีก 2 คน มาร่วมตรวจสอบในคณะนี้ด้วย และคาดว่า คณะกรรมการจะดะเนินการสอบสวนแล้วเสร็จภายใน 15 วัน จากที่ขอขยายเวลาสอบเพิ่มเติม และในวันที่ 30 ม.ค.นี้ คณะกรรมการได้นัดประชุมกันอีกด้วย